Blink Blink
TeslaUSA

Tesla เตรียมส่ง Model 2 hatchback ราคา 750,000 บาท($25,000) ลุยตลาดปี 2023

อ้างอิงข้อมูลจาก autocar ฝั่งประเทศอังกฤษแล้วนั้น เทสล่าได้ยืนยันที่จะส่ง Tesla Hatchback หรือ Tesla Model 2 ลงตลาดรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งการมาของรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 2 ครั้งนี้จะสะเทือนตลาดรถยนต์ทั้งโลกทันทีเนื่องจากราคาเริ่มต้นนั้นต่ำกว่า 1 ล้านบาทไปเสียแล้ว(ราคาเริ่มต้น Tesla Model 2 จะอยู่ที่ 750,000 บาทหรือ $25,000 ซึ่งถ้าเราเทียบกับราคาเริ่มต้น Tesla Model 3 ที่อเมริกาตอนนี้จะอยู่ที่ $40,000 หรือ 1.2 ล้านบาท ถือว่ารถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 2 นี้จะถูกกว่า Tesla Model 3 ไปถึง 37 % เลยทีเดียวครับ

ส่วนสาเหตุที่ Tesla จะลงมาเล่นตลาดรถราคาเข้าถึงได้แบบนี้ก็เพราะว่าฝั่งยุโรปนั้นเตรียมวางขายรถยนต์ไฟฟ้า Volkswagen ID3 Nissan Leaf (ตัวใหม่) และ Kia Niro ซึ่งรถเหล่านี้เป็น hatchback ทั้งหมดครับ autocar คาดการณ์เอาไว้ว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าประเภท hatchback จะเดือดระอุหลังปี 2023 แน่นอนเพราะเทคโนโลยีแบตที่มีราคาถูกลงด้วยครับ

แบต 4680 มาใช้ใน Model 2

แน่นอนว่า Tesla เตรียมใช้แบตเตอรี่ 4680 กับรถยนต์ไฟฟ้าทุกคันของเทสล่าภายใน 1-2 ปีจากนี้รวมไปถึง power wall (แบตสำรองไฟบ้าน) และ Megapack (แบตสำรองไฟระดับเมือง) อีกด้วย ถ้ามองกันตาม chart ตารางด้านล่างนี้จะเห็นได้ว่า รูปรถที่มีผ้าคลุมอยู่นั้นคือ Tesla Hatchback หรือ Tesla Model 2 ครับซึ่งจะใช้แบตที่ base จาก iron เป็นหลักครับ

ถ้าจะให้พูดเจาะจงความสามารถของแบต 4680 แต่ล่ะประเภทในตารางเกรงว่าจะกลายเป็นกระทู้เคมีไปเลยนะครับ สรุปสั้นๆ ง่ายๆ ว่า IRON BASED จะเป็นแบตเกรดต่ำสุดของ 4680 ซึ่ง kWh ต่อ kg นั้นจะน้อยกว่าแบต Nickel + Manganese หรือ แบต High Nickel ครับ หรือแปลให้สั้นกว่าเดิมคือ แบต IRON BASED เป็นแบตที่มีน้ำหนักเยอะกว่ารุ่นอื่นๆใน 4680 ที่เทียบเท่าความจุเท่ากันครับ

Tesla Model 2 มาพร้อม Range 400 km

อย่างไรก็ตามสิ่งที่อีลอนเคยพูดเอาไว้และต้องทำให้ได้คือลดต้นทุนการผลิตแบตให้ต่ำกว่า $100 หรือ 3,000 ต่อ 1 kWh ครับคิดง่ายๆว่า Tesla Model 3 รุ่น Long Range(แบตเยอะที่สุด) มีแบต 75 kWh แปลว่าต้นทุนแบตจะเหลือเพียง $7,500 หรือ 225,000 บาทหรือคิดเป็น 15 % ของราคารถครับ ณ ปัจจุบันนั้น แบต Tesla Model 3 จะมีต้นทุนแถวๆ $13,500 หรือ 405,000 บาทหรือเทียบเท่า 28 % ของราคารถครับ

ส่วน Tesla Model 2 นั้นจะทำ Range ให้ได้อยู่แถวๆ 250 ไมล์หรือ 400 km นั่นก็แปลว่าแบตใน Tesla Model 2 จะมีน้อยกว่า Model 3 อยู่ประมาณนึง ถ้าคิดคำนวณกันเล่นๆว่า Tesla Model 3 Long Range สามารถวิ่งได้ 353 ไมล์(464 km)ต่อการชาร์จ 1 ครั้งซึ่งรถคันนี้มีแบต 75 kWh หรือเรียกได้ว่า 1 kWh วิ่งได้ 7.52 km

ถ้า Model 2 วิ่งได้ 400 km นั่นก็แปลว่าแบตของ Tesla Model 2 น่าจะอยู่แถวๆ 53 kWh หรือเท่ากับแบต Tesla Model 3 SR+ หรืออาจจะมีความจุน้อยกว่าเพราะตัวถังของ Tesla Model 2 จะเล็กกว่า Tesla Model 3 ครับ แต่สมมุติว่า Tesla Model 2 มีแบต 53 kWh จริงๆ นั่นก็แปลว่าแบตที่อีลอนบอกราคาต้นทุนการผลิตเอาไว้ที่ $100 ต่อ kWh นั้นจะเท่ากับว่าแบตของ Model 2 จะมีต้นทุนเพียง $5,300 หรือ 160,000 บาท(ถูกมากๆ) เอาเป็นว่าลงเครื่องยนต์พร้อมเกียร์ลูกใหม่ยังแพงกว่าเปลี่ยนแบต Tesla Model 2 เลยครับ

BLINK DRIVE TAKE

ถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ อาจจะเป็นการล่มสลายของรถ eco car ในแถบยุโรป, อเมริกา, และประเทศอื่นๆ ทั่วโลกก็เป็นได้ แต่อีลอนพูดลอยๆ ว่าแถวปี 2023 เนอะ เราต้องมาดูกันว่าจะเป็นจริงได้ไหม แต่ไทยก็ยังเหมือนเดิมครับ ต่อให้ Tesla Model 2 ราคา 7.5 แสนบาท แต่ไม่ได้แปลว่าจะได้ขายในไทยราคานี้ครับผมว่าราคาน่าจะโดดไปแถวๆ 2-3 ล้านบาทเนอะ เพราะกำแพงภาษีเราแข็งแกร่งจริงๆ ทั้งนี้ที่ทำไปเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมรถยนต์น้ำมันในไทยครับ (แต่ผมสงสัยว่าหลังปี 2023 ไปเราจะผลิตรถยนต์น้ำมันไปขายแข่งกับ Tesla Model 2 ได้จริงๆ หรอครับ? ถ้าไม่ปรับตัววันนี้ ไทยอาจจะเป็นโกดักสองในปี 2023 ก็เป็นได้เนอะ… ผมพิมพ์ลอยๆ ครับ อยากให้บทความนี้ลอยไปหาลุงจัง

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

ส่งข้อมูลที่น่าสนใจและอยากให้แปลมาได้ที่ THE FORTRESS

Follow by Email