Blink Blink
Latest news
ChevroletUSA

รถ Chevy Bolt ไฟไหม้เป็นคันที่ 11 ทั้งๆ ที่ update software แบตไปแล้ว

ก่อนจะเข้าเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า Chevrolet Bolt EV ไฟไหม้เป็นคันที่ 11 นั้น ผมขอท้าวความความรับผิดชอบของ GM (General Motors) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Chevrolet กันก่อนนะครับ

GM ไม่เคยอยู่เฉยหรือนิ่งดูดายกับเรื่องนี้เลยครับ เค้าพยายามสร้างชุด software มา update ให้รถยนต์ไฟฟ้า Chevrolet Bolt EV อยู่เรื่อยๆ แล้วนี่ก็เป็นความโชคดีของคุณผู้อ่านทุกท่านครับ เพราะ Admin ดันโชคร้ายซื้อรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้มาครับ ทำให้ผมมีเรื่องราวจากประสบการณ์จริงมารีวิวให้ผู้อ่านได้เข้าถึงการให้บริการหลังการขายของ Chevrolet แบบถึงพริกถึงขิงกันเลยทีเดียวครับ

Recall รอบแรก : เปลี่ยน SoC จาก 100% เป็น 90 %

ยังไงผมก็ต้องขอท้าวความกันก่อนนะครับว่า GM ทำการ recall : Chevy Bolt มากกว่า 68,000 คัน เหตุจากไฟไหม้แบตเวลาชาร์จเต็ม 100% ไปเมื่อเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งข้อมูลที่มีอยู่ในตอนนั้นคือ National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA) ได้ทำการตรวจสอบเคสไฟไหม้รถยนต์ไฟฟ้า Chevrolet Bolt EV จำนวน 5 คันซึ่งรถทั้ง 5 คันจอดอยู่หน้าบ้านเฉยๆ ไม่มีการเสียบชาร์จแบตแต่อย่างใด โดยมีรถ 1 ใน 5 คันที่สามารถยืนยันสาเหตุการไหม้นั้นมาจากแบตเตอรี่ของ LG Chem โดยเค้าอ้างสาเหตุที่ทำให้แบตไฟไหม้มาจากการที่มี cell battery deflect(ไม่ปกติ)อยู่ในนั้นและถ้าชาร์จเต็ม 100% แบตเหล่านั้นจะสร้างความร้อนเกินออกมาเวลาไม่ได้ใช้งานและทำให้เกิดไฟไหม้ การแก้ไขปัญหาระยะสั้นนั้นคือการปรับ SoC (State of Charge) จาก 100% เป็น 90 %

ผมก็ได้เอารถไปที่ศูนย์ที่เพื่อการ update software โดยครั้งนั้น GM ได้เปลี่ยน SoC ของผมจาก 100% เป็น 90% ทำให้ Range (ระยะทางที่วิ่งได้)ของผมน้อยลงไปประมาณ 10 % หรือ 30 km ครับ

ระยะเวลาการซ่อมรอบนี้คือ 2 ชั่วโมงครับ ผมได้เอา laptop ไปนั่งเล่นที่ศูนย์ให้บริการระหว่างรอซ่อมด้วยครับ

Recall รอบสอง : เปลี่ยน SoC จาก 90% เป็น 95 % และลง software เชคสุขภาพแบต

จากนั้น GM ก็ได้ recall รถ Chevy Bolt เกือบ 70,000 คันกลับไปติดตั้งซอฟต์แวร์ตรวจหาความผิดปกติของแบตฯเพื่อป้องกันไฟลุกไหม้ ณ เดือนพฤษภาคม 2564 เพื่อนำรถกลับไปเพื่อทำการ update software ให้รถเปลี่ยน SoC จาก 90% เป็น 95% โดยเค้าได้ติดตั้ง software ตรวจสอบ module ต่างๆของ Battery pack ใหญ่ครับ

ระยะเวลาการซ่อมรอบนี้คือ 2 ชั่วโมงครับ อย่างไรก็ตาม ผมได้ทำคลิปกับคุณ Well ช่อง Welldone gaurantee เอาไว้ตรงนี้ด้วยครับ

