Blink Blink
TeslaUSA

สเปค Model Y Juniper หลุด,​ มาพร้อมแบต 95 kWh

สวัสดีครับ ตอนแรกผมคิดว่าจะเลื่อนผ่านเรื่องนี้แล้วเพราะดูเหมือนเรื่องเพ้อฝันมากๆ เลยที่ Tesla จะผลิตรถ Tesla Model Y พร้อมแบตขนาด 95 kWh จนผมไปค้นหาข้อมูลไปเรื่อยก็พบว่า แหล่งข่าวที่มานั้นเป็นระดับโลกเลยอย่าง Forbes แถมในบทความนั้น Forbes ไม่ใช้คำว่า Rumor (ข่าวลือ)ด้วยครับ แต่กลับกลายเป็น Forbes ใช้คำว่า Leak(ข่าวหลุด) นั่นแสดงว่า Forbes มั่นใจอย่างมากกับข้อมูลนี้

ทำให้ผมค้นหาลึกลงไปอีกว่า source (แหล่งที่มา) ของข่าวหลุดนี้มาจากไหนก็พบใน reddit ว่า มันมาจากสเปคการผลิตใน Gigafactory Berlin หรือโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ในยุโรป(ตั้งอยู่เยอรมัน)ครับ เอาเป็นว่าเดี๋ยวจะเปิดเผยสเปคหลุด(หรือจะเรียกว่าข่าวลือจาก Forbes)มาเล่าให้ฟังแล้วกันนะครับ

สเปคแบตความจุเพิ่มขึ้น 26 %

คนใน Reddit ต่างให้ความเห็นแตกต่างกันไป เช่น แบตใหม่ที่ให้มาดูเหมือนจะให้มาเวอร์เกินไปเพราะมันจะไปชนกับ Tesla Model X รุ่นปัจจุบันที่มีความจุแบตที่ 100 kWh แต่บางกลุ่มก็มองว่า ถึงเวลาที่ Tesla จะเลิกทำตัวเป็นเสือนอนกินได้แล้วล่ะ เนื่องจาก Tesla Model 3 และ Tesla Model Y นั้นใช้แบต 75 kWh มาเป็นเวลาเกือบ 7 ปีแล้วนะครับ (ปล. Tesla Model 3 Long Range ส่งมอบครั้งแรกในปี 2017)

ถ้าไม่เปลี่ยนความจุแบตวันนี้ โดยรถ EV ฝั่งจีนแย่งส่วนแบ่งแน่นอนเพราะคู่แข่ง(ที่อยู่ใน Segment เดียวกัน)นั้นต่างหันมาผลิตรถ SUVที่มีความจุแบตทะลุ 80 kWh เกือบกันหมดแล้ว อันนี้ก็เป็นอานิสงส์ของฝั่งจีนที่ทำให้ Tesla ต้องมาปรับตัวเรื่องความจุแบตนะครับ โดยลูกค้าบางส่วนคาดหวังที่จะซื้อรถ Tesla ที่มี Range มากถึง 800 km ครับ ถ้า Tesla ต้องการทำรถที่วิ่งได้ 800 km จริงๆ ก็ต้องเปลี่ยนขนาดแบตให้ใหญ่ขึ้นประมาณ 26 % หรือเทียบเท่าความจุใหม่ที่ 95 kWh ครับ

อย่างไรก็ตาม Tesla เพิ่งประสบความสำเร็จเรื่องการผลิตแบตด้วย Dry-Cathode ได้นะครับ(ลดต้นทุนผลิตแบตไปประมาณ 56 %) ดังนั้นน่าจะมีความเป็นไปได้สูงที่ Tesla เตรียมการเปลี่ยนถ่ายครั้งใหญ่ภายในปลายปีนี้ครับ

เอาละครับ เดี๋ยวผมจะแจกแจงด้านล่างนี้ว่าสเปค Tesla Model Y ใหม่จะมีอะไรที่ upgrade จากเดิมโดยอ้างอิง Tesla Model 3 Refresh เอาไว้นะครับ

