Blink Blink
Latest news
Concept CarEV CarsNissanSUV

รถยนต์ไฟฟ้า Nissan IMs Concept

หลังจากที่ Infiniti โดน Tesla ดึงยอดขายอย่างหนักติดต่อกัน 4-5 เดือนที่ผ่านมานี้ ทางค่ายหลัก Nissan ก็ได้หยิบกลยุทธ์ตอบโต้กลับโดยส่ง Infiniti QX inspiration กับ Nissan IMs เข้าศึกสงครามรถยนต์ไฟฟ้า(EV Car) ในตลาดอเมริกาและยุโรปน่ะครับ

รูปภาพ : รถยนต์ไฟฟ้า Infiniti QX

ในขณะที่ผู้คนปลื้มปิติกับยอดขายของ Tesla Model 3 นั้น ผมอยากจะบอกว่า Nissan นั้นขายรถยนต์ไฟฟ้าไปมากกว่า 380,000 คันในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาน่ะครับ

ดังนั้น การที่ Nissan จะหันมาจริงจังกับรถยนต์ไฟฟ้า IMs concept อีกซักรุ่นจะเป็นอะไรไปครับ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ การออกแบบรถยนต์ไฟฟ้า Nissan IMs คันนี้ดันคล้ายกับการออกแบบรถยนต์ไฟฟ้า Cadillac เป๊ะ เรียกว่า ออกมาแบบมาเหมือนกันอย่างกับแกะเลย

รูปภาพ : ซ้ายบน คือ Cadillac , ขวาล่างคือ Nissan IMs

Nissan IMs คันนี้ถูกเปิดตัวเมื่อ 4 วันก่อนที่งาน auto show attendees ณ เมือง Detroit(ดีทรอย) ประเทศสหรัฐอเมริกา

โดย IMs ย่อมาจาก Intelligent Mobility Sedan หรือ อัจฉริยะทางการขับขี่แบบซีดาน(รถ 4 ประตู) ซึ่งรถ Nissan IMs คันนี้คือ CUV (Crossover Utility Vehicle) ซึ่งอยู่ใน section เดียวกันกับ Honda CR-V บ้านเรานั่นเองครับ

ห้องโดยสารภายในรถ (Interior)

การออกแบบที่นั่งของรถ Nissan IMs คันนี้ เป็นแบบ 2+1+2 ซึ่งที่นั่งในรถสามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นแบบ 3 ที่นั่งกับ 5 ที่นั่งตามรูปด้านล่างนี้น่ะครับ

รูปภาพ : เบาะหลังแบบ 3 ที่นั่ง
รูปภาพ : เบาะหลังแบบ 1 ที่นั่งหรือ King Seat (ที่นั่งพระราชา)

การออกแบบที่นั่งแบบ King Seat หรือเก้าอี้พระราชาแบบนี้ เอาใจเศรษฐีเอเชียไปเต็มๆ ครับ เพราะเค้าเข้าใจว่า เศรษฐีเอเชียนั้นชอบซื้อรถไปนั่ง ไม่ได้ซื้อรถไปขับ ดังนั้นการออกแบบที่นั่งแบบนี้จึงตอบโจทย์ CEO หลายท่านแน่นอนครับ

รูปภาพ : เก้าอี้ทุกที่นั่งภายใน Nissan IMs

ความหรูหราของรถยนต์ไฟฟ้า Nissan IMs ยังไม่จบแค่นั้นน่ะครับ การออกแบบประตูแบบ coach door อันโด่งดัง ให้ความรู้สึกหรูหราดั่งรถ Rolls Royce Phantom ไงครับ

รูปภาพ : ประตู coach door ของรถยนต์ Rolls Royce
รูปภาพ : ประตู Coach door ของ Nissan IMs

แต่ที่แตกต่างกันก็คือ รถยนต์ไฟฟ้า Nissan IMs นั้นไม่มีเสา B pillar ตรงกลางรถมาให้เหมือน Rolls Royce ดังนั้นการเข้าออกรถของ Nissan IMs นั้นจะสะดวกสบายกว่ารถ Rolls Royce แน่นอน