Recall รอบสาม : เปลี่ยน SoC จาก 95% เป็น 100% และทำการ วินิจฉัยแบตแบบเรียง cell

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานั้น ผมก็ได้รับ Recall ครั้งที่สาม ตอนนี้ผมเริ่มสงสัยแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับรถผมแน่น่ะ เพราะว่าค่ายอื่น recall รอบเดียวก็จบแล้ว อย่าง Tesla ไม่เคย recall เพื่อ update software เลย ส่วนใหญ่ก็ยิง update patch ขึ้น cloud แล้วก็ทำการ update ผ่าน OTA(Over The Air) ไปเลยครับ

มารอบนี้เค้าได้ทำการ inspect (ตรวจวินิฉัย)แบตผมแบบเรียง cell ซึ่งเค้าบอกว่าใช้ระยะเวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมงในการตรวจสอบเซลแบตเตอรี่ต่างๆ จากนั้นก็ลง software ใหม่ให้กับ hpcm2 และ bcm(battery control module) จากนั้นเค้าจะทำการชาร์จรถผมให้เต็มและไปขับทดสอบครับ

ระยะเวลาการซ่อมรอบนี้คือ 1 วันครับ ผมต้องทิ้งรถเอาไว้กับเค้าเพื่อทำการ update (อัพเดท)และ diagnosis (วินิจฉัย)ครับ

เอาล่ะครับ กลายเป็นว่า ที่ผ่านมาประมาณ 8 เดือนนี้ GM เรียกรถคืนไปซ่อมทั้งหมด 3 รอบด้วยกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นรถยนต์ไฟฟ้า Chevrolet Bolt EV นั้นก็ยังมีข่าวออกมาว่าจอดเฉยๆ แล้วไฟไหม้อยู่ดีครับ

รถ Bolt ที่ไหม้เป็นรถของ สส. อเมริกา

รอบนี้คนที่ซวยเป็น คุณ Tim Briglin [สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดโมแครตจากรัฐ Vermont(เวอร์มอนท์)] ซึ่งเค้าได้นั่งเก้าอี้ chairman ณ Vermont House Committee on Energy and Technology หรือจะเรียกได้ว่าเค้าเป็นผู้นำในการรณรงค์ให้คนหันไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าและติด solar cell กันมากขึ้นนะครับ แต่กลับกลายเป็นว่ารถของเค้าดันมาไหม้คาบ้านตัวเองซะงั้นเลยครับ

รูป : คุณ Tim Briglin [สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐ Vermont(เวอร์มอนท์)] กำลังยืนขึ้นเพื่ออภิปรายร่างกฏหมายสิ่งแวดล้อม(Climate key) ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2563

ส่วนนี่คือบทสัมภาษณ์ของคุณทิมกับ electrek(เว็บรถยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของโลก)ครับ

คุณทิมได้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า 2019 Chevrolet Bolt EV มาในเดือนพฤศจิกายน 2563 เค้ารักรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้มากๆครับ ตั้งแต่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้มา เค้ายังไม่เคยเจอปัญหาใดๆหรือเข้าศูนย์เพื่อไปซ่อมบำรุงแม้แต่ครั้งเดียว เว้นแต่ต้องเอารถไปทำการ recall update software ซึ่งทุกครั้งที่มี recall ออกมา เค้าก็จะรีบเอารถเข้าศูนย์เพื่อไป update software ทันทีครับ โดย recall ครั้งสุดท้ายนั้นเค้าได้เอารถเข้าไปที่ศูนย์ให้บริการ ณ วันที่ 9 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมาซึ่งรถเค้าเพื่อขับไปได้เพียง 38,264 ไมล์หรือ 61,222 km เองครับ แล้วนี่ก็ถือว่าเป็นเคสเลขไมล์ต่ำที่สุดและเป็นรถปี(ผลิต)ใหม่ที่สุดที่เกิดเหตุไหม้นะครับ

