Blink Blink
Latest news
interviewTeslaUSA

บทสัมภาษณ์กูรูแต่งรถยนต์ไฟฟ้าสำนักแรกของไทย

สวัสดีครับ ผมได้มีโอกาสได้สัมภาษณ์กูรูรถแต่งในประเทศไทยอีกท่านทางโทรศัพท์จากอเมริกาไปยังประเทศไทยน่ะครับ

กูรูท่านนี้มีชื่อว่า “Tam(แถม) TKF” โดยคนในวงการรถ(ยนต์)แต่งเรียกเค้าว่า พี่แถม TKF ซึ่งเป็นเค้ายังดำรงตำแหน่งผู้บริหารตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Nissan TKF แถมพี่แถมยังเป็นตัวแทนจำหน่าย executive dealer GTR แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยอีกด้วยครับ ส่วนอีกธุรกิจก็คือ สำนักแต่งรถ TKF Racing ที่รับแต่งรถระดับ Supercar ทั่วราชอาณาจักรไทยอีกด้วยครับ

TKF ย่อมาจากอะไร?

พี่แถมได้กล่าวเอาไว้ในวิดีโอว่า ธุรกิจ Nissan TKF นั้นแตกไลน์มาจากธุรกิจของพ่อพี่แถมซึ่งนั่นก็คือโรงงานทอผ้าที่มีชื่อเต็มว่า Thai Knitting Fabric พอพี่แถมได้มีโอกาสได้มาลุยทำธุรกิจของตัวเองจึงได้นำชื่อที่พ่อนั้นตั้งเอาไว้มาตั้งเป็นชื่อของบริษัทตัวเอง

รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ของพี่แถม TKF หน้าโชว์ Siam Nissan TKF

โดยพ่อของพี่แถมนั้นมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลอยู่มากในสมัยนั้น เค้าจึงได้บอกพี่แถมว่า ต้องหาธุรกิจแบบใหม่ที่แตกแขนงออกไปและต้องเป็นธุรกิจที่เราไม่เคยทำ ทำให้พี่แถมต้องก้าวออกจาก comfort zone และมาเปิดธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Nissan อย่างทุกวันนี้ครับ

ประวัติพี่แถมโดยย่อ

เมื่อ 16 ปีที่แล้ว พี่แถมได้เริ่มก่อตั้งศูนย์ให้บริการและจัดจำหน่าย Nissan TKF (ซึ่งก็คือตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Nissan อย่างเป็นทางการที่จังหวัดสมุทรสาคร) สถานที่แห่งนี้ก่อตั้งจากไอเดียของพ่อพี่แถมที่ต้องการแตกไลน์ธุรกิจครอบครัวที่มีอยู่

รูปภาพ : ผู้บริหารที่เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Nissan ของประเทศไทย

ส่วนสาเหตุหลักที่กลายมาเป็นธุรกิจรถยนต์นี้ก็มาจากความชอบของพี่แถมโดยเฉพาะ แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เค้ามีชื่อเสียงกว้างขวางในวงการรถยนต์บ้านเราครับ

TFK Racing

สิ่งที่ทำให้พี่แถมมีชื่อเสียงในวงการรถยนต์และรถแต่งก็คือการที่เค้าได้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Supercar อย่าง Nissan GTR อย่างเป็นทางการแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยความที่พี่แถมเป็นคนที่ชำนาญด้านการ modify(แต่งรถ)แบบจริงจังและแกยังมี Lamboghini Gallado เอาไว้ครอบครองอีก มันจึงเป็นสาเหตุที่ลูกค้าหลายคนบอกกันแบบปากต่อปาก จนทำให้ลูกค้านั้นเอารถ super car ยี่ห้ออื่นมาให้ service (เข้ารับบริการ)อยู่เป็นประจำครับ

ทำไมถึงเปลี่ยนมาใช้ Tesla Model 3?

ผมชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆน่ะ

ผมชอบศึกษาอะไรในสิ่งที่ผมยังไม่รู้

ผมอยากเรียนรู้กับมัน

พี่แถม TKF -ได้ตอบในบทสัมภาษณ์ เจ้าพ่อ GTR กับของเล่นคันใหม่ คันแรกของประเทศไทย!!

พี่แถมได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมเป็นคนชอบลองของใหม่อยู่ตลอดเวลา ตอน Nissan Kick ออกมาใหม่ๆและผมทราบมาว่ารถคันนี้มีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ผมก็เลยไปทดสอบขับดูปรากฏว่ามันแรงและเร็วมากๆ มันทำให้ผมลืมความคิดไม่ดีเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าไปหมดเลย คือสมัยก่อนเนี่ยเราก็จะมองกันว่ารถยนต์ไฟฟ้ากับรถยนต์ Hybrid นั้นเหมือนกัน(เหมารวม)ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอัตราเร่งและความเร็ว top speed

แต่พอหลังจากได้ขับ Nissan Kick แล้ว เห้ย EV 100 % มันขับดีนิ มันคนล่ะเรื่องกับพวก Hybrid เลย พวก Hybrid นี่มันshit (กาก)เลยน่ะ แต่พอผมได้มาขับ EV นั้นผมเห็นข้อแตกต่างได้ชัดเจนเลย

ตอนนั้นผมก็เลยลองมาคิดดูว่า เจ้า Nissan Kick นี่มันมอเตอร์แค่อนุบาลนิ ถ้าผมได้ไปขับพวกมอเตอร์มหาลัยอย่างพวก Tesla มันคงดีกว่านี้

ผมก็เลยไปลองขับ พอไปลองขับปุ๊บผมซื้อเลยน่ะครับ

ถ้ารถมันไม่ว้าว(ไม่ดี)จริง ผมไม่ซื้ออยู่แล้ว

แต่นี่ผมลองขับ(Model 3)ปุ๊บ ผมซื้อเลย

พี่แถม TKF

แล้วหลังจากผมได้ขับรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้แล้วก็รู้ได้เลยว่า รถยนต์คันนี้จะมาฆ่ารถยนต์แบบเก่าๆ(รถยนต์น้ำมัน)ในท้องถนนภายในระยะเวลาอันใกล้นี้อย่างแน่นอน

การใช้งานในแต่ล่ะวันเป็นอย่างไรบ้าง?

ผมใช้รถคันนี้เป็นรถบ้านคือใช้งานในชีวิตประจำวันไปเลย ไม่ว่าจะขับจากบ้านไปที่ทำงาน จากที่ทำงานไปจอดกินข้าวที่ห้างฯ หรือไปธุระที่ต่างๆ

รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 รุ่น Performance นั้นสามาถขับได้ 560 km (ตาม spec ในเว็บที่บอก) แต่พี่แถมแกบอกว่า เวลาเอามาใช้งานจริงนั้นจะอยู่แถวๆ 300-400 km ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ยิ่งถ้าคุณเหยียบต่อเนื่องกิน(เปลืองไฟ) ยิ่งถ้าเหยียบแช่ยาว(การขับด้วยความเร็วสูงตลอดเวลาเป็นระยะเวลานานๆ)จะยิ่งหมดเร็ว ซึ่งผมมองว่ารถยนต์น้ำมันก็หมดเร็วแบบนี้ได้เหมือนกัน

ชุดแต่ง Model 3 คันนี้มีอะไรบ้าง?

