Blink Blink
ReviewTeslaUSA

รีวิว Tesla Model 3 กทม. – หาดใหญ่ 1,100 บาท(946 km)

สวัสดีครับ หลังจากผมโพสกระทู้ รีวิวขับรถ Tesla Model 3 เดินทางไปกลับ กทม-พัทยาด้วยค่าไฟ 0 บาท(Model 3 Long Range) ผมได้รับการติดต่อมากมายมาจากผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นเส้นทาง เชียงใหม่ – แม่สะเรียง(Model 3 Long Range) , เชียงใหม่ – กทม(อยู่ระหว่างการเขียนกระทู้ MG EP EV) , และกระทู้นี้ กทม. – หาดใหญ่ (Tesla Model 3 Performance)

หมายเหตุ : คุณเจตรินเขียนข้อมูลในโพส facebook เอาไว้ดีมากๆ ครับ ผมจะทำการใส่ข้อความของแกเข้าไปเพื่อให้กระทู้นี้มีกลิ่นไอเป็นของแกไปเลยนะครับ ผมอาจจะมีการเสริมข้อมูลบางส่วนในกระทู้นี้แต่ 90 % ของเนื้อหานั้นเป็นของคุณเจตรินทั้งหมดครับ

วันนี้จะขออนุญาตมารีวิวการเดินทางไกลด้วยรถยนต์ Tesla Model 3 รุ่น Performance เพื่อเป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของหลายๆ ท่านภายในอนาคตอันใกล้นี้นะครับ

สเปครถที่ใช้ขับ

ก่อนอื่นเลยผมขอเอาสเปครถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 รุ่น Performance

  • Range (ระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง) 315 miles (504 km)
  • แบตเตอรี่ NMC ขนาด 75 kWh
  • อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 3.1 วินาที
  • ระบบขับเคลื่อน : มอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว(หน้า 1, หลัง 1)
  • ขับเคลื่อน 4 ล้อ
  • ความแรง : 480 แรงม้า(มอเตอร์หน้า 197 แรงม้า, มอเตอร์หลัง 283 แรงม้า)
  • ความเร็วสูงสุด : 233 km/h

กทม – หาดใหญ่ : 1,100 บาท

เส้นทางกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ระยะทางเกือบ 1000 กิโลเมตร จอดแวะชาร์จทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งแรกที่ชะอำ, ครั้งที่สองที่ชุมพร-ท่าแซะ และครั้งที่สุดท้ายที่สุราษฎร์ธานี-พุนพิน โดยใช้บริการ DC Fast Charge 50kW ของทาง PEA Volta

กทม – ชะอำ : 156 km

  • ระยะทาง : 156 km
  • ค่าใช้จ่ายในการชาร์จ : 338 บาท
  • ได้ไฟไป : 45 kWh
  • ไฟเฉลี่ยหน่วยล่ะ : 7.1 บาท
  • เวลาในการชาร์จ : 57 นาที

เริ่มต้นออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลาประมาณเที่ยงตรงด้วยแบตเตอรี่(SoC) 65% จุดหมายแรกของเราคือสถานีชาร์จ PEA Volta ชะอำ (ตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมันบางจาก – ชะอำปาร์ค เป็นปั๊มใหม่พื้นที่กว้างขวาง มีร้านค้า/ร้านอาหารเยอะ, มี 7-11, แมคโดนัลด์ เป็นต้น) ระยะทางระหว่างกรุงเทพฯ-ชะอำ 156 กม.

เมื่อเดินทางถึงสถานีชาร์จ PEA Volta ชะอำ รถเหลือแบตเตอรี่ 31% (ใช้แบตเตอรี่ไป 34% หรือประมาณ 4.6 กม./แบต1% ใช้ความเร็วเฉลี่ยที่ประมาณ 90-100 กม./ชั่วโมง)

การชาร์จครั้งแรกใช้เวลาชาร์จไปทั้งสิ้น 57 นาที ได้ไฟฟ้ามาประมาณ 45 หน่วย หรือคิดเป็นประมาณ 56% ของแบตเตอรี่ครับ รวมกับของเดิมที่มี 31% ทำให้ได้แบตเตอรี่อยู่ที่ประมาณ 87% ก่อนออกเดินทางไปยังจุดหมายถัดไป และเนื่องจากเป็นการชาร์จไฟฟ้าในช่วงเวลา Peak ทำให้ราคาค่าไฟฟ้าต่อหน่วยค่อนข้างสูงหน่อย หน่วยละ 7.5 บาท เบ็ดเสร็จจากการชาร์จครั้งแรกที่ชะอำจ่ายค่าไฟฟ้าไป 338 บาทครับ

หมายเหตุ : App PEA Volta นั้นไม่อนุญาตให้เปลี่ยนรูปรถนะครับ ใน App นั้นมีรูปรถคันเดียวคือ MG ZS EV ดังนั้นไม่ว่าคุณจะขับรถรุ่นไหน ตอนดูในมือถือมันจะขึ้นเป็น MG ZS EV แบบนี้ครับ
เรียน App Dev ของ PEA Volta ที่อ่านดูอยู่นี้ปรับปรุงแก้ไขด้วยนะครับ ^^

