Blink Blink
News

รีวิวการเช่ารถยนต์ไฟฟ้าจาก EVme (จบภายใน 5 นาที)

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาเขียนกระทู้รีวิวการเช่ารถยนต์ไฟฟ้าที่จบภายใน 5 นาทีโดย EVme กันนะครับ เนื่องจากมีคนถามกันเข้ามาว่า “ทำไมคุณบริงถึงซื้อ MG4 มาขับ?”, “กลับมาไทยแล้วซื้อรถเลยหรอครับ?”, หรือ “อันนี้เช่าหรือซื้อนะครับ?” ทั้งใน comment และหลังเพจนะครับ

Link สำหรับการเช่ารถกับ Evme Clinkตรงนี้

ผมจึงขออนุญาตเอาทุกคำถามมาตอบในกระทู้นี้เลยล่ะกันนะครับ

รถ MG4 ที่ที่ทุกท่านเห็นอยู่ในโพสต่างๆ ในเพจ Blink Drive นั้นเป็นรถเช่า EV จากบริษัท EVme ครับ ลำพังผมกลับไทยเพียง 1 เดือนกว่าๆ นั้นผมคงไม่ซื้อรถ EV มาขับแล้วทำการขายต่อวันที่ผมกลับอเมริกาอย่างแน่นอน ฮ่าๆ

ส่วนเรื่องจะซื้อเก็บเอาไว้ให้พ่อและแม่ขับนั้นคงยากเพราะว่าพวกท่านยังไม่มั่นใจในรถยนต์ไฟฟ้ามากเท่าผมและผมก็ไม่ได้กลับมาอยู่ไทยแบบถาวรทำให้เวลาเกิดปัญหาพวกท่านอาจจะไม่สามารถแก้ไขได้นะครับ(ทั้งบ้านอยู่กันแบบสองคนตายาย)

ผมจึงเลือก option ที่เสี่ยงน้อยที่สุดและสามารถทำให้ผมมีรถใช้ในไทยระหว่างที่อยู่ไทยนะครับ ก็คือ เช่ารถ EV ครับ

ทำไมต้องเช่ารถ EV?

ถ้าจะให้ตอบสั้นๆ คือ Performance (ความแรง) ครับ

รถยนต์น้ำมันนั้นแรงบิดสู้รถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้จริงๆ ผมกลับมาไทยรอบนี้วางแผนจะไปขึ้นดอยอ่างขางด้วย ถ้าจะเช่ารถน้ำมันขึ้นดอยเกรงว่าจะเปลืองเงินค่าน้ำมันอย่างมากและคงยากที่จะขับขึ้นดอยเพราะไม่ได้ขับรถน้ำมันมา 3-4 ปีแล้วครับ

แต่ถ้าจะให้ตอบแบบยาวๆ คือ ด้วยความที่ผมทำเพจรถยนต์ไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2018 และเคยลองขับ Tesla Model S มาตั้งแต่ปี 2015 ตั้งแต่ได้ขับรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model S ในวันนั้นผมก็เลิกสนใจ performance (สมรรถภาพ)ของรถสันดาปไปเลยครับ

จากวันนั้นผมก็ได้ซื้อรถ EV เป็นของตัวเองทั้งหมด 2 คันคือ

  1. Chevrolet Bolt
  2. Tesla Model 3 SR+ (2021)

รถทั้งสองคันใช้งานดีมากๆ Chevrolet Bolt นี่คือรถคันโปรดของผมเลย ผมขับไปร่วมๆ 130,000 km แล้วกับรถคันนี้ ไม่มีปัญหาจุกจิกอะไรทั้งนั้น ตั้งแต่ขับมานั้นเคยเข้าศูนย์ฯ ทั้งหมด 3 ครั้งคือ เปลี่ยนแบต recall ของ GM(ฟรี), เปลี่ยนโช๊คเพราะมีเสียงและผมขับรถลงหลุมบ่อยๆ, และเปลี่ยน speed wheel sensor (ตัววัดความเร็วของล้อรถ) อันนี้พังเพราะผมเคยเอาไปวิ่งเล่นแถวๆ ชายหาด(คือวิ่งลงไปจุ่มน้ำทะเลเลยครับ) มันเลยแตก ซึ่งความเสียหายของ EV คันนี้ทั้งหมดเป็นความผิดของ user (คือผมนั่นเอง)