ก่อนอื่นต้องขออธิบายนิดนึงน่ะครับว่า รถยนต์ไฟฟ้า Tesla นั้นไม่สามารถปรับจูนมอเตอร์ผ่าน ECU เหมือนเครื่องยนต์ปกติเลย การปรับจูนความแรงของรถนั้นจะถูก setup มาจากบริษัท Tesla โดยตรงผ่านการ update Software OTA (Over The Air) ดังนั้น ผู้ใช้งานจะสามารถ modify(แต่ง)ได้ไม่กี่อย่างก็คือระบบช่วงล่างทั้งหมด, ภายนอกและภายในรถครับ

ช่วงล่าง

ช่วงล่างของรถคันนี้มีการปรับแต่งทั้งหมด 3 ส่วนหลักๆ นะครับคือ

  1. เบรค – Alcon big brake.
  2. โช๊ค – DWD suspension.
  3. ถุงลมเสริมความสูง – Stancepart aircup.

อย่างแรกก็จะเป็นช่วงล่างแบบเสริมถุงลม Stancepart Aircup ซึ่งเป็นทางออกสำหรับรถโหลดเตี้ยครับรุ่นใหม่ล่าสุดไม่ต้องใช้ถังลม ใช้เวลาในการยกถึงระดับใช้งานแค่8วินาทีและยกขึ้นสุดภายใน15วินาทีครับเร็วมาก

ถัดมาก็เป็นชุดเบรค Alcon RC4 พร้อมชุดคาลิเปอร์เบรคมือไฟฟ้าในล้อหลัง ตัวนี้เป็น Aftermarket Brake ตรงรุ่นของ Tesla Model 3 Performance ครับ

จานเบรคหน้าขนาด 380 x 34 มิลลิเมตร

จานเบรคหลัง 380 x 28 มิลลิเมตร

ถัดมาอีกตัวคือ โช๊ค DWD suspension ในรูปเป็นช่วงล่างด้านหลังแบบ multi link เหมือนรถยุโรปย่อมหมายถึงช่วงล่างออกแบบมาดี อัพเกรดด้วยชุดช่วงล่างsportทำให้การยึดเกาะถนนดีขึ้น

ชุดแต่งรอบคัน

ชุดแต่งรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 คันนี้คือ Vorsteiner เป็นชุดลิ้นกันชนหน้า, กันชนหลัง, และ skirt ข้าง

ส่วนล้อนั้นใช้ของ O.Z. Racing Superforgiata ขนาด 20 นิ้ว , ล้อหน้ามีหน้ากว้าง 9 นิ้ว, ล้อหลังมีหน้ากว้าง 10 นิ้ว

ขอขอบคุณภาพจาก : DPSZ

ภายใน

พวงมาลัย Carbon Design

คอนโซลหน้ารถเป็นของ Carbon look ซึ่งสำนัก Carbon Design เช่นกัน

ขอขอบคุณภาพจาก : DPSZ
ขอขอบคุณภาพจาก : DPSZ
ขอขอบคุณภาพจาก : DPSZ

ซื้อ Model 3 มาแล้ว ซ่อมอะไรไปบ้างแล้ว?

ผมซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 มาประมาณ 1 เดือนครึ่งแล้ว และใช้งานไปประมาณ 5,000 – 6,000 km แล้ว ยังไม่ได้ซ่อมอะไรไปซักอย่างเลย

Street fighter

Posted by Tam Tkf on Wednesday, November 25, 2020

ผมว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นบำรุงรักษาง่ายและน้อยกว่ารถยนต์น้ำมันอย่างมาก อย่างรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 คันนี้ผมดูคู่มือก็มีแต่บอกว่าให้เปลี่ยนของเหลวพวกน้ำหม้อน้ำกับน้ำยาแอร์ภายในระยะทาง 40,000 km ซึ่งยังไม่ถึงเลย

เจอปัญหาน้ำเข้าไฟท้ายหรือยัง?

