Blink Blink
TeslaUSA

รีวิวขั้นตอนการซื้อ Tesla Model 3 ในไทย

สวัสดีครับ เนื่องจากเมื่อวาน(11 มีนาคม 21)มีคนถามเข้ามาในห้อง “คุยเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า 50 นาที, จัดมา” ใน App : Clubhouse ว่า ถ้าจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ในไทยนั้นต้องเชคอะไรกันบ้าง

เบื้องต้นนั้นผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ผมมองว่ามันอาจจะผิดกฏหรือมารยาทใน Clubhouse อย่างแน่นอนถ้าผมเสนอให้ไปซื้อหรือสอบถามเรื่องรถจากโชว์รูมไหนในนั้น ผมเลยพยายามตรวจสอบข้อมูลใน internet ดู ปรากฏว่ายังไม่มีคนซื้อรถคนไหนมารีวิวเจาะลึกเรื่องรายละเอียดหรือบริการหลังการขายกันเลย หรือเรียกว่ายังไม่มีลูกค้าคนไหนซื้อไปแล้วมารีวิววิธีการซื้อและการตรวจสอบข้อมูลกันเลยว่าต้องเชคของอะไรบ้างจากผู้ขาย 

ผมเลยคิดว่าจะทำโพสนี้เอาไว้เป็นฐานข้อมูลให้คนที่วางแผนซื้อ Tesla Model 3 ในไทยได้อ่านกันนะครับ

ผมก็ได้เริ่มหาข้อมูลจากคนที่ใช้งาน Tesla Model 3 ทั้งในอเมริกาและไทยว่ามีโชว์รูมไหนที่ยินดีให้ผมสามารถสอบถามได้อย่างเต็มที่และรีวิวขั้นตอนต่างๆ ในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ในไทยได้บ้าง ปรากฏว่าผมได้ contact(ข้อมูลติดต่อ) ของโชว์รูมนำเข้ารถยนต์เจ้านึงในไทยที่เค้าสามารถนำเข้าเทสล่า โมเดลสามมานะครับ ผมเลยพยายามติดต่อโชว์รูมนั้นไปโดยยื่นข้อเสนอว่าถ้ารีวิวขั้นตอนการซื้อทุกอย่างหมดแล้วจะทำการโฆษณาร้านของเค้าเป็นการแลกเปลี่ยนกับข้อมูลส่วนนี้ครับ

โดยโจทย์ของผมนั้นคือ สมมุติว่า Blink Drive เป็นลูกค้าคนนึงที่เดินเข้าไปซื้อรถจากผู้นำเข้าอิสระรายนี้ ซึ่งผมขอรายละเอียดตั้งแต่ตอนเดินเข้าไปซื้อและขับออกมาเลยว่ามีขั้นตอนและรายละเอียดอย่างใดบ้าง หรือจะเรียกได้ว่า ให้เอาข้อมูลรีวิวออกมาเขียนอย่างละเอียด(แบบเม็ดทรายกันไปเลย 555+) เพื่อให้คนที่วางแผนจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ในไทยได้เห็นขั้นตอนกันอย่างเจาะลึกกันไปเลยครับ

จริงๆ รถ Tesla Model 3 คันนึงก็ราคา 3-4 ล้านบาท(ในไทย)นะครับ ผมมองว่า ถ้าใครวางแผนจะซื้อจริงๆ โพสนี้อาจจะช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้กับคุณอยู่ก็ได้ครับ ผมตั้งใจเขียนจริงๆ คือ ลงแรงไปกับโพสนี้มากกว่า 10 ชั่วโมงในการเขียนครับ เรียกได้ว่าโปรเจคนี้ใหญ่พอๆกับบทความ Battery

ก่อนอื่นเลย ถ้าคุณวางแผนจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ในไทยจริงๆ ก็คงต้องมาดูกันว่าจะนำเข้าจากประเทศไหนกันนะครับ ซึ่ง Tesla Model 3 พวงมาลัยขวานั้นจะมีขายอยู่ใน 2 ประเทศหลักๆ ก็คือ อังกฤษ กับ ฮ่องกงครับ เดี๋ยวผมจะขอเปรียบเทียบสเปคระหว่างอังกฤษกับฮ่องดังนี้นะครับ

ปล. โชว์รูมที่ผมได้ติดต่อขอรีวิวนั้นเป็นรุ่นนำเข้าจาก ฮ่องกง ปี 2021 น่ะครับ สเปคก็ตามด้านล่างนี้ครับ

Model 3 : ฮ่องกง Vs. อังกฤษ

ฮ่องกงอังกฤษ
Netflixไม่มีมี
youtubeไม่มีมี
Browserโดนรัฐบาลฮ่องกงสั่งบล๊อคมี
แบตเตอรี่LFP
lithium iron phosphate
Lithium-ion
การประกอบตัวถังดีปานกลาง

ส่วนหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 รุ่นผลิตจีน (MIC) นั้น ไม่มี Netflix กับ youtube ติดรถมาให้ ดังนั้นถ้าใครต้องการเปิด Netflix แบบเต็มจอตั้งแต่เริ่มใช้งานก็แนะนำให้ไปดูรถฝั่งอังกฤษได้ครับ ส่วนเรื่องการใช้งาน Internet Browser ในรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 รุ่น MIC ที่ได้มาจากฮ่องกงนั้นทำไม่ได้เพราะว่า รัฐบาลสั่งบล๊อคการใช้งาน Web Browsing ใน Tesla Model S มาตั้งแต่ปี 2014 พอรุ่นใหม่ๆ เข้ามาก็ต้องทำตามกฎเกณฑ์ของรัฐบาลครับ