  • Performance : Tesla Model Y รุ่น Performance ต้องใช้มอเตอร์แบบใหม่เดียวกันกับ Tesla Model 3 Highland Performance ครับ ดังนั้น 0-100 km/h น่าจะไม่ห่างจาก Model 3 Performance Highland มากนัก อัตราเร่ง 0-100 km/h ก็น่าจะอยู่แถวๆ 3.2 – 3.3 วินาทีครับ
  • กระจังหน้าโฉมใกล้เคียงกับ Highland : ไฟหน้าจะเหมือน Highland โดยจะมีความโฉบเฉี่ยวมากกว่าตัวเดิมทั้งนี้สิ่งที่จะได้ตามมาคือ aero dynamic ที่ดีกว่าเดิมครับ(ประหยัดพลังงานกว่ารุ่นเดิมเวลาวิ่งทางไกล)
  • โช๊ค : โช๊คไฟฟ้าปรับได้ในรุ่น Performance และโช๊ครุ่นใหม่(ดีกว่าเดิม)ในรุ่น RWD และ Long Range
  • เบาะเป่าลมคู่หน้าเหมือน Tesla Model 3 Highland
  • จอหลัง : แน่นอนอยู่แล้วครับว่า Tesla Model 3 Highland มีจอหลังฉันใด , Tesla Model Y ต้องมีจอหลังฉันนั้นครับ
  • ไม่มีก้านไฟเลี้ยวและที่ปัดน้ำฝน : จริงๆ Tesla Model S, Tesla Model X, Tesla Cybertruck และ Tesla Model 3 Highland ก็ไม่มีมาซักพักแล้วครับ ยังไง Tesla Model Y Juniper ก็ต้องตามรุ่นพี่เช่นกันครับ
  • HW4 (AI4) กล้องชัดขึ้น frame rate มากขึ้น, และทำงานกับ FSD ได้ดีขึ้น(ฝั่งไทยยังไม่ได้ใช้) อันนี้ไม่เจาะลึกเยอะครับ แต่ถ้าใครสนใจก็ไปอ่านต่อได้ตรงนี้ครับ

สิ่งที่จะมาใน Tesla Model Y Juniper แต่ไม่มีใน Tesla Model 3 Highland

  • ไฟท้ายแบบยาวในแบบภาพด้านล่างนี้ครับ
  • กล้อง 360 องศา (ข่าวลือ) เนื่องจากตัว Tesla Model Y ที่ออกมาทดสอบนั้นมีการติดตั้งกล้องตรงกันชนหน้ารถไปด้วยนะครับ ดังนั้นมีโอกาสสูงที่จะถูกนำมาใช้งานครับ
  • แบตรุ่นใหม่ : ผมจะแปลกใจมากๆ ถ้า Tesla Model Y LR/Performance ใช้แบต 75 kWh เดิมๆ ในรุ่น Juniper ครับเพราะว่าปี 2025 นี้ทุกค่าย(ในจีน)ต่างขยับขึ้นไป 80-90 kWh กันแล้ว ถ้าใช้แบตเดิมจริงๆ จะเสียเปรียบ SUV EV คู่แข่งมากๆ เลย อาจจะไม่ถึง 95 kWh แต่ไม่ควรมาเท่ารุ่นเดิมครับ เพราะจะพ่ายแพ้คู่แข่งในระยะยาวครับ และผนวกกับข่าวลือว่า Gigafactory Berlin ก็จะใช้แบต 95 kWh ไปเลยอีกด้วยครับ

สิ่งที่มาใหม่โดยคาดการณ์(อาจจะมารุ่น global (ทั่วโลก))

  • รุ่น RWD อาจจะเขยิบไปใช้แบตเดียวกันกับ Long Range แบบฝั่งอเมริกาไปเลยเพื่อจะง่ายต่อการผลิตในเชิง volume (ปริมาณ)เยอะๆครับ
  • เบาะหลังจะถูกปรับให้มีพื้นที่รองรับต้นขามากขึ้นเหมือนของจีนตอนนี้ที่ถ้าอยากได้เพิ่มต้องจ่ายเงิน (อย่าลืมว่าการแข่งขันฝั่งจีนสูงขึ้น, เทสล่ามีโอกาสเปลี่ยน option ที่จ่ายเงินนี้เป็น default ติดมากับรถเลยครับ)

BLINK DRIVE TAKE

อีกสาเหตุที่ผมเห็นด้วยว่า Tesla Model Y ควรใช้แบตฉีกจากสเปคของ Tesla Model 3 (ขนาดเท่า Honda Civic)เลยก็เพราะว่าลำตัวของ Tesla Model Y นั้นเทียบเคียงกับ Honda CRV หรือ BMW X3 ไปแล้วครับ แต่กลับใช้แบตรุ่นเดียวกันกับ Tesla Model 3 มาตลอดทำให้ Range มันได้ออกมาแย่กว่ามาก ถ้า Tesla จะแก้เกมส์เรื่อง Range จริงๆ ก็คงต้องเพิ่มความจุแบตอย่างที่ forbes ว่ามาครับ

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ข้อมูลที่ออกมาจากเว็บไซต์ Tesla โดยตรง ดังนั้นก็ฟังหูไว้หูไปก่อนนะครับ จนกว่าจะเปิดตัวจริงภายในเร็วๆ นี้นะครับ

ส่วนเรื่องเปิดตัวนั้น อีลอนบอกเองว่าจะไม่มาปีนี้ ซึ่งอีลอนไม่ได้พูดว่าไม่มาภายใน 1-2 ปีนี้ ดังนั้นแปลว่าปี 2025(ปีหน้า)ก็เปิดตัวแน่นอนครับ

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

Follow by Email