Condensation in taillights หรือปัญหาเรื่องน้ำเข้าไฟท้ายรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 นั้นถือเป็นปัญหาระดับโลกไปแล้วเพราะไม่ว่าจะเป็นของประเทศไหนก็จะเจอปัญหานี้กัน แต่อย่างว่า ถ้ารถอยู่ในประกัน ฝรั่งก็เป็นง้อยไปเลยคือไม่คิดจะแกะอะไรออกมาซ่อมทั้งนั้น ที่ผมอ่านเจอในกระทู้ต่างๆ ของ Tesla Model 3 นั้น 100 ทั้ง 100 รอให้ Tesla Mobile Service (บริการเคลื่อนที่ของ Tesla)มาซ่อมให้ถึงบ้านน่ะครับ

Tesla Mobile Service

ส่วนของพี่แถมนั้น แกได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมคงโชคดีที่ได้ล๊อตที่ไม่มีปัญหาอะไร ไฟท้ายก็ใช้งานได้ตามปกติ ตั้งแต่ซื้อมายังไม่ได้ซ่อมอะไรเลย”

รถคันต่อไปของพี่แถมคือรถอะไร?

พี่แถมตอบว่า “หลังจากผมได้ลองมาเล่น Tesla Model 3 แล้วก็ติดใจรถยนต์ไฟฟ้าอย่างมาก ยังไงตอนนี้ผมก็เล็งๆ เอาไว้ 2 คันน่ะครับ ระหว่าง Lamborghini Huracan EVO กับ Tesla Roadster ซึ่งถ้าเป็น Roadster นั้นราคาเข้าไทยน่าจะอยู่แถวๆ 10-12 ล้านบาทคงได้ เพราะราคาป้ายต่างประเทศอยู่แถวๆ 6-7 ล้านบาท ยิ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอาจจะได้สิทธิอื่นๆ อีก”

Blink Drive Mini Take : ผมก็ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพี่แถมเกี่ยวกับ Tesla Roadster โดยผมและพี่แถมก็มีความเห็นตรงกันว่า Roadster นี่น่าจะเป็น Hypercar Killer เลยเพราะอัตราเร่ง 0-100 km/h ของรถคันนี้อยู่ที่ 1.9 วินาทีหรือแรงกว่า Buggati Chiron (อัตราเร่ง 0-100 km/h อยู่ที่ 2.3 วินาที) ซะอีก

คิดว่าจะวางแผนจะเป็นตัวแทนจำหน่ายไหม?

พี่แถมได้ตอบอย่างเร็วว่า “ถ้า Tesla เค้ามี Channel(ช่องทาง)ในการติดต่อเข้ามาจำหน่ายก็คงดี แต่เท่าที่ดูเป็นเรื่องยากมากๆ เพราะบริษัทเค้าค่อนข้างรัดกุมเรื่องการให้สิทธิ์เป็นตัวแทนจำหน่าย (อารมณ์เหมือน Apple) ที่ต้องผ่านการ train สารพัดถึงจะได้เป็น authorized dealer

แต่พี่แถมก็ไม่ได้หมดหวังอะไรกับเรื่องนี้เพียงแต่บอกว่า ถ้ามีโอกาสที่เหมาะสมก็จะหันกลับมาดูเรื่องนี้อีกครั้ง แต่ปัจจุบันนี้พี่แถมได้นำเข้าเทสล่ามาขายในไทยทั้งหมด 2 คันแล้วซึ่งก็คือ Tesla Model 3 รุ่น Standard Plus กับ Tesla Model 3 รุ่น Performance โดยรุ่น Standard Plus นั้นถึงไทยแล้วและกำลังอยู่ในขั้นตอน Modify (แต่ง)อยู่ ส่วนรุ่น Performance ที่มีคนสั่งผ่านพี่แถมนั้นก็อยู่บนเรือกำลังเข้าไทยภายในเดือนหน้านี้ครับ

รูปภาพ : Tesla Model 3 ติดฟิล์มกรองแสงโดย TKF Racing

คิดอย่างไรเกี่ยวกับการ Disrupt ในอุตสาหกรรมรถยนต์บ้าง?