ส่วน Tesla Model 3 นั้นผมใช้งานได้ 1 ปีก็ขายเพราะช่วงนั้นราคารถมันสูงมาก ผมซื้อมา $42,000 ขายไป $53,000 กำไรประมาณ 300,000 บาททั้งๆ ที่ผมเอามาขับแค่ปีเดียว(วิ่งไป 10,000 km) แถมผมเอามาทำเป็นรถเช่าอีกด้วยทำให้ผมได้กำไรจากการปล่อยรถเช่าอีก $6,000 หรือ 200,000 บาทครับ

เลยคิดว่า จะขายเพื่อซื้อ Tesla Model Y แต่มาวุ่นเรื่องเรียนจบป.โทและเรื่องกลับไทยมาทำธุระนะครับ ทำให้ผมเลยเลื่อนโครงการซื้อ Tesla Model Y ทดแทน Tesla Model 3 ไปก่อนนะครับ

คำตอบสรุปจากข้อมูลด้านบนคือ ไม่เอารถสันดาปอีกแล้วในชีวิตนี้ครับ

รถยนต์ไฟฟ้า(ทุกรุ่น)มันแรงและประหยัดมากๆ ผมขับ MG4 และ Volvo C40 ในไทยชาร์จ DC นั้นค่าไฟที่วิ่งอยู่ไม่เกิน km ล่ะ 1 บาทเลยครับ

Link สำหรับการเช่ารถกับ Evme Clinkตรงนี้

ทำไมต้อง EVme?

ถ้าพูดถึงรถเช่าที่มีรถ EV ให้เช่าเยอะที่สุดในไทยตอนนี้ก็คือ EVme แหละครับซึ่งมีรถยนต์ไฟฟ้าให้เช่ามากกว่า 600 คันไปแล้ว เรียกได้ว่ามีรุ่นรถ EV ให้เช่าเยอะที่สุดในไทยตอนนี้ครับ

เป้าหมายรถที่ผมอยากเช่าในครั้งนี้คือ MG4 เพราะมีหลายคนชมว่าช่วงล่างมันดีจริงๆ ผมเลยอยากลองด้วยตัวเอง เอาจริงๆ ผมเล็งคันนี้มาตั้งแต่รถเปิดตัวอาทิตย์แรกๆ แล้วครับ เพราะชอบการออกแบบเหลี่ยมๆ ของรถนะครับ ซึ่งในไทยนั้น ต้องขอบอกเลยว่าบริษัทให้เช่ารถส่วนใหญ่จะยังไม่มีรถรุ่นนี้ครับ (ไม่แน่ใจว่าทำไมนะครับ) ผมกดเช่าเดือนพฤษภาคม 2566 นะครับ ณ​ วันนั้น ที่ไทยยังไม่มีใครปล่อยรถเช่ารุ่นนี้นอกจาก EVme ครับ

หมายเหตุ : EVme ทำงานอยู่บน iOS และ Android เท่านั้นนะครับ แนะนำให้ใช้ smart phone ในการกดจองครับ ผมกดจองผ่าน laptop หรือ PC ไม่ได้ครับ การกดเช่านั้นก็ง่ายพอๆ กับสั่งของ online Lazada เลย ผมใช้เวลาประมาณ 4 นาทีก็ได้รุ่นรถที่ต้องการพร้อมกดจอง สำหรับใครที่สงสัยว่าจองยังไงเดี๋ยวผมจะรีวิวขั้นตอนการจองให้แบบละเอียดครับ

ขั้นตอนการเช่ารถกับ EVme ภายใน 5 นาที

ถ้าเราเปิด App มาแล้วจะเห็นหน้าจอแบบนี้ จากนั้นกดปุ่ม “จองรถ” ตรงนี้

จากนั้นก็กดตรงระยะเวลาในการเช่าตรง “12-15 มิ.ย. 66 (3 วัน)” ตรงนี้ครับ อันนี้เป็น demo (สาธิต)ให้ดูนะครับ วันที่คุณกดเช่าจริงนั้น ตัววันที่ตรงนี้มันจะเลื่อนออกไปนะครับ

ตรงนี้ ผมแนะนำว่า ให้จองล่วงหน้าซัก 2-3 สัปดาห์เพราะไม่งั้นอาจจะไม่เจอรุ่นรถที่คุณต้องการนะครับ