เหตุการณ์ก่อนไฟไหม้

คุณทิมได้ให้สัมภาษณ์กับ electrek อีกว่า เค้าก็ขับรถกลับมาที่บ้านประมาณ 1 ทุ่ม ณ วันพุธที่ 30 มิถุนายน 2564 และจอดเอาไว้ตรงหน้า garage(ประตูโรงรถ)บ้านตนเอง จากนั้นเค้าก็เข้าบ้านเอาของไปเก็บและทำธุระอื่นๆ จนกลับมาที่รถตอน 2 ทุ่มเพื่อทำการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Chevy Bolt ของเค้า เค้ายังจำได้เลยว่าตอนเสียบที่ชาร์จเข้าไปนั้น สถานะแบต(SoC) ของเค้าเหลือเพียง 10 % เท่านั้น ซึ่งพอเสียบที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเข้าไปปุ๊บหน้าจอของรถก็แสดงผลว่ารถจะชาร์จเต็มตอนตี 4 ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เค้าทำเสมอ

ประมาณช่วงตอน 6 โมงครึ่ง(ตอนเช้า) เค้าถูกปลุกด้วยเสียงพัดลมที่ทำงานอย่างหนัก (“very loud sucking noise”) แถวห้องนั่งเล่น(living room) พอเค้าชะเง้อออกไปดูนอกบ้านก็เห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้า Chevrolet Bolt ของเค้าพ่นควันออกมาจากทางด้านหลังของรถ คราวนี้ alarm(ระบบแจ้งเตือน)ภายในบ้านก็ดังขึ้น เค้าตัดสินใจวิ่งไปที่รถเพื่อดึงที่ชาร์จรถออก จากนั้นก็รีบโทรไปหา 911 (เบอร์แจ้งภัยไม่ว่าจะเป็นโดนปล้นรถ, หรือไฟไหม้บ้านก็ใช้เบอร์นี้)

คุณทิมบอกว่า พนักงานดับเพลิงมาถึงบ้านของเค้าภายใน 10 นาทีหลังจากที่เค้าได้โทรแจ้งความไป

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอเมริกามาพร้อมอุปกรณ์ไฮเทค

สิ่งที่ทำให้คุณทิมอึ้งคือ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่มาถึงบ้านเค้านั้น พอรู้ว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้า พวกเค้าก็ต่อสายดับเพลิงแล้วฉีดน้ำอัดเข้าไปยังห้องโดยสาร แถมเค้าเอาเครื่องมือไฮเทคซึ่งนั่นก็คือ heat-sensing camera หรือกล้องตรวจความร้อนซึ่งกล้องตัวนี้จะแยกความร้อนออกเป็นระดับต่างๆได้ดี

The fire department was absolutely outstanding. They are volunteers, and knew exactly what to do to minimize damage.

แปล – หน่วยงานดับเพลิงนั้นทำงานได้สุดยอดอย่างมาก พวกเค้าเป็นอาสาสมัครทั้งนั้นแต่รู้วิธีการจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างง่ายดาย

คุณ Tim Briglin [สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐ Vermont(เวอร์มอนท์)] ได้กล่าวเอาไว้

ถ้ามองเปลวไฟด้วยตาเปล่านั้นเราจะเห็นว่าไฟลุกไหม้เท่ากันทั้งหมด แต่ถ้ามองผ่านกล้องตัวนี้แล้วล่ะก็เราจะสามารถเห็นว่าจุดที่ไฟลุกไหม้นั้นมาจากตรงไหนครับ ยกตัวอย่างง่ายๆ ดังรูปด้านล่างคือ ไฟไหม้อย่างเห็นได้ชัดแต่เราไม่เห็นว่าไฟไหม้จากตรงไหน แต่ถ้าเราปรับตัวตรวจจับอุณหภูมิให้สูงขึ้น เราจะจำกัดวงของไฟไหม้ได้ว่ามาจากส่วนไหนครับ

