Blink Blink
TeslaUSA

Model Y เตรียมเข้าไทย(ผ่านเกร์ย)ตุลาคม64นี้, ซื้อยังไง? คู่แข่งค่ายไหนบ้าง? เปรียบเทียบกันแบบ 360 องศาไปเลย

สวัสดีครับ ผมได้ทราบข่าวมาจากผู้นำเข้าอิสระท่านนึงในไทยว่าตอนนี้ Tesla ณ ประเทศฮ่องกง เริ่มเปิดให้สั่งจองรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model Y กันได้แล้วนะครับ เดี๋ยวยังไงผมจะเล่าประวัติรถคันนี้ตั้งแต่โรงงานที่ใช้ผลิตจนไปถึงคู่แข่งรถคันนี้ในประเทศไทยไปเลยนะครับ

ประวัติความเป็นมา Tesla Model Y MIC

ตอนนี้ Tesla เริ่มผลิต Tesla Model Y ส่งมอบให้แก่ลูกค้าในประเทศจีนมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นใบจองทะลุ 10,000 ใบภายในระยะเวลา 10 ชั่วโมงจนทำให้เว็บ Tesla ล่มไปในที่สุด ตอนนี้ผมได้ข่าวมาว่าถ้าจะซื้อ Tesla Model Y ที่จีนนั้นจะต้องจองล่วงหน้าประมาณ 8 สัปดาห์นะครับ ทำให้คนจีนหลายคนหันไปเล่นรถค่ายอื่นก็มีเพราะเค้าได้สิทธิ์ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกแบบมีส่วนลด ถ้าเค้าไม่ใช้สิทธิ์ภายในระยะเวลาที่กำหนด ผลพลอยได้เลยตกไปที่ Xpeng กับ Nio ซึ่งผมก็เชียร์สองค่ายนี้เช่นกันครับ เพราะพวกเค้าผลิตรถได้มาตราฐานใกล้เคียงกันเทสล่ากันเลยทีเดียว (เสียดายไม่ทำรุ่นพวงมาลัยขวามาขายซักที)

Tesla Model Y รุ่น SR+ (ถูกสุด)ผลิตที่จีนเท่านั้น

ณ วัน 15 กรกฎาคม 2564 นี้เป็นวันแรกที่ Tesla ได้รับการอนุมัติให้ขาย Tesla Model Y รุ่น SR+ (Standard Range Plus) ซักทีนะครับ ทำให้ราคาเริ่มต้นของ Tesla Model Y นั้นถูกลงมาอีกอย่างน้อยประมาณ 3 แสนกว่าบาท (Tesla Model Y SR+ นั้นไม่มีขายที่อเมริกาครับ ที่อเมริกานั้นจะมีรุ่นเริ่มต้นเป็น Tesla Model Y Long Range ไปเลยครับ) ทำให้ราคา Tesla Model Y ตัวเริ่มต้นในไทยนั้นจะต่ำเท่ากับ Tesla Model 3 ไปเลยครับ

Model Y พร้อมเข้าไทยเดือนตุลาคม

ส่วนไทยนั้นจะได้อานิสงส์นี้ไปด้วยเพราะว่าเกร์ยมาร์เก็ตของไทยนั้นนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจาก 2 ประเทศหลักๆ บนโลกด้วยกันคือ อังกฤษและฮ่องกงครับ Tesla Model Y รุ่น SR+ นี้กำลังจะไปโผล่ที่เกาะฮ่องกงภายใน 2-3 เดือนหลังจากนี้ครับ และเกร์ยมาร์เก็ต(ผู้นำเข้าอิสระ)ค่ายต่างๆในไทยก็จะเริ่มนำเข้ามาขายในเดือนถัดไปครับซึ่งมีกำหนดการว่า เร็วสุดน่าจะเป็นเดือนตุลาคม 2564 หรือถ้ามี delay เกิดขึ้นจะขึ้นประมาณเดือนพฤศจิกายน 2564 ครับ

ราคา + สเปค

อ้างอิงจาก HighwayautoThailand เค้าได้ทำการส่งราคาขาย Tesla Model Y ในไทยมาให้ผมนะครับ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า Grey Market ในไทยทุกเจ้าจะใช้ราคานี้เป็นมาตราฐานครับ