ราคารถเช่า

เรื่องราคารถเช่านั้นเราต้องเลือกระยะเวลาในการเช่ารถก่อนถึงจะทราบราคารถเช่านะครับ

การเช่ารถของ EVme นั้นจะแบ่งระยะเวลาออกเป็น 6 ส่วนคือ

  • 3 วัน
  • 1 สัปดาห์
  • 1 เดือน
  • 3 เดือน
  • 6 เดือน
  • 12 เดือน

ซึ่งยิ่งระยะเวลายิ่งสั้นมันจะใช้เงินในการจองยิ่งสูงนะครับ อย่างที่ผมบอกไปคือ ถ้ารถที่คุณหมายปองเป็นรถที่ high-demand หรือเป็นที่นิยมของท้องตลาดล่ะก็ แนะนำให้จองล่วงหน้า 3-4 สัปดาห์ไปเลยเพื่อจะให้ได้รถรุ่นที่จองเอาไว้ครับ

หลังจากเลือกระยะเวลาในการจองและช่วงวันที่อยากทดสอบแล้วให้กด “บันทึก” ต่อได้เลยครับ

พอเรากดปุ่ม “บันทึก” มาแล้วจะมีรุ่นรถมากมายให้เลือกครับ ของผมเลือกจองรถแบบ 1 สัปดาห์ครับ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า มันจะมีปุ่ม “จองเลย” (Book Now) กับปุ่ม Available 21 July (ว่างให้เช่า 21 กรกฎาคม)

โดยปุ่ม Available 21 July (ว่างให้เช่า 21 กรกฎาคม) นั้นคือรถรุ่นนั้นไม่มีให้เช่าช่วงเวลาที่ผมเลือกมานะครับ จะว่างอีกทีก็ 21 กรกฎาคมไปเลยครับ

ส่วนปุ่ม “จองเลย” นั้นคือปุ่มที่ระบุเอาไว้ว่ารถว่างและสามารถให้เช่าได้ครับ

ส่วนเรื่องราคาเช่ารถนั้น ทุกคนสามารถเลือกช่วงเวลาและดูราคารถทุกคันได้ทั้งหมดเลยนะครับ เอาเป็นว่า เลือกซื้อของ Shoppee จะดูยากกว่า App นี้เลยครับ

หลังจากกดปุ่ม “จองเลย” มาแล้วก็จะเห็นหน้าต่างยืนยันข้อมูลการจองให้เราเลื่อนลงมาแล้วจะมีตัวเลือกสำหรับการรับรถอยู่ 2 ประเภทคือ รับรถด้วยตัวเอง (Self pick-up) หรือ ส่งรถโดย EVme (delivery)

ผมเลือกอย่างแรกคือรับรถด้วยตัวเองนะครับ ไม่สะดวกให้ไปส่งที่โรงแรมครับเพราะไม่มีที่จอดรถให้เจ้าหน้าที่และตอนคืนรถผมก็คง check out จากโรงแรมเพื่อมาคืนรถครับ ทำให้ผมมองว่าเสียเวลามากๆ ถ้าผมจะต้องกลับไปที่โรงแรมเพื่อนัดคืนรถครับ

ส่วนใครที่ไม่มีเวลาไปยังตึกรัชดาวัน ซึ่งเป็นอาคารกระจายรถเช่าของ EVme นั้นเค้าก็มี option อีกอันคือการ “ส่งรถโดย EVme” โดยทำการกรอกที่อยู่สำหรับรับรถนะครับ เค้าก็จะทำการส่งมอบรถให้กับลูกค้า อันนี้เค้าบอกมาว่าตอนนี้สงวนเฉพาะในเขตกทม. ก่อนนะครับเพราะว่า เจ้าหน้าที่มีจำนวนจำกัดและยังไม่มีสาขาในต่างจังหวัดครับ

อีกอย่างนึงคือ “คืนรถที่เดียวกับที่รับรถ” อันนี้คือเราเลือกคืนรถที่ทำงานของเราแทนที่จะเป็นที่บ้านของเราก็ได้ครับ โดยเค้าจะมา pickup (รับรถ)คืนจากเราอีกแห่ง โดยให้ใส่ที่อยู่สำหรับคืนรถลงไปนะครับ

