สวัสดีชาว Blink Drive ทุกท่านนะครับ วันนี้ผมได้สัมภาษณ์ผู้ใช้งาน Tesla Model 3 ในไทย(พี่อ้อย)ที่ใช้งานรถจนไมล์ทะลุ 100,000 km เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ
ก่อนเริ่มเรื่องผมอยากท้าวความกลับไปว่า คนไทยคนแรกที่ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ทะลุ 100,000 km แรกคือพี่โต๋แห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศอเมริกานะครับ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรครับที่พี่โต๋แกวิ่งรถไปถึง 156,000 km เพราะว่า แกได้รับรถมาในปี 2018 หรือจะเรียกว่าแกเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 มาขับครับ(รถของแกคือรุ่น Low VIN)หรือเฉลี่ยวิ่งปีละ 50,000 km กว่าๆ ครับ อย่างไรก็ตามรถพี่โต๋ถูกชนแล้ว Totaled(ตีเสียทั้งคัน)ไปแล้วนะครับ
ส่วนพี่อ้อยนั้นผมมองว่า อีก 1 ปีไมล์รถแกก็แซงจุดที่พี่โต๋อยู่ได้สบายๆ เพราะรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ที่แกใช้ในปัจจุบันเป็นรถปี 2021 นั่นก็เรียกได้ว่า พี่อ้อยขับรถปีละ 100,000 km กว่าๆ ครับ
ผมเชื่อว่า คนไทยที่ขับรถปีละ 100,000 km ส่วนใหญ่มีไม่เยอะและยังไม่กล้าหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า ดังนั้นโพสนี้จะเจาะลึกข้อมูลเหล่านี้ให้ผู้ใช้งานเหล่านั้นได้ทราบข้อเท็จจริงครับ
รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ที่ทุกท่านเห็นอยู่นี่คือรถรุ่น SR+ (Standard Range Plus : รุ่น Base(เริ่มต้น) ซึ่งจะมีแบตขนาด 54 kWh มาให้, ซึ่ง Tesla เปิดให้ใช้งานจริงๆ แค่ 52.6 kWh) ปี 2021 โดยแกให้ข้อมูลมาว่า ซื้อมาวันที่ 17 กันยายน 2564 (1 ปีที่แล้ว)มาวันนี้(1 กันยายน 2565)รถวิ่งทะลุ 100,000 km เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ดังนั้น ผมสามารถพูดได้เต็มปากว่า โพสนี้เป็นการสัมภาษณ์ผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ในไทยที่มีไมล์รถเยอะที่สุดได้เลยครับ และเชื่อว่าปีหน้ารถคันนี้มีสิทธิ์ทะลุ 200,000 km เป็นคันแรกของไทยอย่างแน่นอนครับ
เอาล่ะครับ มาเข้าเรื่องที่พวกเราอยากรู้กันดีกว่าเนอะว่า แบตเสื่อมไหม? , ซ่อมอะไรไปบ้าง? และก็ประหยัดแค่ไหนกันน้ากับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 คันนี้ให้ถึง 100,000 km
แบตเสื่อมหรือยัง?
อันนี้เป็นคำถามยอดฮิต โลกแตก จักรวาลระเบิดสำหรับคนที่สงสัยในตัวรถยนต์ไฟฟ้าอย่างมากครับ พอเราวางแผนซื้อรถยนต์ไฟฟ้าปุ๊บก็จะมีเสียงของผู้หวังดีมากรอกหูเราทันทีว่า “ระวังแบตเสื่อมน้าาาาาาาาาาา” ซึ่งทำให้คนหลายคนเขวในการตัดสินใจในช่วงที่ผมเริ่มทำเพจใหม่(ปี 2018) ทำให้ผมต้องรีบขยันทำ content รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นในช่วงนั้นเพื่อแก้ไขข้อมูลผิดๆ ที่กระจายออกไปนะครับ
ถ้ามองกันจริงๆ แล้วแบตมันเสื่อมง่ายขนาดนั้น ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Tesla มันคงไม่แซง Toyota Camry ในรัฐแคลิฟอร์เนียหรอกนะครับ(ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model Y อยู่ที่ 21,812 คัน, Toyota Camry 12,257 คัน, , Toyota RAV4 15,990 คัน, และ Honda Civic 11,057 คัน)
พี่อ้อยตอบว่า รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 SR+ ปี 2021 ของแกก็ยังใช้งานได้ปกตินะครับ เลยไม่รู้สึกว่า แบตเสื่อมแต่อย่างใด พอผมถามถึงเรื่อง Range(ระยะทางที่วิ่งได้) ก็ได้คำตอบประมาณนี้ครับ
กย. 64 ชาร์จเต็มได้ 426 กม.
