วันนี้ มีสมาชิกเพจ(คุณจูน)ได้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับ Tesla Model Y รุ่น Long Range ปี 2023 ที่เค้าซื้อจาก Tesla Official Thailand มาให้ผมดูนะครับ ผมจึงขอเอาข้อมูลของเค้ามารีวิวให้ทุกท่านได้ชมกันตรงนี้ครับ
รายละเอียดการจองและรับรถ [Early VIN Number]
คุณจูนแจ้งมาว่าแกจองตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค.65 ตอนเวลา 1 ทุ่มกว่าๆ ซึ่งเป็นวันแรกที่เปิดจอง ปรากฏว่า คิวใบรับรถพุ่งไป 3,195 คิวแล้ว ถือว่าเร็วมากๆ กับค่ายรถยนต์ที่ไม่เคยทำตลาดในประเทศไทย อาจจะเป็นสถิติใหม่ของไทยเลยนะครับ
รถที่ทำการจองไปนั้นคือ รถ CUV ไฟฟ้า Tesla model Y รุ่น Long Range ซื้อพร้อม EAP(Enhanced Auto Pilot) สีแดง(เพิ่มเงินอีก 80,000 บาท) ล้อแม็กดำ 20″(เพิ่มเงินอีก 80,000 บาท)
สเปค Tesla Model Y ปี 2023
สเปค Tesla Model Y ปี 2023 รุ่นส่งมอบในไทยนั้นจะไม่ต่างอะไรจากปี 2022 มากนักนะครับ
- CPU : AMD Ryzen
- Battery 12 Volt : Lithium
โดยหลักๆ คือ มี USS (Ultra Sonic Sensor) มาให้และก็ยังใช้กล้องรุ่นเก่าคือ 1.2 ล้านพิกเซล ตัวนี้ไม่มี Radar มาให้นะครับ ดังนั้น hardware โดยรวมยังเป็น HW 3.0 อยู่ครับ
1. ยอมจ่ายเงินสดเพราะรอมานานมากแล้ว
คุณจูนจ่ายเงินสดและเลือกสุ่มเลขทะเบียนรถเลยได้รับรถเร็วสุด เรียกได้ว่ารับรถคิวแรกๆของการส่งมอบเทสล่าเลยครับ
เดิมทีคุณจูนอยากซื้อ Tesla Model Y ตั้งแต่บริษัทแม่ยังไม่เข้ามาตั้ง official ในไทยอย่างเป็นทางการแล้วครับ แกเคยไปศึกษาราคาจากเกรย์นำเข้าปรากฏจบที่ 4.6 ล้านบาท ตอนนั้นเลยพับโครงการการซื้อเทสล่าไปเลยครับ
พอ Tesla Official มาเปิดขายไทย ซึ่งรุ่นและ custom ที่คุณจูนเลือกนั้นเหลือราคา 2.5ล้านบาท เลยกดจองแบบไม่ต้องคิดไปเลยครับ
คุณจูนแนะนำว่า ก่อนกดจองควรคิดรอบคอบว่าจะเอาสเป็กแบบไหนก่อนกดยืนยัน เพราจะทำให้ได้รถเร็วสุด เรากดทีเดียวแบบคิดถี่ถ้วนแล้วไม่เปลี่ยนอะไรเลยทุกอย่างเลยเร็วสุด
2.คุณภาพรถภายนอก+ภายใน
การประกอบ รอยต่อแต่ละจุดสมบูรณ์ 99.99%(ยังไม่เจอข้อติเผื่อไว้0.01%) มีแถมพรมงาน ok แต่ซื้อพรมสีแดงไวน์รอเปลี่ยนไว้แล้ว
เบาะนั่งหนังคุณภาพดีตอนแรกว่าจะเปลี่ยนสีเบาะเป็นแดงไวน์ ตอนนี้ไม่เปลี่ยนละใช้ไปก่อน นั่งสบายมีจุดนูนๆดันกลางหลังแบบที่ชอบเลย
กันชนหน้า – สีพ่นมาไม่ครบ?
