พวกเรากำลังเดินทางมาถึงในยุคที่เส้นแบ่งระหว่างนิยายวิทยาศาสตร์และความเป็นจริงทางการแพทย์เริ่มเลือนลางมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะครับ
บริษัท Neuralink ก็กลายเป็นทัพหน้าของการบุกเบิกความสำเร็จทางการแพทย์แขนงใหม่ ซึ่งนั่นคือ “Blindsight” หรืออุปกรณ์ที่ทำให้คนตาบอดกลับมามองเห็นอีกครั้ง
อย่างที่ทุกคนทราบกันคือบริษัท Neural link นั้นพัฒนาเทคโนโลยีส่วนต่อประสานระหว่างสมองกับคอมพิวเตอร์ ที่เรียกว่า Brain Chip Interface (BCI) ที่ล้ำสมัยสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้ที่อาศัยอยู่ในความมืดเนื่องจากตาบอดให้กลับมามองเห็นอีกครั้ง
โปรเจคนี้มีชื่อว่า “Blindsight” ซึ่งมันไม่ได้เป็นเพียงแค่การก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดจินตนาการใหม่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนบนโลกซึ่งนั่นก็คือเปิดโลกในด้านการรับรู้ของผู้พิการทางสายตาขึ้นมาอีกครั้ง
ถ้านึกภาพอุปกรณ์ไม่ออกผมมีภาพปด้านล่างให้ตรงนี้ครับ
กลไกการฟื้นฟูการมองเห็นผ่าน BCIs
กระบวนการทำงานของอุปกรณ์ Blindsight นั้นเริ่มต้นด้วยการจับภาพข้อมูลภาพโดยใช้กล้องหรืออุปกรณ์ที่คล้ายกันกับกล้องวิดีโอทั่วไป
จากนั้นตัวกล้องจะทำการส่งข้อมูลนี้ไปประมวลผลโดยคอมพิวเตอร์( Neural Link ไม่ได้บอกว่าติดอยู่ที่ BCI หรือเป็นคอมพ์พกพากับคนที่ใช้งานเหมือน Apple Vision Pro แต่เดาว่าเฟสแรกน่าจะใหญ่เทอะทะแบบ Vision Pro ไปก่อนนะครับ) โดยตัวคอมพ์นั้นจะแปลงเป็นรูปภาพที่กล้องเห็นเป็นแบบที่สมองสามารถเข้าใจได้ ซึ่งการส่งสัญญาณข้อมูลนั้นไปที่สมองนั้นคือการส่งแบบอิมพัลส์ไฟฟ้า
อิมพัลส์เหล่านี้จะถูกส่งไปยังชิป BCI (อุปกรณ์ Neuralink ที่ฝังอยู่ในสมอง) ซึ่งจะกระตุ้นส่วนของสมองที่รับรู้ภาพในรูปแบบที่เลียนแบบการรับรู้ภาพตามธรรมชาติ
อุปกรณ์ตัวนี้สามารถใช้งานได้กับบุคคลที่มีสูญเสียการมองเห็น ไม่ว่าจะเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม(เกิดมาตาบอด) หรือการบาดเจ็บ(ตาแตก, ตาหลุด) หรือความเจ็บป่วย(เบาหวานขึ้นตาจนมองไม่เห็น) วิธีนี้จะเป็นประตูที่ช่วยให้สมองได้รับข้อมูล “ภาพ” โดยไม่ต้องพึ่งพาเส้นทางดั้งเดิมผ่านดวงตาและเส้นประสาทตา เป้าหมายสูงสุดคือการกระตุ้นสมองให้บุคคลสามารถตีความสัญญาณเหล่านี้เป็นข้อมูลภาพที่มีความหมาย หรือเรียกได้ว่า ทำให้เค้ากลับมามองเห็นอีกครั้ง ซึ่งให้การมองเห็นรูปแบบใหม่อย่างที่ไม่เคยมีมนุษย์คนไทยทำได้มาก่อน
ที่มา : X News Daily
BLINK DRIVE TAKE
ตอนนี้บริษัท Neural link หวังว่า FDA [Food and Drug Administration] (องค์กรอาหารและยา)ของอเมริกาจะอนุมัติให้ใช้กับคนได้เร็วๆ ด้วยนะครับ และคาดว่าจะทำออกมาขายได้เร็วๆ นี้ครับ
ผมมองว่า กล้องที่เอามาใช้นั้นความละเอียดอาจจะสู้ลูกตาคนไม่ได้แน่นอน แต่อาจจะมีฟังชั่นอื่นที่มาทดแทนเช่น อินฟราเรดติดกล้องที่ทำให้ผู้ใช้งานมองเห็นในตอนกลางคืน, เลนซูมที่เอามาใช้สำหรับซูมดูวัตถุที่อยู่ห่างไกลหรือไม่ก็เป็น Computer Vision ไปเลยแบบว่ามองวัตถุไหนก็บอกได้ว่ามันคืออะไรและอยู่ห่างจากเรากี่เมตรแบบในหนัง terminator ครับ
ยังไงผมทิ้งคลิปนี้เอาไว้ด้านล่างเผื่อใครสนใจอยากเปิดให้ญาติหรือคนรู้จักที่ไม่สามารถอ่านข้อความได้นะครับ