Standard Plus ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h = 5.6 วินาที
  • Range [ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งได้] 525 km
  • ระบบขับเคลื่อน = 2 ล้อหลัง
  • ความเร็วสูงสุด 217 km/h
  • 2.99 ล้านบาท (วารันตี 2 ปี 50,000 กิโลเมตร)
  • 3.15 ล้านบาท (วารันตี 5 ปี 100,000 กิโลเมตร)

Long Range ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท

อัตราเร่ง 0-100 km/h = 5 วินาที
Range [ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งได้] 594 km
ระบบขับเคลื่อน = 4 ล้อ (มอเตอร์ 2 ตัว)
ความเร็วสูงสุด 217 km/h

  • 3.59 ล้านบาท (วารันตี 2 ปี 50,000 กิโลเมตร)
  • 3.69 ล้านบาท (วารันตี 5 ปี 100,000 กิโลเมตร)

Performance ราคาเริ่มต้น 4.19 ล้านบาท

อัตราเร่ง 0-100 km/h = 3.3 วินาที
Range [ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งได้] 567 km
ระบบขับเคลื่อน = 4 ล้อ (มอเตอร์ 2 ตัว)
ความเร็วสูงสุด 261 km/h

  • 4.19 ล้านบาท (วารันตี 2 ปี 50,000 กิโลเมตร)
  • 4.29 ล้านบาท (วารันตี 5 ปี 100,000 กิโลเมตร)

หมายเหตุ : Grey Market แต่ล่ะเจ้านั้นแถมของแถมไม่เหมือนกันนะครับ ยังไงก็เชคเรื่องของแถมกับผู้นำเข้าอิสระกันเองตามอัธยาศัยครับ

อย่างเช่น ของเจ้านี้จะมาของแถมหลักๆ คือ ฟิล์มกระจกรถ Midas กับติดตั้งแท่นชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้ฟรีถึงบ้านครับซึ่งผมมองว่านี่น่าจะเป็น standard ของทุกเจ้าในไทยไปแล้วครับ

ซื้อ Tesla Model Y ที่ไหนได้บ้าง?

ผมบอกเลยว่า เอาตามที่ท่านสะดวกเลยครับ ลองเปิดหาข้อมูลใน internet เกี่ยวกับ Grey Market ที่ใกล้บ้านท่านหรือเจ้าประจำของท่านตามสะดวกเลยครับ

ผมเพียงแต่เอาข้อมูลของเจ้า HighwayautoThailand มาฝากเพียงเท่านั้นครับ เค้าไม่ได้ให้เงินค่า commission หรือค่าโฆษณา ถ้าเค้าขายรถได้ครับ เค้าเพียงแต่ให้ข้อมูลเรื่องราคาและวันจำหน่ายในไทยมาให้ครับ

ดังนั้นหาซื้อ Tesla Model Y ตามผู้นำเข้าอิสระที่ท่านชอบเลยครับ เพียงแต่เอาราคา, ประกันมาตราฐานของโพสนี้เป็นที่ตั้งเท่านั้นเองครับ

ปล. เจ้านี้มีข้อดีที่แตกต่างจากเจ้าอื่นเรื่องบริการหลังการขาย เค้าซ่อม Tesla ได้ทุกรุ่น(ยกเว้น Roadster รุ่นแรก)เพราะนำเข้าเครื่องมือซ่อมจากยุโรปและอเมริกาเข้ามา ซึ่งผมกำลังติดต่อเพื่อทำการรีวิวอุปกรณ์เหล่านั้นภายในเดือนกรกฎาคมนี้ครับและการติดตั้งที่ชาร์จ(รู้สึกว่าจะรับติดตั้งที่ชาร์จ 1 ที่ให้โดยไม่จำกัดระยะทางการเดินสายไฟครับ)

ส่วนเจ้าอื่นนั้นก็น่าจะใกล้เคียงกันครับ แต่อยากให้ท่านไปทำ research กันก่อนซื้อนะครับ

ซ่อมยังไง?

