Blink Blink
Latest news
TeslaUSA

รีวิวชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั้งแบบไฟธรรมดา(AC)และแบบด่วน(DC Fast Charge) โดยคนไทยที่อังกฤษ

สวัสดีครับ วันนี้ผมพาแฟนเพจ Blink Drive ทุกท่านบินตรงไปยังเมืองลอนดอนประเทศอังกฤษเพื่อดูรีวิวการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model Y นะครับ

ข้อมูลวิดีโอต่างๆ นี้ได้มาจากคุณสันต์ซึ่งเป็นสมาชิกเพจ Blink Drive ครับ จริง ๆ เค้าติดต่อผมมาตั้งแต่ก่อนรับรถ Tesla Model Y คันนี้แล้วนะครับว่า เค้าจะเอารถ Benz B Class ไปเทิร์นเพื่อออก Tesla Model Y ครับ

อันนี้ต้องบอกเอาไว้เลยว่า คุณสันต์เป็นคนไทยคนแรกที่ได้สัมผัสรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model Y 2022 UK spec นะครับ ซึ่งตอนนี้รถ Tesla Model Y 2022 UK spec นั้นยังมาไม่ถึงไทยเลย เรียกได้ว่า เราจะได้ชม Tesla Model Y 2022 UK Spec ไปพร้อมๆ กันเลยครับ

AC Charger หรือชาร์จไฟธรรมดา

อ้างอิงข้อมูลจากคุณสันต์นั้น รถของคุณสันต์ได้จอดอยู่ข้างถนนบริเวณ resident area เขต Westminster เมืองลอนดอนประเทศอังกฤษนะครับ โดยรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model Y ของคุณสันต์นั้นได้จอดชาร์จกับเสาชาร์จไฟหน้าตาแบบนี้ครับ

ข้อดีของการมีรถยนต์ไฟฟ้าคือเราไม่ต้องซื้อ parking permit(บัตรจอดรถ) (ที่ต่างประเทศนั้นค่อนข้างซีเรียสเรื่องการจอดรถนะครับ ในลอนดอนนั้นที่จอดรถเท่ากับทองคำครับ จอดซี้ซั้วโดนลากแน่นอน)

ส่วนการชาร์จนั้นก็ทำโดยไม่ยากคือใช้บัตรที่ลงทะเบียนกับ charger station นี้มาแตะที่เครื่องชาร์จจากนั้นปลั๊กเต้าเสียบจะเด้งออกมา โดยเต้าเสียบปลั๊ก Type2 ตัวนี้จะมี 2 ขนาดให้เลือกคือ 3 kW และ 7 kW นะครับ

อย่าง Tesla Model Y คันนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถรับไฟได้สูงถึง 11 kW(รุ่น Long Range) ทำให้สามารถรับไฟ 7 kW ได้เต็มอัตราสบายๆ ครับ

อัตราค่าไฟสถานีแบบนี้จะตกประมาณ 0.3 ปอนด์(30 เพนนี)หรือ 13 บาทต่อ kWh ครับ

ชาร์จไฟผ่าน DC Fast Charge ณ ไอเกีย

คุณสันต์ได้ส่งวิดีโอรีวิวอีกแห่งมาก็คือ DC Fast Charge ณ ไอเกีย เมืองลอนดอนนะครับ ซึ่งสถานี Fast Charge แห่งนี้จะตั้งอยู่หน้าประตูทางเข้าห้าง IKEA เลยล่ะครับ

หัวชาร์จของ Tesla Model Y ประเทศอังกฤษนั้นจะเป็นแบบที่ไทยนะครับคือ CCS Type 2 Combo นะครับซึ่งหัวนี้จะรับไฟได้สูงสุดที่ 250 kW แต่อย่างไรก็ตามสถานี DC Fast Charge ทั่วไปจะมีหัวประมาณ 150 kW นะครับ

ลักษณะการชาร์จนั้นจะเหมือนตู้ EA(Electricfy America)ที่ผมเคยใช้ที่ฝั่งอเมริกานะครับคือจะมีหัวชาร์จให้บริการทั้งหมด 2 หัวคือ CHAdeMO กับ CCS Type 2 Combo

ก่อนใช้งานนั้นผู้ใช้งานต้องนำบัตรที่ register(ลงทะเบียน)กับสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแห่งนี้มาแตะที่เครื่องชาร์จนะครับจากนั้นก็ทำการดึงหัวชาร์จออกจากสถานีชาร์จเพื่อนำไปเสียบที่รถ

ข้อดีของสถานีชาร์จแบบนี้ที่ไม่เหมือน Tesla Supercharger คือเราสามารถอ่านคือ SoC (State of Charge) หรือเรียกภาษาบ้านๆคือระดับไฟคงเหลือในแบตเตอร์รี่จากจอตรงนี้เลยนะครับ

อย่างไรก็ตามคุณสันต์เอารถมาจอดชาร์จตอนไฟในแบตแกมี 77% ซึ่งถือว่าใกล้ 80 % มากๆ ทำให้ Charging speed ทำออกมาได้น้อยมากๆ นะครับ ยังไงผมเอากราฟ charging speed ของแบต Tesla Model 3 / Model Y มาให้ดูตรงนี้นะครับ

จะเห็นได้ว่าพอแบตเกิน 80 % ไปแล้วไฟจ่ายเข้าแบตจะตกฮวบ(ต่ำกว่า 50 kW)ทันทีเลยนะครับ นั่นก็แปลว่า ถ้าคุณชาร์จไฟหลังแบตมี SoC มากกว่า 80% ไปแล้ว การจะได้ไฟเพิ่ม 10 % นั้นจะเสียเวลาในการชาร์จไฟมากกว่าเดิมถึง 3 เท่าถ้าเทียบกับตอนที่แบตมี SoC อยู่แถวๆ 10-30% และจะช้ากว่าประมาณ 2 เท่าถ้าเทียบกับการชาร์จแถวๆ 30-65 % นะครับ