กย.65 ชาร์จเต็มได้ 413กม.ยังไม่ได้เช็คแบตเสื่อมแบบจริงจังนะคะ
พี่อ้อย เจ้าของ Tesla Model 3
ถ้าคิดกันเล่นๆ คือ 426 – 413 = 13 km หรือเทียบเท่าแบตเสื่อมไป 3% เท่านั้นครับ เห้ยใช้งานมา 100,000 km แล้ว Range หายไป 3 % ทุกท่านคิดว่ายังไงครับ? รับได้กันไหมน้าาา? ^_^
เอาล่ะครับ มาถึงคำถามยอดฮิตอันดับสองนั่นก็คือ
ซ่อมอะไรไปแล้วบ้าง?
ไม่มีเลยค่ะ
พี่อ้อย
ประมาณนั้นครับ คำตอบอาจจะดูสั้นๆ แต่ได้ใจความนะครับ แต่ยังไงก็ตาม Blink Drive ก็ไม่ย่อท้อที่จะถามต่อเพื่อให้ได้ข้อมูลครบทุกมิตินะครับ ผมจึงถามต่อไปว่า…
รถไม่มีอะไรพังจริงๆหรอครับ? มีอะไรที่ต้องเปลี่ยนไหมครับ?
พี่อ้อยก็บอกว่า “จริงๆ มันก็มีการเปลี่ยนกระจกบานหน้าไปคะ เพราะว่าขับไปโดนสะเก็ดหินค่ะ แต่อันนั้นไม่เสียเงินเพราะเคลมกับประกันภัยของรถตัวเองที่เค้าแถมมา(1 ปีแรก) จริงๆ แล้วรอยก็ไม่ได้ใหญ่มาก แต่ถ้าปล่อยเอาไว้ก็มีโอกาสลามไปอีกเลยเคลมดีกว่าคะ”
ค่าบำรุงรักษา 11,000 บาท
พี่อ้อยแจ้งว่า จริงๆ แล้วรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 นั้นไม่ต้องบำรุงรักษาอะไรเลย แต่จำเป็นต้องเอาเข้าศูนย์จนครบระยะที่กำหนดคือ 50,000 km ไม่งั้นประกันรถที่ทำกับเกรย์เอาไว้จะขาดนะครับ
ส่วนภาพด้านล่างนี่คือค่าบำรุงรักษา 20,000 km แรกครับ
- กรองแอร์ : 3,900 บาท
- เช็คระยะ 1,200 บาท
- สลับยาง 1,200 บาท
- ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ 800 บาท
ส่วนการเชคระยะ 60,000 km และ 100,000 km นั้นมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,200 บาทเพราะพี่อ้อยแกเตรียม Air Filter (กรองแอร์)ไปให้ช่างเปลี่ยนให้นะครับ
ส่วนเรื่องยางนั้นก็เปลี่ยนตามอายุการใช้งานเหมือนรถยนต์น้ำมันทั่วไปครับ ค่าใช้จ่ายตรงนี้เป็นสิ่งที่รถทุกคันต้องเสียอยู่แล้ว
ดังนั้น ผมขอสรุปว่า พี่อ้อยขับรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 SR+ ปี 2021 มา 11 เดือนกว่าๆ นั้น เสียเงินค่าบำรุงรักษาทั้งหมด 11,000 บาทครับ พี่อ้อยจำเป็นต้องเข้าศูนย์ของเกรย์ไม่งั้นประกันมันจะขาดทันทีนะครับ เอาจริงๆ รถยนต์น้ำมันก็ต้องเสียค่าบำรุงตัวนี้เช่นกันเพื่อประคองประกันรถเอาไว้ครับ
คราวนี้ก็มาถึงคำถามสุดฮิตอันดับถัดไปคือ…
ก่อนมาซื้อ Tesla ใช้รถอะไรมาก่อน?
อย่างที่เห็นในภาพด้านล่างนั้น พี่อ้อยกับแฟนของแกเริ่มต้นโดยการใช้งานรถยนต์น้ำมัน Hybrid ในปี 2012 และหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า MG ZS EV ในปี 2019 หลังจากใช้งานไป 1-2 ปีก็ตัดสินใจได้แล้วว่า มันประหยัดมากๆ ประหยัดแบบว่าเอาเงินค่าน้ำมันที่เคยเติมนั้นมาผ่อนรถได้เลยครับทำให้แกตัดสินใจออกรถคันต่อไปนั่นก็คือ Tesla Model 3 SR+ ในปี 2021 ครับ
หมายเหตุ : อ้างอิงข้อมูลที่เห็นจากไมล์รถคือพี่อ้อยใช้งานรถเฉลี่ยเดือนละ 9,000 km หรือเทียบเท่าการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเดือนละครั้ง(1,000-2,000 บาทต่อครั้ง)และค่าน้ำมันเดือนละ 27,000 บาทจะเห็นได้ว่า ประหยัดเงินไปประมาณเดือนละ 20,000 บาท(หักลบค่าไฟแล้ว)
ทำไมถึงต้อง Tesla?