อย่างไรก็ตามเราคนไทยก็รู้กันว่า Tesla ไม่ได้มาเปิด official (ตัวแทนอย่างเป็นทางการ)ในไทยเพราะมีข้อตกลงทางการค้าหลายอย่างที่ไทยเรานั้นยังไม่ได้ไปคุยเทสล่าครับ

ทำให้ปัจจุบันนี้ช่องทางการซื้อเทสล่ามาขับในไทยนั้นมีเพียงอย่างเดียว คือซื้อผ่านผู้นำเข้าอิสระที่เราเรียกกันว่า Grey Market(เกร์ย มาร์เก็ต)

อารมณ์ก็เหมือนการที่เราซื้อมือถือ iphone เครื่องหิ้วตามมาบุญครองสมัยแรกๆ ที่มือถือ iphone เข้าไทยครับ คือ ซื้อได้ แต่ประกันนั้นไม่มีมาให้ ถ้าเครื่องเสียก็ตัวใครตัวมันหรือบางร้านก็จะรับประกันเครื่องให้ 30 – 90 วันเป็นต้นครับ

เกร์ยมาร์เก็ตในไทยก็ใช้ระบบนั้นเหมือนกันแต่จะดีหน่อยที่ว่า ซื้อที่ไหนก็ซ่อมที่นั่นครับ ด้วยความโชคดีที่ Tesla เป็นรถยนต์ไฟฟ้ามีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อยู่เยอะก็จริง แต่ถ้าเทียบชิ้นส่วนการขับเคลื่อนที่รถยนต์ไฟฟ้าจะมีเพียง 80 – 100 ชิ้น ส่วนรถยนต์น้ำมันนั้นมีมากถึง 3,000 – 4,000 ชิ้น ทำให้การซ่อมบำรุงและโอกาสเสียหายนั้นน้อยกว่ารถยนต์น้ำมันอย่างมาก

นี่ก็เป็นช่องทางสร้างโอกาสให้เกร์ย มาร์เก็ตในไทยหลายรายออกมาประกาศจุดยืนเรื่องระยะเวลาในการประกันรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ในไทยให้เยอะขึ้นกว่ารถนำเข้าจากค่ายอื่นนะครับ

มาตราฐานตามท้องตลาดทั่วไปคือวารันตี 2 ปี 50,000 กิโลเมตร

ส่วนค่ายที่ผมไปเอาข้อมูลมาจาก HighwayautoThailand นั้น เค้ามีวารันตี 5 ปี 100,000 กิโลเมตร ซึ่งต้องเพิ่มเงินอีกประมาณ 100,000 บาทนะครับ เนื่องจากคนที่รับผิดชอบในระยะเวลา 5 ปีหลังจากนี้ไปคือผู้นำเข้าอิสระรายนี้ครับ

หมายเหตุ : ผมเชื่อว่าเกร์ย มาร์เก็ตค่าอื่นๆ ก็เริ่มยกมาตราฐานการประกันอุปกรณ์และระบบขับเคลื่อนต่างๆ อย่างที่ผมกล่าวมาแล้วครับ ซึ่งข้อมูลที่ผมได้มานั้นน่าจะเป็นมาตราฐานในการซื้อรถ Tesla ในไทยได้แล้วครับ

เกร็ดความรู้ : การซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla หรือรถยนต์ Supercar ในไทยนั้นเป็นการนำเข้าทั้งคัน ซึ่งทางโชว์รูมจะไม่ได้เงื่อนไขการรับประกันจากทางศูนย์ Tesla โดยตรง ดังนั้นราคานี้เป็นราคาที่บวกค่าความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับชิ้นส่วนต่างๆของรถและระบบขับขี่ระหว่าง 2 ปีหรือ 5 ปีตามสัญญาประกันที่ทำเอาไว้กับโชว์รูมครับ ผมมองว่าราคาประกันนี่เป็นราคาที่น่าสนมากๆ เพราะเวลารถเราเสียขึ้นมาจริงๆ เราได้ซื้อความอุ่นใจเอาไว้แล้วครับ เรามีหน้าที่ขับไปเท่านั้น แต่อย่างที่รู้กันก็คือรถยนต์ไฟฟ้านั้นเสียยาก แต่การมีประกันเอาไว้อุ่นใจก็เป็นเรื่องดีครับ เพราะผมอยากบอกว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นมีค่าซ่อมบำรุงถูกมากๆครับ

บริการหลังการขายล่ะ?

