Tesla เตรียมเปิดโรงงานผลิตแบตสำรองไฟ(การสำรองไฟระดับเมือง) Tesla Energy GigaFactory ณ Giga Shanghai ในประเทศจีน เพื่อผลิตแบต Megapack ที่มีความจุต่อแพ๊คที่ 3,900 kWh หรือ 3.9 mWh โดยโรงงานแห่งนี้จะเริ่มก่อสร้างภายในต้นปี 2024 และจะเริ่มผลิตปลายปี 2024 กำลังการผลิตอยู่ที่ 10,000 แพ๊คต่อปี แบตเตอรี่ชนิดนี้จะมาเปลี่ยนโลกยังไง เดี๋ยวผมจะมาเจาะสเปคแบตตัวนี้พร้อมข้อมูลต่างๆ ดังนี้นะครับ
สเปค Tesla Megapack
หลักๆ นั้น Powerpack ของ Tesla จะมีสองสเปคนะครับคือสเปคสำรองไฟ 2 ชั่วโมงกับสำรองไฟ 4 ชั่วโมงโดยแบ่งสเปคออกเป็นดังนี้
สำรองไฟ 2 ชั่วโมง
- ปล่อยไฟได้สูงสุดที่ความแรง 1,927 kW
- ความจุแบต 3,854 kWh
- ประสิทธิภาพการปล่อยไฟและรับไฟกลับเข้าแบต 92.0%
สำรองไฟ 4 ชั่วโมง
- ปล่อยไฟได้สูงสุดที่ความแรง 970 kW
- ความจุแบต 3,878 kWh
- ประสิทธิภาพการปล่อยไฟและรับไฟกลับเข้าแบต 93.5%
สเปคของ Megapack
- ใช้ไฟที่ 480 โวล์ท AC 3 เฟส
- ขนาดตู้ 359 นิ้ว(กว้าง) x 65 นิ้ว(ยาว) x 110 นิ้ว(สูง)
- น้ำหนัก 83,996 ปอนด์หรือ 38 ตัน(38,000 kg)
- Ratings and Certifications: IP66, UL 1973 / 9540 / 9540A / 1741
ค่าใช้จ่ายในการซื้อมาใช้นั้นจะตกแพ๊คละ 80 ล้านบาทนะครับและจะมีค่าบำรุงรักษาจากทาง Tesla ปีละ $6,570 หรือ 222,000 บาท
Megapack นั้นคือหนึ่งในอุปกรณ์ของระบบ BESS นะครับเดี๋ยวผมจะขอเจาะลึกระบบนี้อีกหน่อยนะครับ
Battery Energy Storage System ทำงานยังไง?
ผมขอยกตัวอย่างของกราฟการใช้ไฟฟ้าของ ต. บ้านคุณแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่จาก PEA มา ณ ตรงนี้นะครับ
ทุกท่านจะเห็นกราฟการผลิตไฟฟ้าด้านล่างนี้โดย
- PV คือการผลิตไฟฟ้าโดย Photovoltaic systems หรือการผลิตไฟฟ้าด้วยแผงรับแสงอาทิตย์(Solar Cell)
- BESS ย่อมาจาก Battery Energy Storage System คือการกักเก็บไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่นะครับ
- Grid คือการส่งไฟฟ้ามาจากหลวง(ไฟส่งตามสายไฟ)ซึ่งมันก็คือการรับไฟจากแหล่งผลิตไฟที่อื่นหรืออำเภออื่น
- Load Profile คือการใช้ไฟในแต่ละชั่วโมงของวันครับ
เราจะเห็นในกราฟว่าเส้น Pv (สีแดงนั้นผลิตไฟฟ้า)ได้มากที่สุดช่วง 9 โมงเช้าถึงบ่าย 3 โมงเย็น หลังจากนั้นคือไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้เลย
แต่เอาจริงๆ การใช้งานไฟฟ้า Load Profile นั้นมันใช้งานเยอะที่สุดคือตอน 6 โมงเช้าถึง 8 โมงเช้าและจากนั้นก็จะมีการใช้ไฟนั้นจะสูงขึ้นอีกทีตอนบ่ายโมงและสูงขึ้นอย่างมีนัยยะประมาณ 4 โมงเย็นและสูงสุดที่ 2-3 ทุ่มและลงลดในช่วง 5 ทุ่มครับ
จะเรียกได้ว่าจะ solar cell แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยในการผลิตไฟฟ้าให้กับประชาชน บ้านคุณแปะ อำเภอจอมทอง ใช้ตามช่วงเวลาที่ผลิตไฟฟ้าได้ ดังนั้นก็ต้องเอา grid (ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานอื่นหรืออำเภออื่น)มาทดแทนในช่วงนั้นๆ
แต่ PEA เลือกที่จะใช้ Solution (ทางเลือก)อื่นคือการเอา BESS หรือแบตสำรองไฟนั้นมาจ่ายไฟให้กับประชาชน ต. บ้านคุณแปะ อำเภอจอมทอง