จริงๆ แล้วพี่อ้อยแกเป็นแฟนคลับ Tesla มานานแล้วนะครับ แต่ตอนที่จำเป็นต้องเปลี่ยนรถนั้น รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ยังไม่เข้าไทยครับ ทำให้แกต้องหันไปเล่น MG ZS EV ก่อนนะครับ
ชอบ tesla เป็นการส่วนตัวมานานแล้วค่ะ แต่ติดตรงตัวแทนในไทย พอ mg zs ev เปิดตัว เลยซื้อมาใช้ก่อน พอมั่นใจในรถไฟฟ้าก็เลยตัดสินใจซื้อ tesla ค่ะ
พี่อ้อย (เจ้าของ Tesla Model 3 SR+)
ไมล์รถยนต์ไฟฟ้า MG ZS EV ก็ไม่ได้น้อยหน้า Tesla Model 3 SR+ แต่อย่างใดครับ รถคันนี้วิ่งไปแล้ว 145,792 km ภายในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมานี้ครับ
ลองคิดเล่นๆ ว่า ถ้าขับรถยนต์น้ำมัน 145,792 km นั้นต้องเสียค่าน้ำมันไปประมาณ 400,000 บาท(SUV เหมือนกันตกค่าน้ำมันประมาณ 3 บาท/km) ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าถ้าชาร์จ DC สลับกับ AC อย่างคันนี้ก็ประมาณ 80,000 บาท(DC กิโลเมตรละ 1 บาท, AC กิโลเมตรละ 0.5 บาท)
สิ่งที่ชอบในรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 คันนี้
- อัตราเร่ง – ตอบสนองได้ดีกว่ารถน้ำมันมาก
- ความเรียบหรู – เหมือนได้ Apple ติดล้อมาเลย
- ความประหยัด – ประหยัดกว่ารถน้ำมันประมาณ 4-5 เท่า
- Software Update OTA(Over the Air) – update ทุกๆ 6 เดือน
สิ่งที่ไม่ชอบในรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 คันนี้
- ช่วงล่าง – ช่วงล่างรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 แข็งไปนิดนึง(เห็นด้วยครับ ผมก็รู้สึกว่า มันแข็งไปหน่อยเนอะ)
ถ้าจำเป็นซื้อรถคันต่อไป จะซื้อรถอะไร?
รถยนต์ไฟฟ้ายาวๆ เลยคะ ไม่เน้นยี่ห้อคะ
พี่อ้อย
ณ ปัจจุบันนั้น ครอบครัวคุณอ้อยกลายเป็นครอบครัวรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวไปแล้วครับ โดยเค้ามี MG ZS EV, MG EP, และ Tesla Model 3 ตอนนี้ธุรกิจของเค้ากำลังต้องการรถอีกคันมาใช้งาน เค้าก็เลยตัดสินใจถอย MG EP อีกคันครับ(ยังไม่ได้รับรถ)
BLINK DRIVE TAKE
**ครอบครัวพี่อ้อยนั้นครอบครองรถยนต์ไฟฟ้าเอาไว้ถึง 4 คันเลยนะครับ ยังไงก็ขอขอบคุณคุณหยงที่ทักเข้ามาให้เพื่อให้ผมเข้ามาสัมภาษณ์พี่อ้อยนะครับ
กระทู้นี้พิสูจน์แล้วว่า รถยนต์ไฟฟ้า Tesla นั้นสามารถใช้งานได้ถึง 100,000 km โดยไม่มีปัญหานะครับ ยังไงก็ตามเดี๋ยวถ้าพี่อ้อยขับรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 คันนี้ทะลุ 200,000 km เมื่อไหร่ผมจะเอาข้อมูลมากางให้ดูอีกครั้งว่ารถคันนี้จะซ่อมอะไรไปบ้างนะครับ
ในทางกลับกัน ผมสงสัยเหมือนกันนะว่า ถ้าขับรถยนต์น้ำมันทะลุ 100,000 km แล้วจะต้องบำรุงรักษาอะไรบ้างครับ(ใครมีข้อมูลแชร์กันเข้ามาได้นะครับ)
แต่เท่าที่ทราบมาคือรถ Tesla คันนี้ไม่ได้บำรุงรักษาอะไรเลยนอกจากเปลี่ยนยางกับเติมน้ำที่ปัดน้ำฝนครับ