ชะอำ – ชุมพร : 288 km

  • ระยะทาง : 288 km
  • ค่าใช้จ่ายในการชาร์จ : 355 บาท
  • ได้ไฟไป : 47 kWh
  • ไฟเฉลี่ยหน่วยล่ะ : 7.55 บาท
  • เวลาในการชาร์จ : 61 นาที

จุดหมายถัดไปของเราคือสถานีชาร์จ PEA Volta ชุมพร-ท่าแซะ (ตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมันบางจาก – ท่าแซะ) ระยะทางจากชะอำ – ชุมพร 288 กม.ครับ

เมื่อเดินทางถึงสถานีชาร์จ PEA Volta ชุมพร-ท่าแซะ รถของเราเหลือแบตเตอรี่ที่ 18% (ใช้แบตเตอรี่ไป 69% หรือประมาณ 4.2 กม./แบต1% รอบนี้ใช้ไฟเยอะกว่าปกติหน่อยครับ เนื่องจากมีการเร่งแซงค่อนข้างบ่อย)

การชาร์จครั้งที่สองใช้เวลาไปทั้งสิ้น 28+33 = 61 นาที ได้ไฟฟ้ามา 47 หน่วย หรือคิดเป็นประมาณ 60% รวมกับของเดิมที่เหลืออยู่ 18% เป็น 78% ก่อนเดินทางไปยังจุดหมายถัดไป จากการชาร์จครั้งที่สองเบ็ดเสร็จจ่ายค่าไฟฟ้าไปทั้งสิ้น 355 บาทครับ

ชุมพร – สุราษฎร์ธานี : 177 km

  • ระยะทาง : 177 km
  • ค่าใช้จ่ายในการชาร์จ : 305 บาท
  • ได้ไฟไป : 52 kWh
  • ไฟเฉลี่ยหน่วยล่ะ : 4.2 บาท
  • เวลาในการชาร์จ : 68 นาที

จุดหมายถัดไปของเราคือสถานีชาร์จ PEA Volta สุราษฎร์ธานี-พุนพิน (ตั้งอยู่ในปั๊มบางจาก พุนพิน มีร้านค้า/ร้านอาหาร, มี7-11) ระยะทางจากชุมพร – สุราษฎร์ธานี 177 กม.

เมื่อเดินทางถึงสถานีชาร์จ PEA Volta สุราษฎร์ธานี-พุนพิน รถของเราเหลือแบตเตอรี่ที่ 31% (ใช้แบตเตอรี่ไป 46% หรือประมาณ 3.9 กม./แบต1% รอบนี้ใช้ไฟเยอะกว่าปกติเช่นกัน เนื่องจากขับที่ความเร็วเฉลี่ยประมาณ 110-120 กม./ชม. และมีการเร่งแซงค่อนข้างบ่อย)

การชาร์จครั้งที่สามใช้เวลาไปทั้งสิ้น 68 นาที ได้ไฟฟ้ามา 52 หน่วย หรือคิดเป็นประมาณ 65% ของแบตเตอรี่ รวมกับของเดิมที่เหลืออยู่ 31% เป็น 96% (ที่ไม่ชาร์จจนเต็มเนื่องจากเมื่อได้แบต90-95%ไปแล้ว ระบบของรถจะชาร์จช้าพอสมควรเพื่อเป็นการถนอมแบตเตอรี่)
จากการชาร์จครั้งสุดท้ายนี้จะเป็นการชาร์จที่คาบเกี่ยวกับช่วงเวลา Off-peak (22.00-9.00 น.) โดยค่าไฟต่อหน่วยจะถูกลงมาเกือบครึ่งครับ เหลือเพียงหน่วยละ 4.2 บาท ทำให้รอบนี้เสียค่าไฟฟ้าไปเพียงแค่ 305 บาท

สุราษฎร์ธานี – หาดใหญ่ : 314 km

จากการชาร์จครั้งสุดท้ายที่สุราษฎร์ธานี หลังจากนี้จะเป็นการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางหาดใหญ่รวดเดียว ระยะทางประมาณ 314 กม.ครับ

เดินทางถึงหาดใหญ่เวลาประมาณตีสองพอดี เหลือแบตเตอรี่ที่ 24% (ใช้แบตเตอรี่ไป 72% หรือประมาณ 4.4 กม./แบต1%)

ใช้เวลาเดินทางรวมเวลาชาร์จไปทั้งสิ้น 14 ชั่วโมงครับ (รวมเวลาชาร์จทั้ง 3 ครั้ง ประมาณ 3 ชั่วโมง)