สิ่งนึงที่เราจะสังเหตุเห็นได้ว่าตอนช่วงเย็น 5 โมงเย็นถึง 3 ทุ่มนั้น กราฟของ Grid(ไฟฟ้าที่ส่งเข้าจากแหล่งพลังงานอื่น) จะไม่สูงเกินกราฟของ Load profile (การใช้ไฟจริง)เลย เพราะมีแบตสำรอง BESS จ่ายไฟเข้า grid เพื่อลดโหลดของ Grid อยู่ครับ และสิ่งนึงที่เราจะเห็นได้คือ ช่วงเที่ยงคืนไปจนถึง 6 โมงเช้านั้น จะมีการดึงไฟจาก Grid มากกว่า Load Profile หรือการใช้ไฟจริงเพราะจะเอาไฟนั้นกลับไปชาร์จแบต BESS ครับ ทำให้ load (การใช้ไฟ)ของต. บ้านคุณแปะ อำเภอจอมทองนั้นไม่สูงจนเกินไปและช่วงที่ไม่มีการใช้ไฟนั้น grid ก็ไม่ได้จ่ายไฟทิ้งนั่นแหละครับเพราะมีแบตมาดึงไฟไปชาร์จเก็บเอาไว้ครับ อันนี้เรียกได้ว่าจะลดภาระของ Grid ได้อย่างดี
ถ้าดูกราฟฝั่งขวาจะเห็นได้ว่า ช่วงเวลา 6 โมงเช้าถึง 7 โมงเช้านั้นแบตเตอรี่จะถุกดึงไฟไปใช้จาก SoC 80 % เหลือเพียง 30 % จากนั้นตัวแบตจะถูกชาร์จเข้าไปอีกทีตอน 8 โมงเช้าถึงบ่าย 3 โมงจนไฟเต็ม 90% (รักษา SoC ไม่ให้เหวี่ยงเกิน Range 10- 90%)
แบตที่ PEA นำมาใช้นั้นเป็น BESS แบบ 100 kWh และจ่ายไฟได้เพียง 100 kW เท่านั้นเรียกได้ว่าไม่พอต่อการสำรองไฟในแต่ล่ะครับ เอาจริงๆครับ แบต 100 kWh นี่เท่ากับแบต MG ZS EV 2 คันเองครับ ดังนั้นถ้าเราสามารถหา Solution แบตที่ใหญ่กว่าได้ มันจะสามารถลดภาระโหลดของไฟหลวงและสามารถให้ประชาชนเข้าถึงพลังงานสะอาดได้มากยิ่งขึ้นแหละครับ
Megapack หนึ่งแพ๊คสำรองไฟให้บ้านขุนแปะ อ. จอมทองได้กี่วัน?
ถ้าเราดูคร่าวๆ จากเส้น load profile จริงๆ แล้วเราจะเห็นได้ว่ามีการใช้ไฟฟ้าแบบสูงๆ เพียง 10 ชั่วโมงต่อวันหรือเทียบเท่าการใช้ไฟ 1,000 kWh ต่อวัน ดังนั้น Power pack 1 pack จะสามารถสำรองไฟโดยไม่ได้รับไฟจากหลวงหรือจาก Solar Cell ได้ประมาณ 3 วัน(3,854 kWh) นะครับที่หมู่บ้านนี้ไม่ต้องพึ่งไฟหลวงเลย
แต่เอาจริงๆ มันมีรายละเอียดที่ลึกกว่านั้นนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่แผง solar cell จ่ายไฟชาร์จเข้าแบตหรือการเอาไฟตอนกลางคืนมาชาร์จอีกครับ
BLINK DRIVE TAKE
จุดคุ้มทุนของ Megapack นั้นจะยิ่งเติมเต็มเร็วขึ้นถ้าเมืองๆ นั้นมีการใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้นในช่วงกลางคืนแหละครับ เรียกได้ว่า รถยนต์ไฟฟ้าจะมาอุดรูรั่วเรื่องกำไรและขาดทุนของแต่ละเมืองเลยครับ เพราะเอาจริงๆ ถ้าเอา load ต่างๆ ไปกองกันในช่วง peak เท่ากับว่าพวกเราต้องพึ่งพา fossil fuel ในการเติมส่วน load ที่ขาดไปครับ ดังนั้นรถยนต์ไฟฟ้านี่แหละที่จะทำให้ Megapack และระบบ grid ต่างๆ สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเพราะคนส่วนใหญ่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าตอนไฟถูกครับ(ToU) ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเราจะชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าตอนกลางคืนมากกว่าตอนกลางวันนะครับ ฮ่าๆ
สิ่งนึงที่บอกได้เลยว่า ยุค Sustainable energy (พลังงานที่ยั่งยืน)ใกล้มาถึงเราเต็มทีแล้วครับ
การที่ Tesla มีกำลังการผลิต Megapack อยู่ที่ 10,000 แพ๊คต่อปี เท่ากับว่ามีหัวเมืองมากกว่า 100-500 หัวเมืองในปี 2024 นั้นที่จะได้เข้าถึงพลังงานสะอาดมากยิ่งขึ้นหรือมีการจัดเก็บพลังงานดียิ่งขึ้นไปครับ ในอนาคตอีก 3-5 ปีข้างหน้าลองคิดเล่นๆ ดูว่า Tesla สามารถลดต้นทุน Megapack ได้ 30-40% และสามารถส่ง Megapack ไปยังประเทศต่างๆ ได้ เท่ากับว่า โลกเราจะลดการพึ่งพาพลังงานสกปรกอย่างถ่านหินลงไปได้อีกเยอะเลยนะครับ
ปฏิเสธไม่ได้หรอกครับว่า เราจะไม่ได้ใช้ไฟฟ้าพลังงานสกปรกมาชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า แต่ถ้า Megapack กระจายตัวไปตามหัวเมืองต่างๆ เมื่อไหร่ พลังงาน Solar cell จะกลายเป็น main energy source ของเมืองได้อย่างแน่นอนครับ
มารอดูกันนะครับ