รูปภาพ : คำสั่งแบนการใช้งาน Web Browser บนรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model S ณ ปี 2014 จึงเป็นผลทำให้รถยนต์ไฟฟ้า Tesla ทุกรุ่นที่ส่งมาจากฮ่องกงนั้นไม่มีระบบ entertainment อะไรทั้งนั้นครับ

แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ารถยนต์ไฟฟ้า MIC จากฝั่งฮ่องกงจะไม่ดีเสียทีเดียวนะครับ ยังไงแล้ว ผมจะลองเล่าข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า Tesla model 3 นำเข้าจากฮ่องกงให้ฟังนะครับ

ทำไมต้อง MIC จากฝั่งฮ่องกง

ผมมองว่ารถยนต์ไฟฟ้า Model 3 ที่มาจากฮ่องกงหรืออังกฤษนั้นก็ไม่ต่างอะไรกันเลย ดีไม่ดีคือมองแทบไม่ออกด้วยซ้ำว่าต่างกันยังไง แต่ถ้าเรื่อง entertainment (ระบบให้ความบันเทิง)ภายในรถแล้ว รถฝั่งอังกฤษได้เปรียบมากกว่าเพราะมีเกมส์, boombox (เสียงแตร์), Netflix ,และ youtube มาให้ แต่ถึงอย่างนั้นรถ Model 3 MIC จากฮ่องกงคันนี้ก็ไม่น่าเกลียดนะครับ ผมว่าเค้าได้แต้มต่อเรื่องต่างๆ ดังนี้

  • Fast Spare Part & Service – อย่างที่รู้ว่า Model 3 รุ่น MIC นั้นผลิตที่จีน ดังนั้นการสั่งอะไหล่เพื่อซ่อมแซมนั้นจะเร็วกว่าฝั่งอังกฤษ โดยทางโชว์รูมได้บอกผมว่า การสั่งอะไหล่จากฝั่งอังกฤษอาจจะต้องใช้เวลา 2-3 อาทิตย์ แต่ฝั่งฮ่องกงนั้นใช้เวลา 5-8 วันเท่านั้นเอง แถมทางโชว์รูมบอกว่าถ้ารถมีปัญหาอะไรก็สามารถส่งกลับไปยังฮ่องกงเพื่อทำการซ่อมแซมภายใน 2-3 อาทิตย์ได้เลย ส่วนฝั่งอังกฤษก็นับไปครับ ส่งไป 2 อาทิตย์ ส่งกลับอีก 2 อาทิตย์(ไม่รวมซ่อมรถ) ดังนั้นก็เอาข้อมูลนี้ไว้ใช้ในการตัดสินใจในการซื้อด้วยครับ
  • แบตรุ่นใหม่ (LFP) – แบตรุ่นนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะครับ เดี๋ยวผมจะอธิบายรายละเอียดต่างๆ ด้านล่างนี้
  • ตัวถังประกอบดีกว่า – แน่นอนอยู่แล้วครับว่าการประกอบฝั่งจีนนั้นดีกว่าฝั่งอเมริกาอย่างมาก ผมมีรูปมาให้ชมด้านล่างนี้ครับ

Tesla ใช้แบต LFP กับรุ่น MIC

LFP หรือย่อมาจาก lithium iron phosphate หรือแปลภาษาชาวบ้านคือแบตไม่มีโคโบล์ท(Cobalt Free) ข้อดีของแบต LFP ใน Model 3 รุ่น MIC (Made in China : ผลิตจีน) คือ Model 3 สามารถชาร์จได้เต็ม 100% แล้วแบตไม่เสื่อมเร็วอีกแล้ว

ถ้าเป็น Tesla Model 3 ที่ใช้แบตรุ่นก่อน เค้าจะแนะนำให้ชาร์จถึง 80 % เพื่อป้องกันแบตเสื่อมนะครับ

One is that the LFP battery can (and should, according to Tesla) be charged to 100% regularly, whereas the NCA battery should generally only be charged to 80%.

the driven

ปล. การที่แบตมี SoC ( State of Charge) น้อยเกินไป (ต่ำกว่า 5 %) หรือมากจนเกินไป(มากกว่า 90%) บ่อยๆ จะเป็นการทำลาย cell battery ครับ

ดังนั้น Tesla เลยนำ LFP มาใช้ทำแบตแทน Lithium-ion ที่ Tesla Model 3 ฝั่งอเมริกาใช้อยู่ครับ ข้อดีอีกข้อคือ Tesla ให้ Range (ระยะทางที่วิ่งได้)ของ Model 3 รุ่น MIC มากกว่าฝั่งอเมริกาถึง 10 km ครับ

แต่ข้อเสียก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีน่ะครับ ข้อเสียหลักๆ ของ LFP คือน้ำหนักครับ แบต LFP จะหนักกว่า Lithium-ion ครับ

  • Tesla Model 3 Standard Plus ฝั่งอังกฤษนั้นจะหนักประมาณ 3,627 ปอนด์ หรือ 1,645 kg
  • Tesla Model 3 Standard Plus ปี 2021 ฝั่งฮ่องกงหรือเรียกว่ารุ่น MIC นั้นจะหนักประมาณ 3,847 lb หรือ 1,745 kg

