Tesla ประกาศขึ้นราคารถยนต์ไฟฟ้า Tesla ทุกรุ่นเมื่อคืนที่ผ่านมานะครับ โดยแต่ล่ะรุ่นนั้นมีการปรับราคาตั้งแต่ 70,000 บาท($2,000) ไปจนถึง 210,000 บาท($6,000) กันแล้วครับ
นี่คือตารางราคารถยนต์ไฟฟ้า Tesla แต่ล่ะรุ่นที่ถูกปรับขึ้นมานะครับ
Tesla Model 3
รุ่น | ราคา | ปรับขึ้น | ระยะเวลารอ |
Model 3 SR+ Standard Range Plus) | 1.65 ล้านบาท ($47,000) | 0 บาท | 6 เดือน (ธันวาคม 2565) |
Model 3 Long Range | 2.03 ล้านบาท ($58,000) | 70,000 บาท ($2,000) | 6 เดือน (ธันวาคม 2565) |
Model 3 Performance | 2.2 ล้านบาท ($63,000) | 0 บาท | 3 เดือน (สิงหาคม 2565) |
Tesla Model Y
รุ่น | ราคา | ปรับขึ้น | ระยะเวลารอ |
Model Y Long Range | 2.31 ล้านบาท ($65,990) | 105,000 บาท ($3,000) | 1 ปี (พฤษภาคม 2566) |
Model Y Performance | 2.45 ล้านบาท ($69,990) | 70,000 บาท ($2,000) | 5 เดือน (ตุลาคม 2565) |
Tesla Model S
รุ่น | ราคา | ปรับขึ้น | ระยะเวลารอ |
Model S Long Range | 3.7 ล้านบาท ($105,000) | 175,000 บาท ($5,000) | 10 เดือน (กุมภาพันธ์ 2566) |
Model S Plaid | 4.76 ล้านบาท ($136,000) | 0 บาท | 3 เดือน (สิงหาคม 2565) |
Tesla Model X
รุ่น | ราคา | ปรับขึ้น | ระยะเวลารอ |
Model X Long Range | 4.23 ล้านบาท ($121,000) | 210,000 บาท ($6,000) | 10 เดือน (กุมภาพันธ์ 2566) |
Model X Plaid | 4.87 ล้านบาท ($139,000) | 0 บาท | 3 เดือน (สิงหาคม 2565) |
หมายเหตุ : ราคารถยนต์ไฟฟ้า Tesla ทุกรุ่นยังไม่รวมค่าเอกสารและภาษีซึ่งจะเพิ่มขึ้นจากราคาป้ายประมาณ 10-14 %(แล้วแต่ภาษีของแต่ล่ะรัฐ)
ที่มา : Tesla
BLINK DRIVE TAKE
แต่ก่อนตอนพวกเรายังเด็กกัน ผู้ใหญ่ที่บ้านจะสอนเสมอว่า “รถ” เท่ากับ “ลด” ผมมองว่า คำปรัชญาหรือคำคมสมัยก่อนบางคำไม่สามารถนำมาใช้กับสถานะการณ์ปัจจุบันได้อีกแล้ว เพราะเรื่อง inflation rate (ค่าเงินเฟ้อ)และก็เรื่องราคาน้ำมันแพงทำให้ลามไปถึง demand ของรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมกับค่าใช้จ่ายในการผลิตที่เพิ่มขึ้นเพราะอย่าลืมว่า Supplier ของ Tesla ยังต้องใช้รถบรรทุกดีเซลในการขนส่งวัตถุดิบไปยังโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla นะครับ ดังนั้นสาเหตุหลักที่ Tesla ต้องปรับราคาขึ้นก็เพราะ demand ที่ถาโถมเข้ามาพร้อมกับต้นทุนการขนส่งที่เพิ่มขึ้นในทุกๆ วันครับ
ดังนั้น ผมมองว่า รถ(EV) ไม่เท่ากับ “ลด” ในปี 2565 และจากนี้ต่อไปครับ เพราะชิ้นส่วนการผลิตรถยนต์หลังจากปีนี้ไปจะมีแต่ปรับตัวสูงขึ้น เอาง่ายๆ ครับ ค่าแรงของพวกเราก็ปรับตัวสูงขึ้นจาก 10 ปีที่แล้วอย่างมากฉันใด ค่าใช้จ่ายหรือค่าวัตถุดิบต่างๆ ก็ปรับตัวขึ้นมาเป็นเงาตามตัวฉันนั้นครับ ยิ่งรถยนต์ไฟฟ้ามันมี demand ที่โหดอย่างมากในต่างประเทศ ผมเลยมองว่า Tesla ไม่จำเป็นต้องปรับราคาลงเพื่อเอาใจลูกค้ารายใหม่เลยก็ได้ครับ เพียงแค่ผลิตรถส่งลูกค้ารายเก่าให้ทันก็พอครับ
ยังไงก็ตาม ผมขอแสดงความยินดีกับลูกค้า Tesla ทุกท่านที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla มาใช้ก่อนหน้านี้นะครับ ราคารถยนต์ไฟฟ้าที่ท่านซื้อมานั้นจะเป็นราคาที่ถูกที่สุดในประวัติศาสตร์การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครับ หลังจากนี้ไปคือนรกของคนที่วางแผนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla คันใหม่หลังจากนี้ครับ เพราะราคารถมีแต่จะปรับตัวขึ้นเรื่อยๆ ใน 2-3 ปีจากนี้ครับ สาเหตุอื่นๆ ก็มีเรื่อง Chip Shortage (ขาดแคลนชิป)มาข้องเกี่ยวด้วยแหละครับ
รถ Tesla Model 3 SR+ ของผมแพงขึ้นอีก 245,000 บาท
อย่างที่ทราบกันดีว่า เมื่อปีที่แล้ว Tesla ก็ไล่ประกาศปรับราคารถยนต์ไฟฟ้าขึ้นกันเป็นว่าเล่นทำให้ตัวผมที่จอง Tesla Model 3 SR+ นั้นไม่กล้าทิ้งใบจองกันเลยทีเดียวเพราะตอนผมจองรถนั้นราคาที่ผมจองคือ $39,990 หรือ 1.4 ล้านบาท
แต่ตอนนี้ราคารถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 SR+ รุ่นของผมนั้นพุ่งสูงไปถึง $47,000 หรือแพงกว่าตอนผมซื้อถึง $7,000 (245,000 บาท)ครับ
Inflation Rate ที่สูงขึ้น
ผมเคยบอกใน live ช่องตัวเองและช่องคุณ Welldone Gaurantee ไปแล้วว่า ราคา Tesla จากเกร์ยในปีนี้จะเป็นราคาถูกที่สุดที่คุณจะสามารถหาซื้อได้แล้วครับ หลังจากนี้ไปคุณจะไม่สามารถกลับมาซื้อราคารถ Tesla ในราคานี้ได้อีกแล้วเพราะข้าวของแต่ล่ะอย่างมันแพงขึ้นอย่างมากกกกกกกก ไม่ว่าจะเป็นค่าแรงคนงาน, ค่าวัตถุดิบ, ค่าขนส่ง(อันนี้แพงมากๆ เพราะราคาน้ำมันแพงขึ้น), และค่าเอกสารอื่นๆ
ดังนั้นถ้า Tesla จะมาเปิดตลาดในไทย ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า เร็วสุดคืออีก 2 ปีข้างหน้า วันนั้นเราจะเห็นราคารถยนต์ไฟฟ้า Tesla ในไทยเท่ากับราคาเกร์ยในวันนี้อย่างแน่นอนครับ