Blink Blink
Latest news
AsiaEV Carshonda

Honda เลิกผลิตและจำหน่ายรถยนต์น้ำมันในอังกฤษ ภายในปี 2022

  • Honda เลิกทำตลาดรถยนต์น้ำมันดีเซลในประเทศอังกฤษแล้วในปีนี้
  • Honda เลื่อนระยะเวลาการ phase out (ยกเลิก)รถยนต์น้ำมัน ณ ประเทศอังกฤษจากปี 2025 เป็นปี 2022
  • Honda จะเลิกผลิตระบบขับเคลื่อนรถยนต์น้ำมันดีเซลในยุโรปภายในปี 2022

อ้างอิงข้อมูลจาก Autoexpress Honda ได้ถอด HRV รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลออกจากตลาดเป็นที่เรียบร้อยแล้วและบริษัท Honda มุ่งหน้าพัฒนารถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนเป็นไฟฟ้าหรือ Hybrid เท่านั้น ส่วนรถยนต์น้ำมันทุกรุ่นจะถูกระงับการขายภายในปี 2022 เฉพาะประเทศอังกฤษ

 “Honda has accelerated its plans for all its European mainstream car models to be electrified from 2025 to 2022 and our motor petrol hybrid technology will play a key role in achieving this goal. As such, we plan for European production of diesel powertrains to cease by the end of 2022. However, on a local level in the UK, we have now stopped selling diesel cars.”

แปล – Honda มีแผนที่จะเปลี่ยนสายการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ในยุโรปทุกรุ่นให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าโดยทำการเลื่อนกำหนดการจากปี 2025 เป็นปี 2022 และบางรุ่นยังคงมีระบบขับเคลื่อนที่เป็น Hybrid อยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราได้ทำการคว่ำบาตรถาวรกับรถยนต์น้ำมันดีเซลทุกรุ่นในบริษัทของเรา ณ ประเทศอังกฤษแล้วและเราจะยกเลิกการผลิตเครื่องยนต์สันดาบดีเซลภายในปี 2022 นี้อีกด้วย

โฆษกของ Honda ได้กล่าวเอาไว้

BLINK DRIVE TAKE

จริงๆ นี่เป็นเรื่องที่ยุโรปตระหนักและรณรงค์กันมานานมากแล้วน่ะครับ เค้าแบนเครื่องยนต์ดีเซลกันเพราะไม่ว่าเราจะพัฒนาระบบเครื่องยนต์ดีเซลให้ดีแค่ไหนก็ตามแต่การปล่อยมลพิษนั้นมากกว่าเครื่องยนต์เบนซินอยู่มากครับ

ในส่วนต่อมาที่ Honda สนับสนุนเป็นหลักคือระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าล้วน (Electrified) ซึ่งจะเป็น mainstream ของบริษัทครับ ส่วนระบบขับเคลื่อน Hybrid นั้นเป็นเพียง option เสริมสำหรับคนที่วางแผนกำลังจะเปลี่ยนถ่ายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าครับ

ส่วนด้านล่างนี้คือแผนการณ์คว่ำบาตรรถยนต์น้ำมันในแต่ล่ะประเทศครับ

ใช่ครับ มันไม่มีรายชื่อประเทศไทยอยู่ในนี้เลยเพราะประเทศไทยดันออกมาบอกว่าจะเริ่มรณรงค์รถยนต์ไฟฟ้าในปี 2573 หรืออีก 20 ปีข้างหน้าซึ่งเทียบเท่าปี 2040 โดยปีนั้นประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้ทำการแบนรถยนต์ไฟฟ้าไปมากกว่าครึ่งโลกแล้วครับ

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

Follow by Email