อีกข้อเสียคือแบต LFP กลัวความหนาวครับ ถ้าแบตเตอรี่อยู่ในอุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาแล้วจะชาร์จไฟเข้าช้ามาก ซึ่งไม่มีทางเกิดกับบ้านเราครับเนื่องจากไทยเรานั้นเป็นเมืองร้อน ต่อให้หนาวประมาณ 10-15 องศาเซลเซียส แต่รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้มีระบบ TMS (Thermal Management System) ในการควบคุมอุณหภูมิอยู่ดีครับ ดังนั้นเป็นไปได้ยากมากที่จะทำให้แบตมีอุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียสในไทยเวลาเราชาร์จครับ

หมายเหตุ : แบต LFP สำหรับที่ ใช้ ใน Model 3 รุ่น MIC (Made in China) นั้นจะมีเพียงรุ่น Standard Plus เท่านั้นที่ได้ใช้แบตประเภทนี้ ส่วน Long Range และ Performance ยังใช้แบตประเภท NMC เหมือนฝั่งอเมริกา

ที่มา : insideev

LFP คือ 1 Million miles battery

CATL ประกาศแล้วว่า พร้อมผลิตแบตเตอรี่รุ่นใหม่ที่มีความทนทานในการใช้งานได้มากถึง 2 ล้านกิโลเมตรหรือ 16 ปีต่อแบตเตอรี่รถยนต์ 1 แพ๊คและโรงงาน Gigafactory 3 ที่ตั้งอยู่เมืองเซี่ยงไฮ้, ประเทศจีนนั้นจะได้รับแบตรุ่นนี้ไปใช้ก่อนใครเพื่อนครับ

Contemporary Amperex Technology Co Ltd (CATL) นั้นมีความพร้อมในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถใช้งานได้ถึง 16 ปีหรือ 2 ล้านกิโลเมตร และเราพร้อมที่จะส่งมอบแบตเตอรี่ให้แก่โรงงานผลิตรถยนต์ต่างๆ ในจีนแล้ว

ผมได้คุยกับอีลอน มัคส์เกี่ยวกับเรื่องแบตเตอรี่ 2 ล้าน km แล้ว , ผมว่าเค้าเป็นกันเองกับผมมากๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตามสิ่งที่เค้าเป็นห่วงที่สุดคือเรื่องต้นทุนการผลิต ซึ่งบริษัท CATL กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะลดต้นทุนการผลิตลงไปให้เยอะกว่าเดิมท่าน

ประธาน Zeng Yuqun ซึ่งเป็นซีอีโอของ CATL ได้กล่าวเอาไว้ที่ Headquarter ของบริษัท ณ เมือง Ningde มณฑล ฟู๋เจี้ยน

ที่มา : CATL สร้างแบตให้ Tesla จีนสำเร็จแล้ว แบตก้อนนึงใช้งานได้อย่างต่ำ 2 ล้าน km หรือ 16 ปี

แบต CATL เสื่อมยากกว่า

อีกเรื่องนึงคือแบตตระกูล LFP นั้นไม่ค่อยดีกับการชาร์จเร็วครับ แต่ CATL ซึ่งเป็น supplier ให้กับ Tesla ได้แก้ไขปัญหานั้นแล้วและสามารถทำให้ Model 3 รุ่น MIC ที่ใช้แบต LFP นั้นสามารถชาร์จได้เร็วเหมือน lithium-ion ทั่วไป

ที่มา : insideev

มีข้อมูลยืนยันอีกแหล่งว่าฝั่งยุโรป, สิงคโปร์ล นิวซีแลนด์, และออสเตรเลียนั้นเริ่มนำเข้า Tesla รุ่น MIC กันแล้ว แต่ฝั่งอังกฤษนั้นยังเป็นรุ่นผลิตในอเมริกาอยู่นะครับ (ถึงอย่างไรก็ตามจากที่ฝรั่งคาดการณ์กัน MIC น่าจะไปถึงอังกฤษภายในเดือนเมษายนนี้ครับ เรียกได้ว่าใครอยากได้ MIC ก่อนก็ไปถอยมาจากโชว์รูมฝั่งฮ่องกงก่อนก็ได้ครับ)

ดังนั้นผมมองว่า Tesla Model 3 รุ่น MIC หรือรุ่นที่ใช้แบต LFP นั้นจะได้รับความนิยมไปเรื่อยๆ จนมากกว่าส่วนแบ่งการผลิตจากอเมริกาครับ

ส่วนถัดมาที่อยากให้ศึกษาคือเรื่องตัวถังครับ

Model 3 ฝั่งฮ่องกง [MIC]

เทสล่ารุ่นผลิตที่จีนนั้นไม่ใช่รุ่น copy and paste (ไม่ได้ copy ทั้งดุ้นแล้วนำมาผลิตต่อที่จีน) แต่เป็นการพัฒนาชิ้นส่วนภายในต่างๆ จากทีมเทสล่าของจีนให้ออกมาได้ดีกว่าเดิม ผมกล้ายืนยันเลยว่า “รุ่นที่ผลิตที่จีน จะมีคุณภาพเหนือกว่ารุ่นนำเข้าจากอเมริกา

ข้อความแปลจาก cyfoxcat (เว็บ weibo)

นี่คือ ภาพถ่ายจาก cyfoxcat ที่เค้าอ้างว่าเป็นเครื่องหมายยืนยันว่า การประกอบตัวถังจากโรงงานของจีนนั้นเหนือกว่าการประกอบตัวถังจากฝั่งอเมริกา

ส่วนนาย Ray4Tesla ซึ่งเป็นคนดังในวงการรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ฝั่งอเมริกาได้บอกว่า นักรีวิวรถยนต์ของจีน(สำนักข่าว Tencent Auto) ซึ่งปัจจุบันนายคนนี้ก็ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 (ตัวนำเข้า)มาใช้งานอยู่แล้ว แต่พอแกได้มาขับรุ่นที่ “ผลิตจีน” แกบอกได้เลยว่า คุณภาพนั้นคับแก้วอย่างมาก , นุ่นกว่า, เร็วกว่า, เสียงรบกวนน้อยกว่า รุ่นปัจจุบันที่แกใช้งานอยู่ครับ