เรายังไม่สามารถกดไปต่อได้ถ้าไม่กดเลือกเวลารับรถนะครับ ดังนั้น กรุณากดเลือกเวลารับรถหลังจากนั้นด้วยนะครับ จากนั้น App จะแสดงหน้าต่างตัวนี้ขึ้นมาซึ่งเราจะสามารถเลือกรับรถได้ตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็นครับ

จากนั้นเราจะมาถึงหน้าต่างสุดท้ายคือหน้าต่างจ่ายเงินค่าจองครับ ณ ปัจจุบัน นั้น EVme รับจองรถผ่านบัตร Credit แต่เพียงเท่านั้นนะครับ ให้เราเลือก “วิธีการชำระเงิน” แล้วจากนั้นจะขึ้นหน้าต่างแบบนี้เพื่อให้กรอกข้อมูลบัตร Credit Card นะครับ

พอกดกรอกเสร็จแล้วก็จะรอเมลยืนยันจากทาง EVme ได้เลยนะครับ เอาจริงๆ ขั้นตอนที่ยากที่สุดในการจองคือการกรอกชื่อและเลขบัตร Credit Card ครับ

Link สำหรับการเช่ารถกับ Evme Clinkตรงนี้

เหตุผลที่เหลือที่ทำให้ผมเลือก EVme

  1. ไม่ต้องล้างรถตอนมาคืนรถ – ทาง EVme ไม่คิดค่า cleaning fee (ทำความสะอาด)รถ แต่ถ้าคุณสูบบุหรี่หรือเอาสัตว์เลี้ยงขึ้นรถจะโดนปรับนะครับเพราะมันทำความรำคาญให้กับคนที่จะเช่าคนถัดไปนะครับ
  2. ชาร์จรถ 50% ก็พอตอนคืนรถ – ทาง EVme จะส่งมอบรถให้ลูกค้า(รวมถึงผม)ด้วยที่ไฟ 100% แต่ตอนคืนนั้น เค้าขอให้เอารถมาคืนพร้อมแบต 50 % SoC (State of Charge) ก็พอ
  3. รวมประกันชั้น 1 – คำว่าประกันชั้น 1 คือรวมความอุ่นใจถ้ารถไปเฉี่ยวหรือชนอะไรมาก็คืนรถโดย walk away free of mind หรือไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องรอยเฉี่ยวชนหรือขีดข่วนนะครับ เพราะ EVme รวมเรื่องการซ่อมสีตัวถึงอยู่ในประกันตัวนี้แล้ว
    • หมายเหตุ : ทั้งนี้เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่แอปพลิเคชัน EVme ได้เลย 
  4. No hidden fee (ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) รถเช่าจาก EVme นั้นดูเหมือนจะมีราคาเช่าที่แพงกว่าคู่แข่งก็จริง แต่หลังจากคืนรถแล้วเค้าไม่ยึดเงินประกันเราหรือให้เราจ่ายค่าซ่อมตัวถังรถ(ถ้าเกิดมีรอย) หรือคิดค่าชาร์จไฟรถในกรณีเราเอารถมาคืนแล้วไม่เต็ม 100% นะครับ
    • มีค่าปรับ 1 อย่างที่ควรรู้เอาไว้คือ ถ้านำรถมาคืนด้วยแบตน้อยกว่า 50% จะมีค่าปรับ 2,000 บาทครับ
    • อีกส่วนคือ เรื่องใบสั่ง, ถ้าคุณไปขับรถแล้วโดนใบสั่ง : ขับเกินความเร็วที่กำหนด หรือ ฝ่าไฟแดงแล้วล่ะก็ ใบสั่งเหล่านั้นจะตรงไปที่บ้านของพวกคุณครับ

เอาจริงๆ ผมเช่ารถที่อเมริกาบ่อยมากๆ จึงรู้ว่าการเช่ารถแล้วอุ่นใจแบบนี้หาได้ยากมากๆ ในอเมริกา แต่ในไทยนั้นเราจะเห็นได้ว่ามีราคาค่าเช่ารถที่ถูกกว่า EVme อยู่เยอะ แต่เพื่อนผมก็บอกว่า เวลาคืนรถนั้นปวดหัวอยู่ก็มีหลายเจ้า เช่น มาอ้างว่าเราขับรถไปขูดถนนแล้วล้อรถเป็นรอยจากนั้นส่งบิลค่าซ่อมมาเก็บเพื่อนผมที่บ้านอีก 3,000 บาท ซึ่งผมถาม EVme ว่าถ้าเกิดเคสแบบนี้จะทำยังไง EVme บอกว่า EVme จะรับผิดชอบรอยเหล่านั้นทั้งหมดครับ เพียงแต่อย่าไปขับรถทำผิดกฏจราจรมาก็พอ เพราะเค้าจะส่งใบสั่งไปที่บ้านของคุณนะครับ

