Blink Blink
Latest news
NewsreportReport

ยอดขายรถ EV ทั่วโลกเดือนพฤษภาคม 2564 เติบโตขึ้นถึง 4.4 % (295,000 คัน)

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) ของเดือนพฤษภาคม 2564 นั้นเติบโตขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2563 ถึง 199% (เทียบเดือนต่อเดือน) ซึ่งเดือนพฤษภาคม 2564 นี้ถือว่าเป็นเดือนที่มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าสูงเป็นอันดับ 3 ของปีนี้แล้วครับ

อย่างไรก็ตาม ถ้ามองยอดขาย plug-in หรือรถยนต์เสียบปลั๊ก ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ PHEV(Plug-in hybrid) หรือรถยนต์ไฟฟ้า(BEV) นั้นจะเห็นว่าได้ว่ายอดขายทั้งสองรวมกันนั้นเทียบเท่ากับ 6.6% ของยอดขายรถยนต์ทั้งโลกครับ

  • BEVs(รถยนต์ไฟฟ้า) : 295,000 (4.4%)
  • PHEVs(รถยนต์น้ำมัน Plug-in Hybrid) : 147,000 (2.2%)

ถ้าลองดูตัวเลขดีๆ จะเห็นได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้า (BEV) นั้นขายดีกว่ารถยนต์น้ำมัน Plug-in Hybrid ถึง 2 เท่า ส่วนสาเหตุที่เค้าเอารถยนต์น้ำมัน Plug-in Hybrid มารวมกับรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) เพราะว่ามันเสียบปลั๊กได้ซึ่งฝรั่งเค้าอนุโลมให้เหมารวมได้ครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะเห็นได้ว่ายอดขายของรถยนต์ไฟฟ้าในต่างประเทศนั้นสูงกว่า Plug-in hybrid ถึง 2 เท่าจริงๆครับ

รถยนต์ Plug-in ที่ขายดี 10 อันดับแรกในโลก ณ เดือนพฤษภาคม 2564

  1. Tesla Model 3 – 30,874 คัน(พฤษภาคม 64) 172,672 คัน(ทั้งปี 2564)(#1)
  2. Tesla Model Y – 29,378 and 101,674 YTD (#3)
  3. Wuling‘s Hong Guang MINI EV – 26,742 and 152,667 YTD (#2)
  4. Volkswagen ID.4 – 8,529 and 26,271 YTD (#5)
  5. Changan Benni EV – 8,371 (22,819 YTD #12)
  6. Volkswagen ID.3 – 6,227 and 23,929 YTD (#10)
  7. Renault ZOE – 6,020 and 22,987 YTD (#11)
  8. Toyota Prius Prime – 5,850 and 20,096 YTD (#20)
  9. BYD Han EV – 5,764 and 32,865 YTD (#4)
  10. Hyundai Kona Electric – 5,241 and 24,914 YTD (#7)

ถ้าว่ากันเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าก็เดาได้ไม่ยากครับว่าที่หนึ่งของโลกนั้นคือ Tesla Model 3 เช่นเคย แต่ที่แปลกใจคือ ที่สองของโลกก็เป็น Tesla Model Y จริงๆ ซึ่งบอกตามตรงว่า Tesla Model Y ขายเพียงไม่กี่ประเทศบนโลกเท่านั้นครับ ที่แน่ๆ คือ อังกฤษกับฮ่องกงยังไม่สามารถเป็นเจ้าของ Tesla Model Y กันได้เลยครับ ดังนั้นผมคิดว่า ถ้า Tesla ผลิต Model Y ให้ทันความต้องการจริงๆ Tesla Model Y มีสิทธิ์แซง Tesla Model 3 ที่ผลิตส่งเกือบทุกประเทศทั่วโลกครับ

อีกค่ายนึงที่ตาม Tesla มาติดๆ คือ Wuling’s Hong Guang MINI EV ซึ่งกัปตัน DIY ได้เคยไปทดสอบขับมาเรียบร้อยแล้วนะครับ ในเมืองจีนนั้น Wuling ถือว่าเป็น hot cake (สินค้าขายดี)เลยทีเดียว เนื่องด้วยค่าตัวที่สามารถคบหาได้(ราคาเพียง 135,000 บาท ที่จีน) ทำให้ยอดขาย Wuling Hong Huang MINI EV นั้นกระโดดมาเป็นที่ 3 ของโลกโดยไม่ยากเลยครับ

ส่วนอีกคันคือ Volkswagen ID.4 ซึ่ง Volkswagen บอกว่าจะทำรถคันนี้มาเป็น Tesla Model 3 Killer นะครับ ยังไงก็จับตามดูกันครับ อย่างไรก็ตามผมทิ้งข้อมูลยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2564 เอาไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ

ที่มา : Insideevs

BLINK DRIVE TAKE

ถ้าสังเกตุดูกราฟด้านบนดีๆ พวกท่านจะเห็นรถยนต์ญีปุ่นแค่รุ่นเดียวและยี่ห้อเดียวที่ติด Top10 ของรายเดือนพฤษภาคม ซึ่งก็คือ Toyota Plug-in Hybrid (prius prime) เป็นรถยนต์น้ำมัน Hybrid แบบเสียบปลั๊ก ส่วนรายปีนั้นยอดขายรุ่นดังกล่าวหายไปเลย นั่นก็แปลว่าเค้าไม่ได้สนใจเรื่องการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าหรือขายเลยครับ

จริงๆ พี่ไทยควรจะเริ่มมองตัวเลขยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในต่างประเทศแล้ว ลุกขึ้นมาสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้แล้วครับ แต่อย่างว่าคือ ไทยเรานั้นมีโครงสร้างอุตสาหกรรมรถยนต์น้ำมันที่อยู่มายาวนานกว่า 50 ปี ดังนั้นการจะขยับเขยื้อนเปลี่ยนอุตสาหกรรมเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเลยใช้เวลามากกว่าประเทศอื่นๆ ที่ไม่ได้มีข้อผูกมัดอะไรกับผู้ผลิตรถยนต์ โดยเฉพาะค่ายญี่ปุ่นที่เป็นค่ายเดียวบนโลกในตอนนี้ที่รั้งท้ายเรื่องการพัฒนาและขายรถยนต์ไฟฟ้า ดังนั้น ไทยมีสิทธิ์สูงที่จะเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของการผลิตรถยนต์น้ำมันก็เป็นได้ครับ

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

ส่งข้อมูลที่น่าสนใจและอยากให้แปลมาได้ที่ THE FORTRESS

Follow by Email