ในด้านสีรถนั้น คุณจูนพบรอยข่วนเล็กๆ 1 จุดซึ่งต้องเพ่งถึงจะเห็นที่กันชนหน้าด้านขวา
แต่ที่สังเกตุได้ชัดๆ จะๆ เลยคือ ตรงช่องกลางหน้าด้านในสีเหมือนพ่นไม่เต็มสีแดงตรงรูพ่นไม่สุดเจอสีขาวแซมเล็กน้อย(พอรับได้ไม่น่าเกียจ)
ส่วนเรื่องการปรับตัวนั้น ถือว่าเป็นจุดที่ทุกคนต้องปรับตัวจริงจังคือเรื่อง จอควบคุมนะครับ คุณจูนยังมึนนิดๆของใหม่ต้องค่อยๆศึกษาแต่ดูแล้วใช้ง่ายแน่ๆ เพราะใช้งานเหมือน ipad คือนิ้วจิ้มล้วนๆสงสัยตรงไหนจิ้มตรงจุดนั้นจะมีป็อปอัพให้เลือกออกมา
3. การขับขี่
การขับขี่นั้น คุณจูนมองว่า ที่ให้มาใน standard นั้นคือเยอะมากๆ (แรงมากๆ) คุณจูนจึงเลือกแบบโหมดชิว (โหมดช้าที่สุดใน Tesla Model Y) ส่วนระบบเบรคนั้นคุณจูนเลือกใช้แบบ hold (เหมือนผมเลย) โหมดนี้คือโหมดที่เวลาเราถอดคันเร่งแล้วรถจะหน่วงคล้ายอาการเบรกจนรถหยุดซึ่งถ้าไม่เชี่ยวชาญโหมดนี้จริงๆ อาจจะสร้างปัญหาให้ผู้ร่วมเดินทางได้แหละครับ แต่ถ้าใช้งานไป 5-7 วันแล้วคุณจะรู้เลยว่ามันคือสวรรค์ของการขับรถในพื้นที่จราจรติดขัดเลยครับ การทำงานโหมดนี้ก็เหมือน one pedal mode ของ Nissan Leaf แตกต่างตรงที่ Regen ของ Tesla ดุมากๆ ปล่อยเท้านิดหน่อยหัวทิ่มทั้งรถ
ช่วงล่างนั้นเห็นหลายสำนักรีวิวว่ารถแข็งกระเด้งไม่นิ่ม แต่สำหรับคุณจูนนั้น คุณจูนบอกว่าช่วงล่างน่ารักกว่ารถคันล่าสุดอย่าง Mazda CX5 ซะอีก ตอนแรกเค้าคิดว่าช่วงล่าง Tesla จะเด้งแบบพวกรถกระบะ ที่ไหนได้นิ่มแบบถูกใจ
ยกคันเร่งแล้วไฟเบรคขึ้น
อันนี้เป็น safety อย่างหนึ่งของ Tesla ทุกคันนะครับ เพราะการยกคันเร่งนั้นจะเกิดการ brake แบบ regen brake ซึ่งมันเหมือนการเหยียบเบรคในรถสันดาปแหละครับ ดังนั้นแล้วระบบจะแสดงไฟเบรกขึ้นด้านท้ายรถเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถคันอื่นบนท้องถนนครับ
เราสามารถดูว่าไฟเบรครถเราขึ้นจากหน้าจอได้นะครับ ถ้าไฟตรงกลางของรูป icon รถในหน้าจอขึ้นแบบนี้แสดงว่ารถกำลังโชว์ไฟเบรคจริงจากภายนอกรถอยู่ครับ ดังนั้นอุ่นใจได้เลยครับว่าตัวรถทำการโชว์สัญลักษณ์ไฟเบรคอยู่ทุกครั้งที่คุณยกเท้าออกจากคันเร่งครับ
EAP (Enhanced Autopilot)
อัตราเร่งขอข้ามนะครับ ไม่ต้องรีวิวเพราะแรงสะใจจริงๆ สำคัญที่ประทับใจสุด EAP ที่ซื้อเพิ่ม ใช้งานดีมากรถมันขับเองได้จริงๆ
ตัวรถขับเก่งกว่าเจ้าของรถอีกโดยเฉพาะเวลารถติดรถมันจะเคลื่อนและหยุดตามคันหน้าแบบตอนจะหยุดจะเนี้ยบมากค่อยช้าจนหยุดนิ่ง ถ้าเดิมขับเองจะมีอาการตอนหยุดแบบกระตุกนิดๆ
ถ้าใครสนใจระบบช่วยขับของรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ก็สามารถรับชมกันได้ในคลิปนี้ครับ
4. ของแต่งเพิ่ม
- -ฟิล์มรอบคัน+หลังคา
- เคลือบเซรามิก+ฟิล์มกันรอย
- ชุดแต่งเคฟล่ารอบคัน
5. อยู่คอนโดชาร์จนอกอาคารตลอด
แต่พออยู่ๆ ไปก็เริ่มเข้าใจการชาร์จอย่างตู้ที่แกประทับใจ
อันนี้ถือว่าเป็นความกล้ามากๆ ของคุณจูนนะครับที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในคอนโดกลางใจกรุงแบบนี้ แกบอกว่า ติดต่อนิติบุคคลให้ติดตั้งที่ชาร์จแล้วแต่เค้าไม่ยอม สุดท้ายแกก็ชาร์จนอกคอนโดทุกวัน ซึ่งแกบอกว่า การชาร์จนอกคอนโดช่วงแรกก็งงๆ เพราะไม่เคยเดินทางไปสถานีชาร์จแถวนั้นมาก่อน
แต่พออยู่ๆ ไปก็เริ่มเข้าใจการชาร์จอย่างตู้ที่แกประทับใจการชาร์จก็เป็นของ EA ซึ่งค่าไฟ 6.5 บาทต่อหน่วย ถ้ามองว่าไฟกว่าไฟบ้านไหมก็แพงกว่าแน่นอน แต่ถ้าเทียบกับการเติมน้ำมันนั้น ผมว่าถูกกว่าระดับนึงเลยครับ
BLINK DRIVE TAKE
นี่ถือว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model Y ของไทยคันแรก ที่ซื้อผ่าน Tesla Official แล้วผมได้รีวิวนะครับ น่าจะบอกได้ว่า เป็น Tesla Model Y สีแดงคันแรกของไทยเลยก็ว่าได้ครับ เพราะราคาค่าสีตัวถังอย่างเดียวก็ 80,000 บาทแล้ว (warp ร้านข้างนอกประมาณ 20,000 บาท) ถ้าไม่รัก Tesla จริง ไม่ถอยสีแดงแน่นอนครับ
ส่วนเรื่องความแรงของรถคันนี้ก็ไม่ต้องสงสัยครับ คุณจูนบอกว่า ทุกวันนี้ปรับแค่ chill ก็แรงมากๆแล้ว แตะคันเร่งทีเดียวพุ่งแรงมาก ดังนั้นกำลังมหาศาลของ Model Y Long Range นี้ก็เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้วครับ