นี่เป็นข้อดีของการเช่ารถจาก EVme แม้ว่าราคารถบางรุ่นจะมีราคาที่แพงอยู่มาก แต่ก็มีหลายรุ่นที่ผมมองว่าเป็นราคาตลาดที่ผมรับได้อย่างพวก ORA Goodcat, BYD Atto3, MG4 หรือ Maxus9

รีวิว MG4 ฉบับ Blink Drive

อัตราเร่ง 0-100 km/h 7.2 วินาที ถือว่าเกินพอกับการใช้งานในเมืองครับ

Top Speed หลุดไปๆ 160 km/h (ผมเหยียบไหวแค่นั้นครับ ก็ถือพอแล้วครับ ในไทยกล้องจับความเร็วเยอะมาก)

Handling ในการเข้าโค้งเกือบๆ จะ Tesla Model 3 SR+ ที่เคยขับเลยครับ

ด้วยความเป็น RWD(ขับหลัง) ทำให้การออกตัวนั้นมันส์กว่า FWD (ขับหน้า)

ข้อเสียก็มีครับ เช่น
1. กล้อง 360 องศาทำงานกระตุกมากๆ โดยเฉพาะเวลาจะเปลี่ยนเลนนั้นกล้องจะเด้งขึ้นมาบังระบบ Navigation (นำทางรถ)ซึ่งต้องกดปิดทุกครั้งที่ขึ้นรถ จริงๆ มันก็เป็นระบบที่ดีครับ แต่ว่า กล้องมันกระตุกมากๆ จริงๆครับ คือแบบว่า มอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านรถไปแล้ว กล้องมันจะโชว์อยู่เลยว่ามอเตอร์ไซค์ตันนั้นอยู่ในจอ

2. ระบบ LKA (Lane Keep Assistance) หรือระบบประคองรถอยู่ในเลนนั้นทำงานได้สับสนมากๆ ถ้าเราไม่อยากใช้ระบบนี้ก็ต้องกดปิดทุกครั้งที่ขึ้นรถ (ตัวรถมันจะไม่จำค่าอะไรเลยครับ)

ผมลองให้พ่อขับโดยไม่ได้ปิดระบบนี้ พ่อผมบอกว่า อันตรายมากๆ เพราะเวลาเราจะหักหลบมอเตอร์ไซค์ที่พุ่งเข้ามาในเลนเรา ตัวรถมันจะกระชากพวงมาลัยกลับมาเพราะรถมันคิดว่า พ่อผมเผลอขับออกนอกเลนเนื่องจากคนขับออกจากเลนโดยไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว 
ซึ่งสถานการณ์นี้นั้นเราคงไม่เปิดไฟเลี้ยวเพื่อหักหลบมอเตอร์ไซค์ที่พุ่งเข้ามาในเลนเราแหละครับ

3. Adaptive Cruise Control เบรคแรงมากๆและจากนั้นก็กดพุ่งต่อแล้วก็เบรคต่อไปเรื่อยๆ

ผมลองเปิดดูแล้ว ตัวรถมันจะเร่งไปเรื่อยๆ จนถึง speed (ความเร็ว)ที่เรากำหนด แล้วถ้าเกิดมีรถคันหน้าขับช้ากว่าเรา ตัวรถมันจะขับเข้าไปใกล้ๆ และทำการเบรคแบบหัวทิ่มหน่อยๆ จากนั้นก็เร่งไปต่อและเบรคต่อ ทำอย่างนี้เรื่อยๆ จนผมต้องขับเองทุกครั้งที่เจอรถคันข้างหน้า
ซึ่งผมไปลองรถ Atto3, Volvo C40, หรือ Model 3 นั้นตัวรถสามารถติดตามคันข้างหน้าได้อย่างดี ไม่เบรค, ไม่เร่งแบบนี้ครับ

4. ระบบ AC Charging (Emergency Charger) ที่ตัดทุกครั้งที่ปลดล๊อคประตูรถ

ผมเพิ่งรู้ว่า MG 4 จะตัดการชาร์จไฟรถทุกครั้งที่เราปลดล๊อครถและเปิดประตูรถ และบางทีระบบมันไม่ resume(กลับไป)ชาร์จต่อ