ผมขอสรุปตรงนี้เลยว่า ถ้าเลือกรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ฝั่งอังกฤษนั้นจะมีข้อดี ดังนี้

  • น้ำหนักรถเบากว่า 100 kg – เพราะใช้แบต Lithium-ion รุ่นเดิม(NCA Battery)
  • ดู Netflix และ youtube จาก app ในรถได้ทันที

Tesla Model 3 ฝั่ง ฮ่องกง หรือ รุ่น MIC มีข้อดีต่างๆ ดังนี้

  • แบตรุ่นใหม่ LFP – ชาร์จเต็ม 100% ได้บ่อยๆโดยไม่ทำร้ายแบต (ที่มา : the driven), เป็นแบบ million miles คือวิ่งครบ 1 ล้านไมล์ก่อนแล้วค่อยเสื่อม(แบตใช้งานได้นานกว่าและวิ่งได้ไกลกว่า)
  • Range +10 km – ระยะทางที่วิ่งได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10 km จากฝั่งอังกฤษ
  • การประกอบตัวถัง – QC ตัวถังฝั่งจีนทำได้ดีมาตราฐาน QC ฝั่งอเมริกา

สรุป Model 3 : ฮ่องกง Vs. อังกฤษ

ถ้าคุณเป็นคนที่คำนึงถึงความเนี๊ยบของตัวถัง, แบตรุ่นใหม่กว่า(วิ่งได้ไกลกว่า, และเสื่อมยากกว่า), และเรื่องการส่งซ่อมรถในระยะเวลาอันสั้นนั้นรถ Model 3 จากฝั่งฮ่องกงจะเป็นตัวเลือกที่ดีเลยล่ะครับ ในทางกลับกันถ้าคุณเป็นคนที่สนใจเรื่อง Entertainment system เป็นหลัก เช่น Netflix, เล่นเกมส์ในรถ, ดูหนัง, และดูyoutube, รถ Model 3 ฝั่งอังกฤษจะตอบโจทย์คุณอย่างมากครับ

เอาล่ะครับ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นครับ เรามาดูตัวจริงของ Tesla Model 3 MIC ฝั่งฮ่องกงกันดีกว่าว่าหน้าตามันต่างจากหรือเหมือนกับ MIC ที่ทางจีนโม้เอาไว้แค่ไหนครับ

หมายเหตุ : ฟังชั่นเปลี่ยนเสียงแตร์(boom box)นั้นไม่มีทั้งในสองประเทศครับ เพราะว่าทางอังกฤษก็ไม่อนุญาตให้ใช้เสียงแตร์แปลกแบบนั้นเหมือนกัน

รีวิวตัวถังจริงในไทย

ผมก็ได้สอบถามขอข้อมูลและรูปภาพทั้งภายในและภายนอกรถยนต์ไฟฟ้า Tesla model 3 รุ่น MIC คันนี้(คันที่มาถึงโชว์รูมเค้าแล้ว) ว่ามันจะเหมือนอย่างที่ฝั่งจีนคุยเอาไว้ไหมว่ารถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 รุ่น MIC (Made in China) นั้นตัวถังดีจริงอย่างที่พูดหรือป่าวนะครับ มาดูกันครับว่า หน้าตา MIC ในไทยนั้นเป็นอย่างไร

ภายนอก MIC รุ่นนำเข้าไทย

รูปภาพ : ไฟหน้าฝั่งขวาของ Tesla Model 3
รูปภาพ : ด้านหน้าฝั่งซ้ายของ Tesla Model 3
รูปภาพ : ด้านจับประตูรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 (ปี 2021 นั้นจะเป็น Chrome delete มาจากโรงงานเลยหรือเรียกว่าลบสีโครมมาเลย)
รูปภาพ : ไฟท้ายฝั่งขวาของ Tesla Model 3
รูปภาพ : ไฟท้ายฝั่งซ้ายของ Tesla Model 3
รูป : หลังคาด้านหลังรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3

ภายใน Tesla Model 3

รูปภาพ : จอสัมผัสขนาด 15 นิ้วของ Tesla Model 3
รูปภาพ : คันเกียร์(ฝั่งขวา)รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3
รูปภาพ : ด้ามที่ปัดน้ำฝน(ฝั่งซ้าย)รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3

รูปภาพ : ปุ่มปิดฝาท้ายของ Tesla Model 3

อย่างที่รู้กันว่า Tesla Model 3 รุ่นปี 2021 หรือ refresh model นั้นจะมี power lift trunk หรือฝาท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติแถมมาให้แล้วนะครับ

รูปภาพ : โช๊คไฟฟ้าและปุ่มปิดฝาท้ายของ Tesla Model 3

รุปภาพ : ภายในห้องเก็บสัมภาระของ Tesla Model 3 ที่ให้พื้นที่มาทั้งหมด 15 ลูกบาศก์ฟุต
รูปภาพ : จอสัมผัสขนาด 15 นิ้วกลางรถมาพร้อม Wireless charging สำหรับมือถือ3
รูปภาพ : เบาะหน้าของ Tesla Model 3
รูปภาพ : เบาะ(หนัง)หลัง Tesla Model 3
รูปภาพ : วัสดุภายในของ Model 3 ในปี 2021 นั้นเปลี่ยนไปตรงคอนโซลตรงกลางนั้นจะเป็นแบบผิวด้านซึ่งไม่จะทิ้งรอยนิ้วมือเอาไว้เวลาไปสัมผัสโดน
รูปภาพ : คอนโซลตรงกลาง USB Type C เป็นแบบ Quick Charge สำหรับมือถือ
รูปภาพ : ถุงสีแดงนี้เป็น First Aid (ชุดปฐมพยาบาล)

สเปครถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3

สเปครถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 มีทั้งหมด 3 รุ่นหลักๆ คือ Standard Plus, Long Range, และ Performance โดยสเปคเหล่านี้จะแตกต่างกันแค่แบตและระบบขับเคลื่อนนะครับ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกของรถนั้นมีดังนี้ครับ

  • 12-way power adjustable heated front seats [เบาะนั่งปรับตำแหน่งไฟฟ้ามาพร้อมระบบ heat seat (เฉพาะคู่หน้า)]
  • Premium seat material and trim [เบาะหนังและอุปกรณ์ต่างๆ ระดับพรีเมี่ยม]
  • Upgraded audio – immersive sound [ระบบเสียงรุ่นใหม่ พัฒนาจากรุ่นปี 2020]
  • Center console with storage, 4 USB ports and wireless charging for 2 smartphones [ที่เก็บของตรงกลางรถ มาพร้อมหัวเสียบ USB ทั้งหมด 4 หัวและระบบชาร์จมือถือแบบไร้สายทั้งหมด 2 เครื่อง]
  • Tinted glass roof with ultraviolet and infrared protection [กระจกหลังคาติดฟิล์มป้องกันแสงอัลตร้าไวโอเล็ตและอินฟราเรดมาให้แล้ว]
  • Power folding, heated side mirrors [กระจกข้างพับได้มาพร้อมกับระบบอุ่นกระจก(ฟังชั่นนี้อาจจะไม่จำเป็นในบ้านเรา)]
  • Music and media over Bluetooth ® [ฟังเพลงได้จาก bluetooth (อันนี้รู้สึกว่าสามัญมากๆ) ]
  • Custom driver profiles [สร้างโปรไฟล์ขับขี่ของแต่ล่ะคน – อันนี้สำคัญมากๆ เพราะเวลาคนในครอบครัวเราเอารถไปขับก็กดโปรไฟล์ของเค้าซึ่งตำแหน่งเบาะ, กระจกมองข้าง, และฟังชั่นการใช้งานนั้นจะปรับเปลี่ยนไปเป็นของคนอื่นๆ จะสลับกับเราครับ]

ส่วนข้อมูลด้านล่างนี้เป็นราคาจากโชว์รูมนำเข้ารถยนต์อิสระ (Highway Auto Thailand เป็นเจ้าที่ผมไปขอรายละเอียดข้อมูลมารีวิวครับ)

หมายเหตุ : เค้าบอกว่า ราคากลางตลาดนั้นก็จะอยู่แถวๆ นี้ครับ

Standard Plus

อัตราเร่ง 0-100 km/h = 5.6 วินาที
Range [ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งได้] 448 km
ระบบขับเคลื่อน = 2 ล้อหลัง
ความเร็วสูงสุด 225 km/h

  • 2.99 ล้านบาท (วารันตี 2 ปี 50,000 กิโลเมตร)
  • 3.15 ล้านบาท (วารันตี 5 ปี 100,000 กิโลเมตร)

Long Range 

อัตราเร่ง 0-100 km/h = 4.4 วินาที
Range [ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งได้] 580 km
ระบบขับเคลื่อน = 4 ล้อ (มอเตอร์ 2 ตัว)
ความเร็วสูงสุด 233 km/h

  • 3.59 ล้านบาท (วารันตี 2 ปี 50,000 กิโลเมตร)
  • 3.69 ล้านบาท (วารันตี 5 ปี 100,000 กิโลเมตร)

Performance

อัตราเร่ง 0-100 km/h = 3.3 วินาที
Range [ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งได้] 567 km
ระบบขับเคลื่อน = 4 ล้อ (มอเตอร์ 2 ตัว)
ความเร็วสูงสุด 261 km/h

  • 4.19 ล้านบาท (วารันตี 2 ปี 50,000 กิโลเมตร)
  • 4.29 ล้านบาท (วารันตี 5 ปี 100,000 กิโลเมตร)

ราคาบริการหลังการขาย 2 แพ๊คเกจ

ทางโชว์รูมแห่งนี้แจ้งว่าเค้าทำราคามา 2 ราคาซึ่งผมลองสอบถามกลับไปถึงความแตกต่างราคารถประมาณ 100,000 บาทนี้ เค้าก็ได้แจ้งว่า สำหรับใครที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 นั้นจะมีระบบการรับประกันรถยนต์ให้เลือกทั้งหมด 2 อย่างหลักๆ ด้วยกันคือประกันอุปกรณ์และระบบขับเคลื่อน 2 ปี, ระยะทางจำกัดที่ 50,000 กิโลเมตรซึ่งนี่ก็คือประกันมาตราฐานที่ทางโชว์รูมให้มา ส่วนถ้าคุณมองว่าคุณเป็นคนขับรถเยอะและวางแผนจะซื้อรถคันนี้มาใช้งานให้คุ้มค่า เค้าก็แนะนำประกันระบบขับเคลื่อนที่ 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตรซึ่งแพงขึ้นมาอีก 100,000 บาทหรือ 3.33 % ของราคารถครับ