รูปภาพ : Coach Door เต็มๆของ Nissan IMs
รูปภาพ : king seat กับ coach door

ส่วนสาเหตุที่ Nissan ออกแบบรถยนต์ไฟฟ้า IMs คันนี้ให้มีที่นั่งแบบ King Seat นั้นก็เพราะว่า รถคันนี้อาจจะรองรับ Autonomous driving หรือ self-driving (ระบบขับเอง) level 4 แน่นอนครับ ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ที่นั่ง King Seat อันนี้ก็คือที่นั่งคนขับแหละครับ เพราะการสั่งงานทุกอย่างจะเปลี่ยนเป็นการสั่งงานด้วยเสียง ไม่ต้องแตะพวงมาลัย และไม่ต้องเหยียบเบรคหรือคันเร่งเพื่อควบคุมรถครับ

อ้างอิง : https://cleantechnica.com/2019/01/16/nissan-infiniti-showcase-electric-car-concepts-at-naias/

วิดีโอ สาธิตการใช้งาน Autonomous Driving ของ Nissan IMs

รายละเอียดต่างๆ ของรถยนต์ไฟฟ้า Nissan IMs คันนี้

ราคา : N/A

วางจำหน่าย : N/A (รถ concept car)

ล้อ/ยาง : ล้อแม๊คขนาด 22 นิ้ว มาพร้อมยาง Michelin 255/40R22 performance

ระบบช่วงล่าง : เป็น Air suspension ปรับระดับความสูงและการขับขี่ได้แบบ Tesla

ฐานล้อ : 114 นิ้ว (2,900 มิลิเมตร)

ยาว : 190 นิ้ว (4,845 มิลิเมตร)

สูง : 59 นิ้ว (1,500 มิลิเมตร)

กว้าง : 74 นิ้ว (1,900 มิลิเมตร)

แบตเตอร์รี่ : 115 kWh battery

ระบบขับเครื่อง : มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 360 kW (483 แรงม้า)

ระยะทางที่วิ่งได้จากการชาร์จ 1 ครั้ง : 611 km(380 miles)

Blink Drive Take

ผมบอกตามตรงว่า ผิดหวังนิดๆ ที่ Nissan หมดเวลากับทรัพยากรไปกับการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ (Concept Car) แบบนี้น่ะครับ อันที่จริง ผมไม่มีปัญหาอะไรเลยกับคำว่า Concept car แต่สิ่งที่ผู้บริโภคอยากเห็นหลังจากบริษัทพูดเกี่ยวกับ Spec รถเสร็จแล้วคือ วันจำหน่ายกับราคาขาย แต่การที่คุณเอานักข่าวแต่ล่ะสำนักมาชุมนุมกันแล้วทำการเปิดตัวรถเพื่อที่จะประกาศบอกว่า กูนี่แหละเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีน่ะ ไม่ใช่ Tesla หรือ Lucid Air แต่พอนักข่าวยิงคำถามว่า จะวางขายเมื่อไหร่ ทาง Nissan บอกว่าแค่ว่า นี่เป็น Concept Car

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ผมชอบการออกแบบรถคันนี้มากๆ เลย เรียกได้ว่า ล้ำเอามากๆ ถ้าเอารถคันนี้ออกมาขายที่ไทยคันล่ะ 10 ล้านบาทล่ะก็ พวกเศรษฐีไล่ซื้อกันเป็นแถว เพราะชาร์จครั้งนึง รถคันนี้สามารถวิ่งจาก กทม. ไปถึง ลำพูนได้สบายๆ แถมเทคโนโลยีการชาร์จสมัยนี้มันก้าวไกลไปมาก เมื่อวานก่อนผมรีวิว Audi PB18 e-tron ที่ชาร์จเต็ม 100 % ภายใน 15 นาที ดังนั้น รถคันนี้อาจจะตอบโจทย์เศรษฐีทุกท่านแหละครับ

ยังไงก็ตามแล้ว การที่ Nissan เปลี่ยนแปลงการออกแบบ concept car จาก ICE car มาเป็น EV car ก็เป็นตัวชี้วัดได้แล้วว่าตลาดรถยนต์ EV Car นั้นครองใจคนรุ่นใหม่และคนรวยกันหมดแล้วครับ

การที่ออก concept car แบบนี้มาก็มีข้อดีเหมือนกันน่ะครับ เพราะ Nissan leaf ที่เป็น production car ณ ปัจจุบัน จะสามารถเอาเทคโนโลยีบางส่วนของ Concept Car คันนี้ไปใช้งานใน version ต่อๆ ไปครับ

Follow by Email