แม้ว่าตอนนี้รถแบบ SUV และ Crossover ทั้งแบบไฟฟ้าและไม่ไฟฟ้า จะเป็นเทรนด์ของโลกรถยนต์ แต่ดูเหมือนว่า BMW i4 รุ่นล่าสุดซึ่งเป็นรถซีดาน 4 ประตูจะได้รับความนิยมมากกว่า SUV อย่าง BMW iX เสียอีก
ตามรายงานของ i4Talk.com รถยนต์ BMW i4 มียอดจองไปแล้ว 2,095 คันในสหรัฐอเมริกาเมื่อต้นสัปดาห์ ในขณะที่ BMW iX มียอดจองไม่ถึง 1,000 คัน (ตามรายงานอยู่ที่ 952 คันเท่านั้น)
BMW i4 ไม่ใช่รถที่สร้างมาเป็น EV ตั้งแต่ต้น แต่เป็นรถรุ่นที่ใช้น้ำมันดัดแปลงมาให้เป็น EV โดยเป็นเวอร์ชั่นไฟฟ้าของรุ่น 4 Series Grand Coupe
ราคาขาย BMW i4 ที่ต่างประเทศ
รุ่น i4 กลายเป็นรถที่เป็นคำตอบของ BMW ในการวางตัวเป็นคู่แข่งของ Tesla Model 3 โดยมีราคาเริ่มต้นในสหรัฐอเมริกาที่ 55,400 ดอลล่าร์สหรัฐ(1,778,894 บาท) และราคาเริ่มต้นในยุโรปที่ 60,000 ยูโร (2,291,151 บาท) ซึ่งราคาดังกล่าวจะแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ BMW i4 ได้รับความนิยม คือ ราคาที่ต่ำกว่า BMW iX โดยราคาของ BMW iX เริ่มต้นที่ 83,200 ดอลลาร์สหรัฐ (2,670,844 บาท) แต่ราคาอาจจะทะลุ 100,000 ดอลล่าร์ (3,210,150 บาท) ถ้าเลือกรุ่นที่สูงขึ้นหรือเพิ่มออฟชั่นในตัวรถ ราคาของ BMW iX ในเยอรมันเริ่มต้นที่ 77,300 ยูโร (2,948,917 บาท) และจะเพิ่มขึ้นเมื่อเลือกรุ่นที่สูงขึ้นเช่นเดียวกับในสหรัฐ
สเปค BMW i4
- รุ่นธรรมดา
- ขับเคลื่อนล้อหลัง
- อัตราเร่ง 0-100 ใช้เวลา 5.7 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 190 km/h
- ระยะทางขับขี่ 590 km ต่อชาร์จ
- รุ่น performance
- ขับเคลื่อน 4 ล้อ (มอเตอร์ 2 ตัว[หน้า, หลัง])
- อัตราเร่ง 0-100 km/h ใช้เวลา 3.9 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 225 km/h
- ระยะทางขับขี่ 510 km ต่อชาร์จ
BLINK DRIVE TAKE by veexeezee
ความคุ้มค่า
ความนิยมในรถไฟฟ้ารุ่นต่างๆเริ่มมีมากขึ้นทั่วโลก แต่สิ่งสำคัญที่จะบอกได้ว่ารุ่นไหนจะเป็นที่นิยม หรือสามารถทำตลาดได้มักจะมีปัจจัยอยู๋ไม่กี่อย่าง
หนึ่งในนั้นคือ ความคุ้มค่า
คำว่าคุ้มค่า ไม่จำเป็นต้องมีราคาถูก แต่หมายถึงเหมาะสมกับราคาที่ผู้ซื้อยอมจ่าย ดังเช่น Tesla Model 3 เป็นต้น
ในไทยก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีใครกล้าใช้รถยนต์ไฟฟ้า เพียงแต่ยังไม่มีรุ่นที่มีความคุ้มค่าให้เลือกมากพอ (ปัจจุบันมีเพียง MG ZSev และ MG EP เท่านั้นที่ราคาอยู่ใน range ที่คนเอื้อมถึง) รุ่นที่คุ้มค่าในต่างประเทศ พอมาถึงไทยก็กลายเป็นรุ่นที่มีราคาแพงเกินไป จากกำแพงภาษีที่ไม่ผ่อนปรนให้รถยนต์รักษ์โลกเหล่านี้หรือรุ่นที่ราคาถูกในไทย เช่น Fomm ก็ไม่สามารถนับได้ว่าคุ้มค่า เพราะยังห่างไกลจากการใช้งานแบบรถยนต์จริงๆ
สุดท้ายก็คงต้องรอ อาจจะรอวันที่มีการปรับภาษีลง หรือรอวันที่มีการตั้งฐานผลิต EV ในไทย หรือรอวันที่ทั่วโลกใช้รถ EV กันหมดแล้ว และเราต้องยอมถอนทุกอย่างที่ตั้งเงื่อนไขกีดกันไว้ เพื่อไม่ให้กลายเป็นประเทศที่ใช้รถเชื้อเพลิงน้ำมันแห่งท้ายๆในโลก