เกร็ดความรู้ : การซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla หรือรถยนต์ Supercar ในไทยนั้นเป็นการนำเข้าทั้งคัน ซึ่งทางโชว์รูมจะไม่ได้เงื่อนไขการรับประกันจากทางศูนย์ Tesla โดยตรง ดังนั้นราคานี้เป็นราคาที่บวกค่าความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับชิ้นส่วนต่างๆของรถและระบบขับขี่ระหว่าง 2 ปีหรือ 5 ปีตามสัญญาประกันที่ทำเอาไว้กับโชว์รูมครับ ผมมองว่าราคาประกันนี่เป็นราคาที่น่าสนมากๆ เพราะเวลารถเราเสียขึ้นมาจริงๆ เราได้ซื้อความอุ่นใจเอาไว้แล้วครับ เรามีหน้าที่ขับไปเท่านั้น แต่อย่างที่รู้กันก็คือรถยนต์ไฟฟ้านั้นเสียยาก แต่การมีประกันเอาไว้อุ่นใจก็เป็นเรื่องดีครับ เพราะผมอยากบอกว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นมีค่าซ่อมบำรุงถูกมากๆครับ

อย่างโชว์รูม(Highway Auto)ที่ผมไปขอข้อมูลมารีวิวนั้นเค้ามีบริการรถลากให้ฟรีช่วง 1 ปีหรือ 30,000 km แรกครับโดยมีเงื่อนไขดังนี้

  • กรณีตัวรถมีปัญหา ไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถ ได้มีรถสไลต์รับส่งฉุกเฉิน
  • 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร (กทม.)
  • กรณีต่างจังหวัด มีค่าใช้จ่ายตามระยะทางจริงของรถสไลต์ (5,000-20,000 บาท)

Tesla Model 3 : Custom Order Vs. Ready Order

ณ วันที่เขียนกระทู้นี้นั้นทางโชว์รูมมี Tesla Model 3 รุ่น Standard Range Plus จำนวน 6 คัน(ขาว 3 คัน, ดำ 3 คัน) รถเหล่านี้เรียกได้ว่าพร้อมขายทันทีที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อ ถูกสั่งมาเพื่ออำนวยความสะดวกและร่นระยะเวลาในการส่งมอบครับ

ส่วนการสั่งซื้อทั่วไป(ไม่ใช่เร่งด่วนแบบด้านบน)นั้นจะมีหลักๆ อยู่ทั้งหมด 2 แบบด้วยกันคือ

1. Ready stock

ระยะเวลาการสั่ง 10-18 วัน

รายละเอียด : รถ Model 3 ประเภท Ready stock นั้นคือรถที่ทางศูนย์จำหน่าย Tesla ในต่างประเทศ เช่น ฮ่องกงหรืออังกฤษนั้นพร้อมจัดส่งทันที เนื่องจากทางศูนย์ได้สั่งรถเหล่านี้มา stock เอาไว้ที่ศูนย์ Tesla น่ะครับ ส่วนใหญ่แล้วรถ Ready Stock นั้นจะเป็นรถที่มีสีรถพื้นฐาน เช่น สีดำ, สีขาว, หรือ สีน้ำเงิน ส่วนภายในนั้นจะเป็นสีดำ รถประเภทนี้(บางครั้ง)จะมี stock อยู่หรือเป็นรถขายง่ายเนื่องจากไม่ต้องจ่ายค่า custom(ปรับแต่ง)อะไรเพิ่มเติมเยอะ

2. Custom Order

ระยะเวลาการสั่ง 21-35 วัน

รายละเอียด : รถ Model 3 ประเภท Custom Order นั้นคือ รถที่สั่งทำเหมือนพวก Porsche หรือ Rollsroyce ครับ ดังนั้น เราสามารถสั่งแบบจัดเต็มได้เลย เช่น จะเอาเบาะสีอะไร, เฟอร์นิเจอร์ในรถเป็นไม้, หรือ carbon fiber, สีรถ(สีพิเศษจะเป็นสีแดงครับมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะครับ ยังไงติดต่อทาง คุณบัส Highway Auto Thailand เพื่อเชคราคาดูครับ)

ดังนั้นรถยนต์ไฟฟ้า Custom นั้นเหมือนเป็นหนึ่งเดียวในโลกครับทำให้ทางโชว์รูมต้องส่ง order ไปยังโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ Gigafactory 3 (จีน)เพื่อสั่งผลิตโดยเฉพาะครับ ส่วนค่าใช้จ่ายนั้นก็แพงขึ้นตามวัสดุที่เราเลือกมาใส่ครับ

หมายเหตุ : การสั่ง custom นั้นต้องวางเงินมัดจำอย่างต่ำ 10 % ของราคารถนะครับ เพราะทางโชว์รูมต้องมั่นใจว่าเราเอารถคันที่สั่งพิเศษมาครับ

Model 3 ซ่อมบำรุงรักษายังไงบ้าง?