ทุกวันนี้ผมได้พูดคุยกับผู้ใช้งาน Tesla ในอเมริกาเยอะมากๆ เป็นคนไทยก็เยอะ(มีถึง 8 คน)แล้วและเป็นฝรั่งก็แยะ โดย Tesla ไม่เหมือนค่ายรถยนต์อื่นๆ เรื่องบริการหลังการขายครับ รถยนต์ไฟฟ้านั้นไม่ต้อง service (บำรุง)อะไรมันเลยครับ ไม่มีการตรวจระยะ, ไม่มีการนำรถกลับเข้าศูนย์เพื่อเชคสภาพ เพราะทุกอย่างในรถเป็น IoT (Internet of Things) คือมันจะคุยกับ HQ (Head Quarter) ของ Tesla ผ่าน internet ทั้งหมด ดังนั้นใครที่ซื้อ Tesla ไปก็จะไม่ต้องเข้าศูนย์ให้บริการเลย ยกเว้นแต่จะเจอปัญหาอย่างพี่คนด้านล่างนี้

อย่างรุ่นพี่ผมคนนี้ (พี่โต๋) เค้าใช้งาน Tesla Model 3 มามากกว่า 122,000 km แล้วครับ เค้าบอกว่าจำไม่ได้แล้วว่าเข้าศูนย์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่แต่จำได้ว่าตอนซื้อรถปีแรกมาซ่อมเบรคไปแค่รอบเดียว และก็มีปัญหาตรงประตู port ชาร์จ(เฟืองมันไม่ค่อยดีซึ่งจะเป็นเฉพาะรุ่น low VIN(รุ่นแรกๆ)) และเรื่องสุดท้ายก็คือ air filter ภายในห้องโดยสารมีกลิ่นซึ่งเป็นการออกแบบ air flow รุ่นแรกๆ ที่ผลิตเท่านั้น พอรุ่นหลังปี 2019 มาก็ไม่มีปัญหานี้แล้วครับ

ปล. พี่โต๋เป็นคนไทยคนแรกที่ขับรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 นะครับและแกก็ยังเป็นคนไทยคนแรกที่ขับเยอะขนาดนี้ครับ ผมมีประสบการณ์ของแกมาแชร์ด้านล่างนี้ครับ ใครสนใจฟังเรื่องการให้บริการหลังการขายก็กรอไปแถวๆ 20 นาทีแล้วฟังดูได้เลยครับ หลักๆคือ แกถูกใจ Tesla มากๆ ครับ

ส่วน recall หรือการพัฒนารถให้ฉลาดขึ้นนั้น คุณป๊อบ (Tesla Model 3) ได้เคยแจ้งผมมาว่า เมื่อปีที่แล้ว Tesla Model 3 ของเค้าได้มีการ update ทั้ง patch เล็กและใหญ่รวมกันถึง 56 ครั้งผ่าน OTA(Over The Air) โดยการเชื่อมต่อ wifi หรือ 4G LTE ทั้งหมดครับ

ผู้อ่านทุกท่านลองคิดตามผมนะครับว่าถ้าเกิดต้องการ update รถยนต์น้ำมันเยอะขนาดนี้ ต่อให้ศูนย์ให้บริการที่ไหนในไทยก็ไม่สามารถให้บริการได้เยอะขนาดนี้ต่อคันต่อปีครับ เพราะต้องเสียเงินจ้างลูกจ้างไปเสียบ OBD Box เพื่อคุยกับรถอย่างต่ำ 1 ชั่วโมงต่อคัน ลองคิดดูว่าปีนึงศูนย์ให้บริการนั้นขายรถได้ 1,000 คันก็เท่ากับว่าต้องเสียเวลาของลูกจ้างไปประมาณ 56,000 ชั่วโมงหรือตีเป็นวันทำงานเท่ากับ 7,000 วันครับ(วันทำงานวันล่ะ 8 ชั่วโมง) หรือเทียบเท่าการเอาคนงานประมาณ 35 คนมาทำงานวันธรรมดาทั้งปีครับ

Tesla Model Y ใหญ่แค่ไหน?

ผมเคยลองขับ Tesla Model Y มาทั้งหมด 2 ครั้งในชีวิตนะครับ ภายนอกของ Tesla Model Y นั้นจะดูเหมือน Tesla Model 3 มี hatchback แต่เอาจริงๆ แล้ว ขนาดของ Tesla Model Y นั้นใหญ่เท่า SUV แบบพวก Honda CRV, Benz GLC, หรือ Toyota Rav4 เลยล่ะครับ

ผมได้เอารายละเอียดขนาดของ Tesla Model Y มาวางเอาไว้ตรงนี้นะครับ

ขนาด Tesla Model Y Vs. รถหรูค่ายอื่น

ถ้าจะเปรียบเทียบในคลาสของรถหรู SUV ด้วยกันก็คงต้องเทียบกับพวก Benz GLC 300 หรือไม่ก็ Porsche Macan ไปเลยนะครับ