เอาล่ะครับ มาต่อกันที่ว่า พอเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเห็นว่าต้นเหตุไฟไหม้ของรถคันนี้มาจากจุดไหนแล้ว(โดยเค้าจะหาจุดที่ร้อนที่สุดของเพลิงครั้งนี้) จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ระดมยิงน้ำใส่ตรงจุดนั้นเพื่อไม่ให้เปลวไฟจากแบต module นั้นกระจายตัวออกไปไหม้แบต module อื่นๆ ของรถครับ โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไหม้ได้ในระยะเวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้นครับ จากนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิง(ดูเหมือนถูกฝึกมาเลย)ก็ทำการเปิดน้ำทิ้งเอาไว้ใส่รถ Chevy Bolt คันนี้เพื่อลดอุณหภูมิของแบตทั้งคันครับ

ถ้าทุกท่านสังเกตุคือ ภาพด้านล่าง(แรก)นี้จะเป็นเคสไฟไหม้รถ Bolt EV เมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมาซึ่งจะเห็นได้ว่าไหม้เกือบหมดทั้งคัน

ส่วนภาพด้านล่างนี้เป็นภาพรถยนต์ไฟฟ้า Chevrolet Bolt รุ่นเดียวกันแต่ได้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่มีประสบการณ์ในการดับเพลิงและมาถึงหน้างานเร็วกว่ากำหนดทำให้สามารถลดความเสียหายของตัวรถได้ขนาดนี้ครับ

รถ Bolt คันนี้เป็นคันที่ 11 ที่เกิดไฟไหม้

อย่างที่ผมเคยเขียนข่าวไปก่อนหน้านี้นะครับ รถยนต์ไฟฟ้า Chevrolet Bolt นั้นไฟไหม้มาทั้งหมด 10 คันแล้วครับ โดยคันนี้เป็นคันที่ 11 ครับ ก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์เดียวกันเกิดขึ้นที่ต่างประเทศ 2 คัน และเกิดขึ้นในอเมริกาทั้งหมด 8 คัน(ตามรายงานของ NHTSA) โดยทั้ง 7 คันที่ไหม้นั้นเป็นรถที่ผลิตในปี 2019 ซึ่งการผลิต lot นั้นมีรถที่ผลิตในปีนั้นทั้งหมด 14,371 คันโดยทุกคันใช้แบต LG Chem จากบริษัท LG Energy ซึ่งเป็นแบตที่ผลิตในเกาหลีใต้ทั้งหมดครับ

ถ้านับเป็นตัวเลขสถิติแล้วแปลว่าถ้า GM ผลิตรถ Chevrolet มา 100,000 คันจะไหม้ประมาณ 49 คันแล้วครับ

LG Energy คือใคร?

บริษัท LG Energy คือบริษัทผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตแบตให้ค่ายรถยนต์ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น Tesla , Chevrolet, Kia, Hyundai และค่ายอื่นๆ อีกมากมาย

จริงๆ แล้ว ถ้าสืบสาวต้นตอการผลิตแบตเตอรี่ที่มีปัญหาล๊อตนี้(ตั้งแต่ปี 2017-2019) จะเห็นได้ว่า รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตล๊อตนี้ได้แก่ Hyundai Kona EV กับ Chevrolet Bolt ครับ

สรุปไฟไหม้แบตเกิดจากอะไร?

โดย Hyundai ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ได้มาจาก LG Energy ไหม้นั้นเกิดจากเดนไดรต์ (Dendrite)หรือสัญญาณทางไฟฟ้าเคมีซึ่งมันจะเกิดขึ้นระหว่างขั้วบวกกับขั้วลบภายในแบตนั้นเชื่อมต่อกันทำให้เกิดการ ark(ไฟช๊อต)เป็นระยะเวลาหนึ่ง

เส้นทางการเดินทางของ electrolyte เวลามีการใช้ไฟ(Discharging)

ตัว electrolyte จะเดินทางจาก Cathode (ขั้วบวก)ไปยัง Anode(ขั้วลบ) โดยผ่าน separator (แผงกั้นเพื่อป้องกันไฟรั่วไหลจนช๊อต)ซึ่งเค้าจะทำการรับ Electrolyte(ประจุไฟ)ทีล่ะหน่วยแบบนี้

เส้นทางการเดินทางของ electrolyte ติดขัดเพราะ..