พี่แถมได้ให้ความคิดเห็นส่วนตัวว่า “อย่างผมเป็นตัวแทน Nissan มา 10 กว่าปีแล้ว ณ ทุกวันนี้ สถานะของเราที่เราสะสมมานั้น ทุกคนเสียดายตรงนั้นกันหมดเลย แต่ถ้าคุณกำลังเสียดายกับสิ่งนั้นซึ่งมันกำลังจะหมดอนาคตอันใกล้นี้ คุณก็จะจบไปพร้อมเค้าอย่างแน่นอน”

คุณต้องมองกลับไปดูรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาบในปัจจุบัน ผมมองว่า ยุคนี้เป็นยุคสุดท้ายของพวกเค้าแล้ว ณ วันนี้เนี่ย ผมเชื่อว่าภายในระยะเวลาเพียง 3-5 ปีเนี่ย รถยนต์บนท้องถนนจะเปลี่ยนไปตลอดกาลซึ่งถึงพวกเราก็ต้องเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย

พวกเราต้องยอมรับจริงๆ ว่าเครื่องยนต์สันดาบมันมาถึงจุดที่พีคสุดของเค้าแล้ว เค้าไม่สามารถพัฒนาต่อไปจากนี้ได้แบบก้าวกระโดดอีกแล้ว เพราะมันคือสุดของเค้าแล้ว

ถามว่าทำไมเบ็นซ์ถึงประกาศยกเลิกการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาบอย่างถาวร เพราะเค้ารู้อยู่แล้วว่าถ้าเค้าพัฒนาให้ตายยังไงเค้าก็ไม่มีทางชนะ

Mercedes-Benz จะเลิกพัฒนา รถใช้น้ำมัน /โดย ลงทุนแมน ใครที่ขับรถเบนซ์คงต้องตกใจกับข่าวนี้…

Posted by ลงทุนแมน on Friday, September 20, 2019

BLINK DRIVE TAKE

สิ่งนึงที่ผมประทับใจในตัวของพี่แถมคือ พี่แถมเป็นคนที่อยู่ในวงการรถยนต์มานานมาก ๆ แต่ไม่ยึดติดกับความสำเร็จเดิมเลย เพราะจากการสัมภาษณ์นั้นจะสัมผัสได้เลยว่า พี่แถมมองโลกเหมือนที่ฝรั่งหรือคนต่างประเทศมอง(เรียกได้ว่ามีวิสัยทัศน์กว้างไกลอย่างมาก) อย่างเช่นเรื่อง Technology Disruptive (นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีที่สร้างตลาดและมูลค่าให้กับตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยี และส่งผลกระทบอย่างรุนแรง) มองว่าทุกคนต้องปรับตัวเพื่ออยู่รอด และโลกมันหมุนไปทางรถยนต์ไฟฟ้าแล้วจริงๆ

ผมเห็นด้วยกับเรื่องรถยนต์ไฟฟ้ากำลังจะมาแทนรถยนต์น้ำมันภายในเร็ววันนี้ครับ การที่ Tesla กระโดดเข้ามาทำตลาดรถยนต์ในฝั่งเอเชียที่จีนนั้นก็จะเป็นตัวเร่งให้เกิดการแข่งขันอย่างรวดเร็วขึ้นอีกทางครับ

ตั้งแต่ผมเขียนกระทู้รถยนต์ไฟฟ้ามา ผมคิดว่านี่เป็นกูรูรถยนต์คนแรกของไทยที่ให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาโดยอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง(Fact)และข้อมูลจริง ซึ่งเค้าไม่เอาความคิดเห็นตัวเองเป็นหลักในการอธิบายหรือเล่าข้อมูลออกมาน่ะครับ

เวลาที่ผมได้สนทนากับพี่แถมนั้น ผมรู้สึกเหมือนผมกำลังได้เรียนรู้วิชารถยนต์ไปพร้อมๆกับเทคโนโลยีใหม่ๆ

ทุกท่านสามารถติดตามรับชมผลงานของพี่แถมผ่านทาง

Youtube Channel : TKF Channel

Facebook ส่วนตัว :Tam TKF

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

Follow by Email