OptionsTesla Model YMercedes GLC 300Porsche Macan
Length187 in (4,750 mm)183.3 in (4,656 mm)185 in ( 4,699 mm)
Width (with mirrors)83.8 in (2,218 mm)82.5 in (2,096 mm)82.5 in ( 2,098 mm)
Height64 in (1,624 mm)64.7 in (1,643 mm)64 in ( 1,625 mm)
Wheelbase113.8 in (2,890 mm)113.1 in (2,873 mm)110.5 in ( 2,794 mm)

EV ที่เป็นคู่แข่ง Tesla Model Y ในไทย

Tesla Model Y นั้นเป็น Luxury SUV ไฟฟ้า ดังนั้นคู่แข่งรถ Tesla Model Y ในไทยก็ควรจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้เกิดความสมน้ำสมเนื้อกันหน่อยนะครับ

BMW iX3 ราคา 3.3 ล้านบาท

Volvo XC40 Pure electric ราคา 2.59 ล้านบาท

OptionsTesla Model YBMW iX3Volvo XC40 Pure electric
Length187 in (4,750 mm)186.3 in (4,734 mm)174 in ( 4,159 mm)
Width (with mirrors)83.8 in (2,218 mm)84.1 in (2,138 mm)82.5 in ( 2,034 mm)
Height64 in (1,624 mm)65.6 in (1,668 mm)65 in ( 1,652 mm)
Wheelbase113.8 in (2,890 mm)112.7 in (2,864 mm)106.3 in ( 2,702 mm)

ถ้าดูกันตรงนี้แล้วจะเห็นได้เลยว่า Tesla model Y นั้นมีขนาดลำตัวรถเท่ากับ BMW iX3 และ Volvo XC40 กันไปเลยครับ

สเปคเปรียบเทียบ Luxury SUV section

SpecTesla Model Y
SR+
Volvo XC40BMW iX3
ขนาดความจุแบต75 kWh78 kWh74 kWh
Range525 km420 km360 km
Top Speed217 km/h180 km/h180 km/h
0-100 km/h5.6 วินาที4.9 วินาที6.8 วินาที
ระบบขับเคลื่อน2 ล้อหลัง(มอเตอร์เดี่ยว)4 ล้อ(มอเตอร์คู่)2 ล้อหลัง(มอเตอร์เดี่ยว)
ราคา2.99 ล้านบาท2.59 ล้านบาท3.3 ล้านบาท
วันวางจำหน่ายตุลาคม 2564สิงหาคม 2564ปลายปี 2564

ถ้าเทียบกันแบบบรรทัดชนบรรทัดนั้น Volvo XC40 electric จะได้เปรียบมากกว่าคันอื่นๆ ในตารางครับ ส่วน Tesla Model Y เป็นคันเดียวที่ไม่มีการ lock speed มา ทำให้ Top Speed ทำได้ดีกว่าค่ายอื่นๆ ครับ อีกส่วนที่อยากให้ดูคือ เรื่อง software interface และ software update OTA นั้นของ Tesla นั้นทำคะแนนในเมืองนอกออกมาได้ดีกว่า 2 ค่ายที่เหลือครับ แม้ว่า Volvo จะมี Android เป็น backbone system ในการทำงานก็จริง แต่ประสบการณ์เรื่อง hardware synchronize กับ software นั้นยังตามเทสล่าอยู่ 3-5 ปีครับ

แต่ถ้าเรื่องราคา/kWh จะเห็นได้ว่า Volvo ทำคะแนนออกมาได้ดีที่สุดเลยครับ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ BMW iX3 จะมีเหนือกว่า Tesla และ Volvo นั้นก็คือเรื่องความนุ่มและการเกาะถนนของช่วงล่างรถซึ่ง BMW iX3 นั้นทำออกมาได้ดีกว่าทุกรุ่นในกระดานครับ

ผมเพียงเอาข้อมูลมาเปรียบเทียบกันตรงนี้พร้อมกับ comment ส่วนตัวที่ทราบมาจากต่างประเทศครับ

BLINK DRIVE TAKE

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

ส่งข้อมูลที่น่าสนใจและอยากให้แปลมาได้ที่ THE FORTRESS

Follow by Email