มีคืนนึงผมไปเอาของในรถแล้วกดล๊อครถ ปรากฏว่า ตอนเช้าตื่นมา ไฟที่ port charge เป็นสีน้ำเงินไม่ใช่สีเขียว แปลว่า ผมไม่ได้ชาร์จ AC ในคืนนั้นเลย

ที่ผมเขียนมาซะยาวขนาดนี้เพราะว่า ถ้าคุณไปดูรีวิวจากนักรีวิวรถ เค้าอาจจะไม่พูดความจริงเหล่านี้ครับ เพราะมันขายสินค้าไม่ได้

แต่นี่ผมอยากซื้อมาให้พ่อและแม่ที่บ้านขับจริงๆ เลยไปเช่ามาขับพร้อมกับรีวิวให้ดูครับและอยากให้คนที่วางแผนซื้อรถคันนี้เตรียมตัวเตรียมใจกับข้อเสียเหล่านี้

ถ้าถามผมว่า ผมรับข้อเสียเหล่านี้ได้ไหม? ผมรับได้ทั้งหมดยกเว้นเรื่องกดปลดล๊อคประตูรถแล้วมันไม่ยอมชาร์จต่อครับ

หลังจากเช่ารถคันนี้มาขับแล้ว ผมคิดเลยว่า ถ้าอนาคตผมจะซื้อ EV ซักคันในไทย ผมก็คงจะเช่ามาใช้งาน 1 อาทิตย์ก่อนตัดสินใจซื้อจริงๆ ครับ เพราะมันอาจจะมีฟังชั่นบางอย่างที่ไม่ถูกใจเราก็เป็นได้ครับ

Link สำหรับการเช่ารถกับ Evme Clinkตรงนี้

BLINK DRIVE TAKE

การเช่ารถ EV เพื่อมาขับแทนรถยนต์น้ำมันคันเก่านั้นไม่คุ้มแน่นอนครับ ส่วนใหญ่แล้วคนที่มาเช่ารถ EV กันก็จะเป็นคนที่วางแผนเช่ารถเพื่อจะซื้อรถ EV คันนี้ในอนาคต แต่อยากเช่ามาลองขับเส้นทางแถวบ้าน, ลองชาร์จไฟที่บ้านดูสิว่าจะไหวไหม, หรือลองขับเข้ามาจอดในโรงจอดรถที่บ้านซึ่งบอกได้เลยว่า ถ้าไปขับที่ศูนย์ showroom รถนั้น เค้าให้ขับมากสุดก็ 2 ชั่วโมงครับ และเซลที่นั่งมาด้วยคงไม่ happy ถ้าคุณจะขอเอารถกลับบ้านไปทดลองเข้าทางขึ้นบ้านของคุณครับ

อีกเหตุผลที่คนเช่ารถ EV มาขับนั้นคือ เป็นเจ้าของรถ EV อยู่แล้วแต่รถเข้าศูนย์ก็เลยต้องไปหารถคันอื่นมาขับทดแทนระหว่างรอรถซ่อม (เช่น ช่วงล่าง, software update, อื่น)

ส่วนของผมนั้นคือมาจากต่างประเทศและไม่อยากซื้อรถขับระหว่างที่อยู่ที่ไทยนะครับ ส่วนจะไปยืมรถจากค่ายรถเพื่อมารีวิวก็ได้แค่ 1-3 วันเอง ซึ่งมันไม่พอที่ผมจะขับขึ้นไปทำธุระที่เชียงใหม่ครับ เลยตัดสินใจเช่ารถเองซะเลยครับ ส่วนจะไปเช่ารถน้ำมันวันล่ะ 800 – 1,000 บาทขับก็ไม่ชอบเรื่อง Performance (สมรรถภาพ)ของรถครับ และอีกอย่างก็ไม่อยากกลับไปขับรถน้ำมันจริงๆครับ (เหตุผลส่วนตัวเยอะมากๆ) ถ้าเลือกได้ ผมขอเลือกเช่ารถ EV ดีกว่าครับเพราะสบายใจเรื่องชาร์จไฟบ้านและก็ไม่ต้องปวดหัวจังหวะตอนขับเร่งแซงครับ

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

Follow by Email