Electrify America ซึ่งเป็นเครือข่ายชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด่วนหรือแบบ DCFC (Direct Current Fast Charge) ยักษ์ใหญ่ของอเมริกาจะมุ่งเน้นไปที่หัวชาร์จแบบ CCS แทนที่ CHAdeMO ตั้งแต่ปีหน้า(2565) ซึ่งจะมุ่งเน้นในจุดที่อยู่นอกรัฐแคลิฟอร์เนีย
แผนการเปลี่ยนแปลงนี้มีแนวความคิดมาระยะหนึ่งแล้ว และ Nissan Ariya ก็ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนไปใช้หัวชาร์จแบบ CCS แทนที่จะใช้ CHAdeMO ตามแบบรถญี่ปุ่นรุ่นก่อนหน้าที่วางให้หัว CHAdeMO เป็นมาตรฐานการชาร์จด่วน (DC) ของรถญี่ปุ่นในอเมริกาเหนือ และยุโรป
Nissan เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายสุดท้ายที่ผลิตรถยนต์ที่ใช้หัว CHAdeMO สำหรับตลาดอเมริกาเหนือการเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลถึงโครงการลดจำนวนหัวชาร์จ CHAdeMO ของ Electrify America
ขยายสถานีชาร์จเร็ว (DCFC) เพิ่มอีก 1,800 สถานี
แผนการลงทุนระดับประเทศของ Electrify America จะไม่ติดตั้งหัวชาร์จแบบ CHAdeMO บนสถานีชาร์จอีกต่อไป ตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2565(แผนการลงทุนนี้จะไม่รวมถึงแคลิฟอร์เนีย)
อย่างไรก็ตาม ในแผนการนี้กล่าวว่า แม้ปริมาณการใช้งานของหัว CHAdeMO จะมีเพียงแค่ 7% ของการใช้งานในแคลิฟอร์เนีย แต่ทาง EA (ชื่อย่อของ Electrify America) ก็จะยังคงให้มีหัว CHAdeMO ไว้ต่อไป โดยจะมีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงเลือกชนิดหัวชาร์จและเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่สุด
แทบไม่มีใครใช้หัว CHAdeMO ในการชาร์จรถ
insideevs คิดว่าทาง EA น่าจะต้องการยกเลิก CHAdeMO ทั้งหมด แต่ติดเงื่อนไขการอนุญาตของหน่วยงานที่กำกับดูแล แหล่งข่าวจาก EA กล่าวว่าโดยรวมแล้ว พลังงานที่จ่ายผ่านหัวชาร์จ CHAdeMO มีเพียง 5% ของพลังงานทั้งหมดที่ EA จ่ายผ่านเครือข่าย
รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆทั้งหมดเปลี่ยนไปใช้หัวชาร์จแบบ CCS และทาง EA คาดว่าในปี 2025 จะมีรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ใช่ Tesla ใช้หัว CCS มากถึง 90%
จากสถิติที่ EA ได้เก็บข้อมูลการใช้งานพบว่าการใช้งาน CHAdeMO (รวมถึงรถ Tesla ที่ใช้หัวแปลง CHAdeMO) มีเพียง 9% ในปี 2564 ลดลงจากเดิมที่มีการใช้งาน 15% ในปี 2562 แม้ว่าเครือข่าย EA จะมีหัวชาร์จ CHAdeMO มากกว่า 20% ของหัวชาร์จที่มีในเครือข่าย
Tesla ใช้หัวชาร์จ CHAdeMO?
นอกจากนี้ ในอดีต การชาร์จเร็วของรถ Tesla นอกเครือข่าย Supercharge (จุดชาร์จเร็วสำหรับ Tesla เท่านั้น) มีเพียงวิธีเดียวคือต้องใช้หัวแปลง CHAdeMO แต่ปลายปี 2563 ที่ผ่านมา ได้มีการผลิตหัวแปลงแบบ CCS สำหรับ Tesla ขึ้น เหมือนเป็นการปลดล็อคหัว CCS ให้กับเจ้าของ Tesla
หมายเหตุ : หัวแปลงจาก CHAdeMO เป็น Tesla Charger นั้นมีราคาประมาณ $400 หรือ 12,000 บาท ซึ่งตอนนี้ของหมดตลาดไปแล้วถ้าจะหาซื้อกันจริงๆ ราคา ebay จะขายประมาณ $749.99 หรือ 22,500 บาทแล้วนะครับ
ถ้าถามว่ามันสะดวกหรือประหยัดกว่าการไปชาร์จที่ Tesla Supercharger ไหม? ผมก็ตอบเลยว่า “ไม่ครับ” แต่ในบางโอกาสนั้นเราอยากแวะจอดร้านอาหารที่มีสถานีชาร์จ DCFC (Fast Charging) ก็เท่ากับว่า Tesla ของเรานั้นมีโอกาสในการใช้สถานีชาร์จเพิ่มขึ้นนะครับ
ที่มา : Electrify America และ Insideevs
BLINK DRIVE TAKE by Veexeezee
EA จะเน้นการลงทุนในเฟส3 โดยใช้ CCS เป็นมาตรฐาน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนมาตรฐานของการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้เป็นมาตรฐานเดียว ลดความสับสนของผู้ใช้งาน ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายการดำเนินงานต่างๆ และเป็นการส่งเสริมการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าให้มากขึ้น
สิ่งที่น่าสนใจที่ทำให้ EA เปลี่ยนมาเลือกใช้ CCS คือการที่ Tesla มีหัวแปลง CCS ซึ่งมีข่าวลือว่าทาง Tesla อาจจะเปิดตัวหัวแปลง CCS ของตัวเองในอเมริกาเหนือด้วย นอกจากนี้อีกสาเหตุหนึ่งคือ รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆส่วนใหญ่จะไม่มีการใส่ CHAdeMO มาให้แล้ว ดังนั้นทาง EA จึงต้องเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสมกับอนาคต ไม่ใช่อดีต