สรุปการเดินทาง กทม – หาดใหญ่

โดยสรุปจากการเดินทางครั้งนี้ใช้ไฟฟ้าไป 221% ของแบตเตอรี่ หรือคิดเป็นประมาณ 175 หน่วย
.
จ่ายค่าชาร์จไฟฟ้าของทาง PEA Volta ไปทั้งสิ้น 998 บาท ได้ไฟฟ้ามาทั้งหมด 144 หน่วย
นำมาคิดรวมกับค่าไฟฟ้าที่ชาร์จก่อนออกจากกรุงเทพอีก 31 หน่วย = 105 บาท (อ้างอิงจากค่าชาร์จไฟฟ้า AC ของ EA Anywhere หน่วยละ 3.4 บาท | 150บาท/4ชั่วโมง หรือ 44หน่วย)

รวมเป็นค่าไฟฟ้าที่จ่ายไปทั้งสิ้นสำหรับการเดินทางครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 1,100 บาท หรือคิดเป็นค่าไฟฟ้าต่อระยะทางได้ประมาณ 1.15 บาท/กม. ซึ่งถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับค่าน้ำมันครับ

จอดรอชาร์จไฟ 1 ชั่วโมงรู้สึกนานไหม?

จอดครั้งที่ 1 และ 3 ไม่นานเลยครับ เพราะแวะทานข้าวกับเข้าห้องน้ำไปด้วย แต่ตอนจอดครั้งที่ 2 ก็นั่งเปิดแอร์ดู Netflix ในรถไปแทนครับ

ทำไมถึงเปลี่ยนใจมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า?

หลักๆคืออยากลองและชอบความแรงครับ อีกส่วนนึงคือตอนนี้กำลังหันมาทำธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานสะอาด เช่น โซล่าร์เซลล์ เป็นต้น (บริษัท gste) และที่ชาร์จEV ด้วยครับ

จริงๆ ตอนแรกบริษัทของผมนั้นเริ่มต้นจากการให้บริการงานติดตั้งโทรคมนาคมให้กับหน่วยงานและองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน แต่ปัจจุบันได้ขยายมาสู่ธุรกิจพลังงานสะอาดโดยโฟกัสไปที่ EV และ Solar Cell

ผมเลยอยากเข้ามาลองProductกลุ่มนี้ให้รู้จริงด้วยครับว่าเป็นอย่างไรครับ

คันก่อนหน้าใช้น้ำมัน 3,000 บาทกับเส้นทางเดียวกันนี้

ก่อนผมซื้อ Tesla Model 3 Performance มาขับนั้น ผมขับ 2011 Porsche Cayenne S V8 อยู่ครับ ผมเคยขับทางไกล กทม-หาดใหญ่ ใช้น้ำมันไปประมาณ 3000 บาท (ตอนนั้น เมื่อกลางปี 2020 ราคาน้ำมันถูกกว่านี้เยอะด้วยครับ)

ส่วนอัตราเร่ง Tesla ดีกว่าเยอะครับ บอกตามตรงว่าพอได้ลองจริงติดใจรถ EV เลยครับ ช่วงล่าง model3 อาจจะกระด้างนิดนึงเพราะเป็นรุ่น Performance ด้วยครับ แก้มยางบาง แต่รวมๆคือดีครับ (ก่อนหน้านี้เคยมี Bias รถ EV มาก่อนด้วยครับ 😅)

ส่วนการใช้งานรถ EV ในเมือง เผลอๆสะดวกกว่ารถน้ำมันอีกครับ เพราะไม่ต้องแวะเติมน้ำมัน เพราะปกติก็ชาร์จแบตที่บ้านอยู่แล้ว ชาร์จครั้งนึงใช้ได้ 4-5 วัน สบายๆครับ

Blink Drive Take

ผมไม่ได้ค่าโฆษณาใดๆ จากบริษัท gste หรือคุณเจตครับ ถ้าสนใจรถ Tesla นี้หรือการติดตั้ง solar cell นั้นก็สามารถติดต่อเค้าไปได้ที่

Website : https://www.gste.co.th
Facebook : https://www.facebook.com/gstenergy
Line : @gste

ปล. ผมบริง Blink Drive ชอบทำ content สายนี้อยู่แล้วครับ ดังนั้น ผมให้ฟรี ทำด้วยใจครับ และขอบคุณคุณเจตด้วยที่หันมาทำธุรกิจช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมของไทยให้ดีขึ้นครับ

ผมอยากสร้างฐานข้อมูลการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าของ early adopter ให้คนไทยได้อ่านเพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับพวกเค้าที่กำลังลังเลจะเปลี่ยนถ่ายมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าดีไหมนะครับ

กติกาคือ ผมจะเขียนโพสรีวิวแต่เส้นทางที่คนยังไม่เคยขับรถยนต์ไฟฟ้าไป ถ้าเป็นเส้นทางที่ซ้ำกันแบบนี้ (กทม – หาดใหญ่) ผมขอแค่แชร์โพสในเพจนะครับ

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

ส่งข้อมูลที่น่าสนใจและอยากให้แปลมาได้ที่ THE FORTRESS

Follow by Email