ถ้าเวลาที่เราทำการใช้ไฟรถหรือชาร์จไฟรถแล้วตัว electrolyte มันเดินทางไปกระจุกอยู่ตรงขั้วลบแบบนี้ มันจะสร้าง dendrites หรือสัญญาณทางไฟฟ้าเคมีแบบนี้ขึ้นมาและเป็นสะพานไฟระหว่างขั้วลบและขั้วบวกหากันแบบนี้

ที่มา : electrek

ถ้าจะตีความให้ง่ายกว่านี้ก็เหมือนเรากดปุ่มเปิดเครื่องช๊อตไฟฟ้า ซึ่งหลักการการทำงานก็เหมือนการช๊อตด้านบนนี้ครับคือเค้าปล่อยประจุขั้วบวกและลบวิ่งเข้าหากันเลยเกิดความร้อนและหน้าตาช๊อตแบบนี้ครับ

โดยฮุนไดออกมาชี้แจ้งสาเหตุการที่ไฟลุกไหม้รถยนต์ไฟฟ้า Hyundai Kona นั้นมาจากการจัดเก็บ Battery Tab ไม่ดีนั่นเองครับ

ซึ่งทางฮุนไดได้ออกมายอมรับผิดและทำการเปลี่ยนแบตให้กับรถยนต์มากกว่า 82,000 คันของ Hyundai เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยรถยนต์ไฟฟ้าเหล่านั้นได้แก่  Kona EV, Ioniq, และ รถบัส Elec City เป็นต้น

BLINK DRIVE TAKE

GM ควรออกมารับผิดชอบมากกว่านี้?

ความเสียหายของ Chevrolet Bolt EV นั้นเกินกว่าที่ recall update software จะช่วยได้แล้วล่ะครับ นี่เล่นไหม้ไป 11 คันแล้วแต่กลายเป็นว่า สิ่งที่ GM ทำนั้นได้แต่ update software สำหรับ “advanced onboard diagnostic software” ซึ่งต้องเรียกลูกค้าเอารถเข้าไปซะงั้น แทนที่จะ update software แบบ Tesla เสียทีครับ จริงๆ นี่มันปี 2021 แล้ว มันยุค IoT กันแล้ว Porsche Taycan และ Chevrolet Bolt ควรจะมีฟังชั่นการ update Software ผ่าน OTA (Over The Air) เสียทีนะครับ

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ อเมริกามีระเบิดเวลาเคลื่อนที่มากถึง 70,000 คัน(chevrolet Bolt)วิ่งรอบประเทศอยู่แหละครับ ฮ่าๆ และผมก็เป็นหนึ่งในระเบิดเวลาอันนั้น ยังไงเดี๋ยวผมจะมา update ให้อ่านกันอีกรอบในเดือนหน้าว่า GM จะออกมาตราการอะไรมาช่วยเหลือผู้ใช้งาน Chevrolet Bolt ตั้งแต่ปี 2017 – 2019 (รุ่นที่มีปัญหาแบต deflect(ไม่ปกติ)) ดูนะครับ

แต่ถ้า GM ตัดสินใจซ่อมเหมือนที่ ฮุนไดทำจริงๆ คือ recall เพื่อกลับไปเปลี่ยนแบตนั้น GM จะเสียเงินประมาณ 228 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 13,680 ล้านบาทครับเทียบเท่ากับ 3 % ของกำไรทั้งปีของ GM ครับปีที่แล้ว GM กำไรสุทธิ 8 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือ 2.4 แสนล้านบาท ส่วนรายได้ปีที่แล้วตกอยู่ที่ 1.4 แสนล้านเหรียญสหรัฐหรือ 4.2 ล้านล้านบาทครับ

หมายเหตุ : electrek ได้คำนวณค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตจากจำนวนรถที่มีปัญหาทั้งหมดก็ประมาณ 60,000 – 70,000 คันครับ

เอาใจช่วยรถบีเวอร์น้อยของผมด้วยครับ ^^

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

ส่งข้อมูลที่น่าสนใจและอยากให้แปลมาได้ที่ THE FORTRESS

Follow by Email