อย่างที่รู้ๆ กันคือ รถยนต์ไฟฟ้านั้นมีชิ้นส่วนในการขับเคลื่อนน้อยมากๆ คือ 18 ชิ้น แต่รถยนต์น้ำมันนั้นมีมากกว่า 2,000 ชิ้น ดังนั้นแล้วการดูแลรักษาจึงต่างกันราวฟ้ากับราวเหวนะครับ

อ่านต่อได้ที่ : หมัดต่อหมัดระหว่าง “รถยนต์ไฟฟ้ากับรถยนต์น้ำมัน” [ICE Car Vs. EV Car]

อย่างไรก็ตามทางโชว์รูมที่ผมไปขอข้อมูลมานั้นเค้าได้บอกว่าการซ่อมบำรุงนั้นควรจะแวะเข้ามาตรวจสภาพทุกๆ 10,000 km เพื่อเชคความเรียบร้อยของรถยนต์ซึ่งบริการที่ทางโชว์รูมแนะนำให้ทำทุกๆ 10,000 km คือ สลับยางหน้า-หลังและเช็คกรองแอร์รถ ส่วนน้ำมันเกียร์นั้นจะค่อยมาดูกันแถวๆ 50,000 km เป็นต้นไปครับ

อีกสิ่งนึงที่คนถามกันเข้ามาเยอะคือเรื่องประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 น่ะครับว่า เค้าคิดราคากันยังไง ดังนั้นโพสนี้ผมจะอัดแน่นรีวิวข้อมูลในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 แบบสุดขั้วให้อ่านกันเลยนะครับ

ค่าประกันภัยชั้น 1

เรื่องประกันรถยนต์นั้น ถ้าเรามีประกันของเราอยู่แล้วก็สามารถให้เค้า quote ราคาประกันภัยดูได้ครับ แต่อย่างไรก็ตามผมลองสอบถามทางโชว์รูม Highway Auto ดูปรากฏว่าเค้ามีตัวอย่างประกันชั้นหนึ่งให้ดูดังนี้ครับ

ประกันภัย ตัวอย่าง

บมจ.ประกันภัยไทยวิวัฒน์ (ซ่อมห้าง) – Tesla Model3 standard

ทุนประกัน  2.4 ล้านบาท

deduct ประมาณ 50,000 บาท

ดังนั้น คนที่วางแผนจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้สามารถเอาประกันตัวนี้ไปเปรียบเทียบกับบริษัทประกันอื่นๆ ได้นะครับ

ของแถมสำหรับ Model 3 คันนี้

  1. Key fob (กุญแจรถ)
  2. Wall charger
  3. การติดตั้ง Tesla Wall charger ที่บ้าน/บริษัท – สามารถสอบถามโดยตรงกับทางโชว์รูมได้เลย เค้ามีบริการติดตั้งฟรีให้ถึงที่บ้าน
  4. ฟิล์ม MIDAS Blackbear (USA import)
  5. ส่วนลดค่าบริการหลังการขาย(Service & Maintenance) 10-15% (ตลอดชีพ)
  6. พรมสั่งตัดรอบคัน รวมไปถึง ที่เก็บของฝากระโปรงหน้า และ หลัง
  7. กรอบป้ายทะเบียน + หมอน HW(Highway Auto)
รูปภาพ : Tesla Key Fob
วิดีโอ : Tesla Model 3 หลังจากติดฟิล์ม MIDAS Blackbear เสร็จ

รายละเอียดการติดตั้งฟิล์มรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 คันบนนี้ :

  • กระจกบานหน้า(Windsheild) 40 %
  • กระจกบานข้าง(Windows) 60 %
  • กระจกบานบน(Roof Top) 80 %

หมายเหตุ : ทางโชว์รูมบอกว่า ฟิล์มเหล่านี้ติดตั้งฟรีทั้งหมดครับ

ติดตั้ง Tesla Wall connector ให้ฟรี

ทางโชว์รูม (Highway Auto) เค้าบอกผมมาว่า ถ้าท่านใดซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 กับเค้านั้นเค้าจะบริการติดตั้ง Tesla Wall Connector ให้ถึงที่บ้านหรือที่ทำงานให้ฟรีอีกด้วยครับ ถือว่าเป็นบริการที่ใจปล้ำมากๆ เพราะราคาค่าติดตั้งรวมอุปกรณ์นั้นก็ประมาณครึ่งแสนแล้วครับ

ปล. ที่ชาร์จที่ทางโชว์รูม(Highway Auto)ให้นั้นเป็นของ Tesla (แท้)นะครับ

รูปภาพ : Tesla Wall Charger

รวมทั้งหมดแล้วต้องจ่ายอะไรบ้าง?

หลังจากผมได้แจกแจงค่าใช้จ่ายทั้งหมดไปนะครับ ผมจะทำการรวบรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับการออกรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 จะมีรายการดังนี้ครับ

  1. ค่าตัวรถ Tesla
  2. ค่าจดทะเบียน 18,500 บาท (คิดตามน้ำหนักตัวรถ) (ไม่รวมสลับเลข)
  3. มัดจำป้ายแดง (ได้คืน) 5,000 บาท
  4. ประกันชั้น 1 บมจ.ประกันภัยไทยวิวัฒน์+ พรบ. 85,700 บาท (มี ค่าดีดั้ก) (ทำหรือไม่ทำก็ได้)

อันนี้เป็นรายละเอียดการแจกแจงค่าใช้จ่ายเบื้องต้นสำหรับคนที่วางแผนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 นะครับ

หมายเหตุ : Blink Drive ไม่ใช่ Sale (เซล) หรือ marketing ขายรถให้กับโชว์รูมรถยนต์ Highway Auto ครับ นี่เป็นกระทู้รีวิวรถตามสัญญาลูกเพจและคนใน Clubhouse ที่ถามถึงวิธีการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla model 3 ในไทย ดังนั้นถ้าสนใจรายละเอียดของรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ก็สามารถส่ง message ไปสอบถามโดยตรงกับ Highway Auto Thailand ทาง Facebook หรือโทรติดต่อโดยตรงกับคุณบัส เบอร์ 085-242-2922 ได้เลยนะครับ

