วันนี้ผมได้กำหนดการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model S และ Model X รุ่น Refresh จาก Insideev มาไว้ในมือแล้วนะครับ
Tesla เตรียมส่งมอบ Tesla Model S Refresh (โฉมใหม่)ภายในเดือนหน้านี้(มิถุนายน 2564) ซึ่งจะปล่อยรุ่น Plaid (รุ่นกลาง)วางขายก่อน จากนั้นอีก 2-3 เดือนจะส่งมอบรุ่นถูกสุดคือ Long Range ให้กับลูกค้า
กำหนดการส่งมอบ
Model S
- Tesla Model S Long Range : กันยายน – ตุลาคม 2564
- Tesla Model S Plaid : 3 มิถุนายน 2564
- Tesla Model S Plaid+ : กลางปีหน้า(2022)
Model X
- Tesla Model X Long Range : มกราคม-กุมภาพันธ์ 2565
- Tesla Model X Plaid : มกราคม-กุมภาพันธ์ 2565
ราคา
- Long Range : $79,990 (2.4 ล้านบาท)
- Plaid : $119,990 (3.6 ล้านบาท)
- Plaid+ : $139,990 (4.2 ล้านบาท)
อัตราเร่ง 0-100 km/h
- Long Range : 3.1 วินาที
- Plaid : 1.99 วินาที
- Plaid+ : ต่ำกว่า 1.99 วินาที
Range (ระยะทางที่วิ่งได้)
- Long Range : 659 km
- Plaid : 624 km
- Plaid+ : 832 km
Topspeed (ความเร็วสูงสุด)
- Long Range : 248 km/h
- Plaid : 320 km/h
- Plaid+ : 320 km/h
มอเตอร์ไฟฟ้าในแต่ล่ะรุ่น
- Long Range : 2 ตัว(หน้า/หลัง)
- Plaid : 3 ตัว(หน้า – 1 /หลัง – 2)
- Plaid+ : 3 ตัว(หน้า – 1 /หลัง – 2)
หมายเหตุ : รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model S Refresh และ Model X Refresh ทุกรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อทั้งหมด
สเปค Model S เฉพาะระบบภายในรถ
ระบบเครื่องเสียงและมีเดียต่างๆ(เกมส์ในรถ)
- ลำโพง Premium จำนวน 22 ตัวมาพร้อมระบบ active noise cancelling(ระบบขจัดเสียงรบกวนที่อยู่ในลำโพง hi-end ระดับโลกอย่าง Bose เป็นต้น)
- Bluetooth 5.0 – ระบบเชื่อมต่อมือถือหรือ tablet หลายเครื่องภายในระยะเวลาเดียวกัน (Multi-device music and media bluetooth)
- จอตรงกลางขนาด 17 นิ้ว, จอฝั่งคนขับขนาด 12.3 นิ้ว, และจอตรงกลางแถวหลังขนาด 8 นิ้ว
- CPU ประมวลผลแบบใหม่ความเร็ว 10 teraflops สำหรับเล่นเกมส์โดยเฉพาะ
- ระบบ Wireless รอบคันเพื่อใช้ควบคุมรถจากทางใกล้และทางไกล
ระบบอำนวยความสบายภายในรถ
- Heat seat(อุ่นเบาะ) – ทุกตำแหน่ง, มาพร้อมระบบอุ่นพวงมาลัยและอุ่นกระจกหน้ารถ (ปล.ระบบนี้ไม่ค่อยจำเป็นกับประเทศไทยเท่าไหร่ แต่สำหรับอเมริกานี่เรียกว่า จำเป็นมากๆ)
- Ventilated front seating – เบาะระบายอากาศคู่หน้า , เป็นเบาะที่มีพัดลมด้านในเป่าออกมาเพื่อระบายความร้อนของเบาะ เหมาะกับเมืองร้อนอย่างประเทศไทย
- Tri-zone Airwave – แอร์แบ่งความเย็นได้ออกเป็น 3 โซน(คนขับ, คนนั่งข้าง, คนนั่งหลัง)
- ระบบกรองอากาศ HEPA filter
- Custom profile entry-exit – โปรไฟล์รถสำหรับแต่ล่ะบุคคล ส่วนใหญ่รถหรูเช่น porsche จะมีระบบนี้คือ ถ้าคุณพ่อมาขับรถ, ภายในรถจะเปลี่ยนรูปแบบรองรับคุณพ่อ เช่น ตำแหน่งเบาะ, ตำแหน่งกระจกมองข้าง, ตำแหน่งกระจกมองหลัง, ความสว่างของจอรถ, และรูปแบบการขับขี่
- Ambient lighting – ระบบไฟหรี่ในห้องโดยสาร
- Tinted glass roof – ติดฟิล์มกระจกด้านบนให้แล้ว(อย่าทะลึ่งไปติดฟิล์มกระจกหลังคาเองนะครับ ถ้าทำแล้วกระจกร้าวเพราะความร้อนสะสม Tesla ไม่เคลมให้ครับ)
- เคลือบกระจกรอบคันให้เป็นแบบกันแสง UV ทั้งหมด
ระบบอำนวยความสะดวกภายในรถ
- Front center console – คอนโซลด้านหน้าแบบใหม่มาพร้อมฝาเลื่อนปิด-เปิดสำหรับใส่ที่วางแก้วและเก็บของ
- Second row stowable – ที่วางแขนด้านลงแบบพับลงมาได้, มีที่เก็บของเพิ่มและระบบ wireless charging เพิ่มมาให้
- ประตูหลังแบบเปิด-ปิด อัตโนมัติ
- พื้นที่ใส่สัมภาระด้านหลังขนาด 28 ลุกบาศฟุต
- ระบบชาร์จมือถือไร้สายด้านหน้าและด้านหลังรถ
- USB Type C Highpower : หน้า 2 port, หลัง 2 port ใช้ชาร์จ macbook pro ได้เลย
- Phone Key – ใช้มือถือเป็นกุญแจรถแทนกุญแจรถจริงๆ
- garage door opener – ระบบเปิด-ปิดประตูโรงจอดรถอัตโนมัติ เชื่อมต่อกับ GPS รถ
Premium Connectivity(ระบบเชื่อมต่อระบบ Tesla แบบ Premium ให้ใช้ฟรี 1 ปีเต็มๆ)
- Live traffic visualization – ดูการจราจรแบบ realtime
- Satellite-View Maps – แผนที่จากดาวเทียม
- ดูวิดีโอและ streaming จาก Netflix, Hulu, Youtube, Twitch และอื่นๆ
- Caraoke – ระบบคาราโอเกะในรถ
- Music Streaming -ระบบฟังเพลง streaming
- Internet Browser – ใช้งาน internet ในรถได้
*New features that become available after delivery may be subject to additional charges. หมายเหตุ : ฟีเจอร์ต่างๆ บางอันต้องจ่ายเพิ่มเองเช่น Netflix, hulu หรือ spotify
Tesla Model S และ Model X Refresh ไม่มีคันเกียร์
รูปภาพภายใน Tesla Model S Refresh
BLINK DRIVE TAKE
แปลกใจมากๆ ที่ Tesla ตัดสินใจเอา Tesla Model S Plaid ซึ่งเป็นรุ่นที่มีมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัวมาวางขายก่อนนะครับ ยังไงก็คงต้องมาดูกันว่า Tesla Model S Plaid นั้นจะใช้แบต 4680 (มีความเป็นไปได้อย่างมาก) หรือ 18650 (แบบเก่า) กันนะครับ