คุณสันต์ได้ใช้เวลาอยู่กับสถานีชาร์จแห่งนี้ไปประมาณ 33 นาทีซึ่งได้ไฟมาประมาณ 16 kWh หรือเรียกได้ว่า 31 kW ต่อชั่วโมง (ถือว่าช้ามากๆ) เนื่องจาก SoC ของคุณสันต์นั้นอยู่ที่เกือบเต็มแล้วนะครับ ทำให้การรับไฟจะทำได้ช้ากว่าแบตที่มี SoC แถวๆ 30-40 % ครับ

่โดยคุณสันต์เสียเงินค่าชาร์จไปประมาณ 292 บาท(16.695 kWh) นะครับ

Credit รถยนต์ Tesla Model Y : พี่สันต์ London #sanlondonuk

BLINK DRIVE TAKE

ความสุขสูงสุดในการทำเพจ Blink Drive คือการที่สมาชิกเพจส่งข้อมูลรีวิวรถยนต์ไฟฟ้าแบบนี้มาให้ผมดูแหละครับ ผมอาจจะตอบช้าหรือเอามาเขียนลงกระทู้ช้าหน่อย(ยังไงก็ขออภัยคุณสันต์มา ณ ที่นี่ด้วยนะครับ)เพราะจริงๆ แกเอาคลิปนี้มาให้เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว แต่ผมเพิ่งได้มีเวลานำมาเขียนลงบทความพร้อมตัดวิดีโอนะครับ เนื่องจากงาน ป. โทผมหนักมากๆ อาจารย์จ่ายงานมาเหมือนกับไม่ต้องการให้นักเรียนไปทำอย่างอื่นเลย

เวลาทำ Blink Drive จากที่ผมเคยมี(ก่อนเรียนป.โท)หายไปประมาณ 20-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ทำให้ปริมาณงาน Blink Drive ตกค้างเป็นจำนวนมาก (ผมก็ใช้วิธีคือจัดคิว First come first serve ให้กับงานเขียนและวิดีโอครับ ถ้ามีงานไหนเป็นข่าวด่วนก็อาจจะลัดคิวเขียนก่อนนะครับ)

ตอนนี้คือผมปั่นงานแปลบทความ Blink Drive ไม่ทันจริงๆ จะเห็นได้ว่าช่วงนี้ผมจะแชร์ข้อมูลเพจอื่นเป็นหลักนะครับเพราะเอาแค่งานที่อาจารย์มอบหมายมาก็ล้นตัวแล้วครับ ไม่นึกว่าการเรียน ป.โทนั้นเครียดมากขนาดนี้ครับ โดยเฉพาะไอ่วิชา Deep Learning ผมไม่แน่ใจว่า ตัววิชามันยากหรือผู้สอนทำให้ยากกันแน่เพราะโจทย์บางข้อผมใช้เวลาทำประมาณ 40-50 ชั่วโมง(เพื่อนๆ ผมก็โดนแบบนั้นเช่นกัน) แถมส่งเมลไปถาม TA(Teacher Assistance) มันก็บอกวิธีทำแบบมั่วๆมาบ้าง

จนบางทีผมบอกกับตัวเองว่า วิชานี้เอาแค่ B พอแระ กูพอแล้วกับเรื่อง Deep Learning เนี่ย 55+

ยังไงก็ขออภัยด้วยนะครับที่ช่วงนี้จะเห็นผลงานเขียนน้อยลงมากๆๆๆๆ แล้วก็ขออภัยคุณสันต์ที่เพิ่งเอางานมาปล่อยตรงนี้นะครับ

ปล. Blink Drive ณ ปี 2022 ยังมีสมาชิกเพียง 1 คนถ้วนนะครับ นั่นก็คือผมนั่นเอง (เรียกว่า one man show เลยครับ) เนื่องจากเพจ Blink Drive ยังไม่มีรายได้ใดๆ ทั้งนั้นครับ เงินค่า domain website ก็มาจากกระเป๋าเงินผม(ไม่ได้ขอพ่อหรือแม่เลย) ทำให้ยังไม่มีเงินจ้างคนเพิ่มแหละครับ (ค่อย ๆ เติบโตนะครับ)

จะมี outsource ไปจ้างเค้าตัดวิดีโอบ้างบางครั้งนะครับ(เวลาได้รายได้จากด้านอื่นๆเข้ามา)

แต่บทความที่ทุกท่านได้อ่านนั้นมาจาก Admin นายบริงคนนี้แหละครับ ตอนนี้ชีวิตผมเหมือนเวลาไม่พอใช้จริงๆครับ ไหนจะเรียนหนังสือ, ไป live กับ youtuber ท่านอื่น, รีวิวรถยนต์ Tesla Model 3 ของตัวเอง, ถ่ายวิดีโอ + คิด content เอง, รีวิววิดีโอกับ outsource และก็อ่านบทความภาษาอังกฤษเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อ update ให้ชาว Blink Drive ครับ

ยังไงก็ติดตามผลงานเพื่อเติบโตไปด้วยกันนะครับ อีก 5 ปีข้างหน้าถ้า Blink Drive ยังอยู่ คงจะได้เห็นชุดทีมงานแบบจริงจังกับเค้าเสียทีเนอะ ฮ่าๆ

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

Follow by Email