BLINK DRIVE TAKE

ยังไงก็ตามผมก็ขอขอบคุณทางโชว์รูม Highway Auto Thailand ที่ให้โอกาสผมได้สัมภาษณ์และนำข้อมูลมาบอกต่อให้กับชาว Blink Drive กันน่ะครับ ต้องขอบอกเอาไว้ก่อนว่า ผมไม่ได้ค่า commission ในการขายรถจากโชว์รูมรายนี้หรือรายไหนๆ ในประเทศไทยทั้งนั้น ดังนั้นที่ผมมาเขียนกระทู้นี้และทางโชว์รูมมาบอกข้อมูลเหล่านี้ก็เพื่ออยากให้มีฐานข้อมูลเกี่ยวกับการขายรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ในไทยเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนไทยที่อยากซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ในช่วงที่ Tesla Official ยังไม่มาเปิดตัวในเมืองไทยครับ

หลังจากทุกท่านได้อ่านมาถึงตรงนี้ก็คงพอจะเข้าใจหลักการการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ในประเทศไทยแบบกระจ่างแล้วนะครับ ต่อจากนี้ไปก็เป็นดุลพินิจของทุกคนในการเลือกโชว์รูมนำเข้าอิสระที่อยุ่ใกล้บ้านท่านแล้วลองไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกันนะครับ

โพสนี้จะเปรียบเสมือนอาหารที่ปรุงสุกแล้วคือ หาข้อมูลครบทุกด้าน ทุกมุมมาให้ทุกท่านได้อ่านเพื่อร่นระยะเวลาในการหาข้อมูลในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 นะครับ (ตั้งแต่ประเภทการนำเข้า, สเปค, ราคาขาย, ประกัน, บริการหลังการขาย, ประกันภัย, และของแถมต่างๆ) ดังนั้น ถ้าหากท่านไหนสนใจข้อมูลในโพสนี้แล้วและอยากทำความรู้จักกับโชว์รูมนำเข้าอิสระรายนี้ก็สามารถติดต่อไปได้ที่ facebook fanpage เค้าได้เลยนะครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมได้สอบถามเรื่องการ Test Drive รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 กับทางคุณบัสซึ่งเป็นเจ้าของโชว์รูม Highway Auto Thailand แห่งนี้ว่า จะมีความเป็นไปได้ไหม ถ้าให้สมาชิกเพจหรือญาติๆของพวกเค้าที่วางแผนจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3ได้มาลองรถก่อนตัดสินใจซื้อ

เค้าบอกว่า ถ้าสมาชิกเพจ Blink Drive ท่านใดสนใจไปทดสอบขับรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ก็สามารถไปทดลองกับทางโชว์รูมได้เลยครับ (โชว์โพสนี้เพื่อยืนยันกับเค้าได้เลยครับ) ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ในการ Test Drive

ส่วนขั้นตอนการ Test Drive รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 นั้นก็ไม่ยากครับ คนที่สนใจจะ Test Drive สามารถติดต่อสอบถามไปยังโชว์รูม Highway Auto Thailand โดยตรงเพื่อทำการนัดคิว Test Drive รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 และทำการโชว์ใบขับขี่ให้กับโชว์รูม Highway Auto Thailand เพื่อยืนยันตัวตนก่อนทดสอบขับครับ

ของแถมจากทาง Blink Drive สู่ผู้อ่านทุกท่าน

ทางคุณบัสมองว่าโพสนี้เป็นโพสที่มีข้อมูลเกี่ยวกับ Tesla Model 3 รุ่นผลิตจีนอยู่เยอะมากๆ และอยากขอบคุณ Blink Drive ที่ทำโพสนี้ขึ้นมานะครับ แต่ผมอยากให้คำขอบคุณนั้นส่งต่อไปยังแฟนเพจมากกว่า ดังนั้นคุณบัสยินดีส่งมอบคำขอบคุณนั้นไปยังแฟนเพจ Blink Drive ทุกคนตามเงื่อนไขด้านล่างนี้ครับ

เงื่อนไขไม่ยากครับ แค่คุณเอาโพสนี้โชว์ให้กับคุณบัส Highway Auto Thailand เค้าก็จะทำการแถมของสมนาคุณต่างๆ ดังนี้ครับ

การติดตั้ง Wallcharger ไม่จำกัด ระยะทาง (ปกติ 20 เมตร)

จริงๆแล้วปกตินั้นถ้าเดินสายไฟเกิน 20 เมตร เค้าจะคิดเมตรละ 350 บาท แต่ทางคุณบัส Highway Auto Thailand แจ้งว่าถ้ามาจาก Blink Drive ก็จัดให้เต็มที่ครับ ยังไงลองสอบถามกันเข้าไปดูน่ะครับ ถ้าไม่ได้รับเงื่อนไขนี้ก็แจ้งมาทาง Blink Drive ได้ครับ ผมจะช่วยติดต่อประสานงานให้อีกที แต่ขอย้ำอีกครั้งว่า Blink Drive ไม่ได้ค่า commission ครับและไม่รับด้วยครับ ทำด้วยใจ ผมเพียงอยากให้สังคมไทยมีรถยนต์ไฟฟ้าใช้งานกันเยอะๆ เหมือนต่างประเทศครับ

Metal Pedal เหมือน Performace

รูปภาพ : แป้นเหยียบเบรคและคันเร่งเหล็กอย่างดีของรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ที่คุณบัสสั่งมาให้เป็นของแถมสำหรับชาว Blink Drive

Charging Holder ป้องกันสนิม และ ตะกันขึ้นในสายไฟ

Storage box แยกช่องเก็บของ

Credit ข้อมูล : Highway Auto Thailand

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันที่ THE FORTRESS

Follow by Email