Blink Blink
AsiaTeslaxpeng

Xpeng ส่งมอบรถ P7 ครบ 10,000 คันแล้ว หลังจากที่วางขายเพียง 3 เดือน

อ้างอิงข้อมูลจาก forbes บริษัท Xpeng นั้นเพิ่งวางขายรถยนต์ไฟฟ้า Xpeng P7 ในเดือนมิถุนายน 2563 ที่ผ่านมาเท่านั้น ในเดือนนี้ (เดือนพฤศจิกายน 2563) Xpeng ได้ทำการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า Xpeng P7 คันที่ 10,000 ให้กับลูกค้าของบริษัทครับ

ทำไม Xpeng ถึงเป็นบริษัทที่น่าจับตามอง?

เรื่องนี้ผมได้ตอบไปหมดแล้วในกระทู้ Alibaba อัดฉีดเงิน 12,000 ล้านบาทเข้า Xpeng ลุยเปิด IPO ในตลาดหุ้นอเมริกา อย่างไรก็ตามวันนี้ผมจะขอเล่าสเปครถยนต์ไฟฟ้า Xpeng กันแบบเจาะลึกนะครับเพื่อให้ทุกท่านเข้าใจว่าทำไม Xpeng P7 คันนี้คือ Porsche Taycan คราบรถจีนนะครับ

สเปครถยนต์ไฟฟ้า Xpeng P7

  • ระบบขับเคลื่อน : มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ High Performance โหมด 3 in 1 (โหมด compact, โหมด Light, โหมด efficient, โหมด reliable) ซึ่งสามารถเค้นการใช้พลังงานได้ประสิทธิภาพถึง 97.5 % (ของ tesla อยุ่แถวๆ 95 % ครับ) มอเตอร์ไฟฟ้าของ Xpeng นั้นได้ถูกพัฒนาขึ้นที่ประเทศเยอรมันครับโดยถูกติดตั้งชิปเซ็ต German Infineon 950 IGBT module เข้าไปทำให้สามารถเค้นประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ดียิ่งกว่า Tesla ครับ

  • เทคโนโลยีแบตจาก CATL ซึ่งเป็นบริษัท supplier แบตของ Tesla ครับ โดยแบตของ Xpeng P7 นั้นจะเป็นรูปแบบ prismatic battery pack หรือเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสหนาๆ ซึ่งมีความสูงที่ 110 มิลลิเมตร โดยให้ energy density (ความหนาแน่นของประจุไฟ)ที่ 170 Wh/kg ซึ่งตัวนี้ยังสู้ Tesla ไม่ได้เพราะ Tesla Model 3 มี energy density อยู่ที่ 260 Wh/kh : หมายเหตุ : ยิ่งตัวเลขเยอะแปลว่ายิ่งดีเพราะแบตจะมีน้ำหนักที่เบาลงในความจุเท่าเดิม
  • ใช้ chipset Infineon 950 IGBT module ในการควบคุมการจ่ายไฟมอเตอร์ทำให้สามารถจ่ายไฟมอเตอร์ได้สูงถึง 580 Amp เป็นระยะเวลา 40 วินาที ซึ่ง Xpeng เป็นค่ายรถยนต์ไฟฟ้าค่ายแรกของโลกที่นำ Module ตัวนี้มาใช้กับรถยนต์นะครับ
Infineon 950 IGBT module
  • ช่วงล่าง, ตัวถัง, แคสซีและการออกแบบโดยรวมนั้นถูกพัฒนาโดยวิศกรชุดเดียวกันกับที่ออกแบบ Porsche Taycan
  • ระบบเบรคเป็นของ Brembo / Bosch ซึ่งการเบรคนั้นแบ่งออกเป็นสองส่วนนะครับ
    • ส่วนแรกคือ Brake regen หรือใช้มอเตอร์เบรคซึ่งเป็นเทคโนโลยีการเบรครุ่นใหม่ของ Bosch ที่เรียกว่า Bosch iBooster ซึ่งจะสามารถนำพลังงานจลจากการเบรคกลับมาใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบหรือ 100 %
    • ส่วนที่สองคือชุดเบรค Brembo (แค่ชื่อก็รู้แล้วเนอะ ชุดแต่งทั้งนั้น) โดยระยะการเบรคจาก 100-0 km/h อยู่ที่ 35 เมตรครับ
  • Xpeng มาพร้อมระบบช่วยการขับขี่แบบอัตโนมัติถึง level 3 แล้วซึ่งนั่นก็คือ XPILOT 3.0 โดย Xpeng P7 ได้ใช้ชิปการประมวลผล NVIDIA’s DRIVE Xavie หรือบริษัทผลิตGPU หรือการ์ดจอระดับโลกมาผลิต chipset ให้นะครับ
    • Hardware สำหรับระบบ XPILOT 3.0 นั้นจัดเต็มจริงๆ ครับ เช่น กล้องรอบคัน 14 ตัว, เซนเซอร์ตัวจับวัตถุรอบคันโดยใช้คลื่นเสียงอัลตร้าโซนิค(ultrasonic sensors) 12 ตัว, เซนเซอร์ตัวจับวัตถุรอบคันแบบ Lidar (millimeter-wave radars)เป็นเซนเซอร์ที่อยู่ใน iphone 12 Pro นะครับ ให้มาทั้งหมด 5 ตัว
เซนเซอร์ตัวจับวัตถุรอบคันแบบ Lidar (millimeter-wave radars) ส่วนใหญ่จะใช้งานบนเฮลิคอปเตอร์เอาไว้สแกนพื้นที่ในรูปแบบสามมิติครับ
  • Qualcomm Snapdragon 820 high-performance ซึ่งเป็น CPU ภายในรถที่ใช้ควบคุมระบบปฏิบัติการต่างๆ เช่น วิทยุ, หน้าจอแสดงผล, และรถคันนี้สามารถใช้งาน App Store พร้อมกับ Alipay ได้อีกด้วยครับ
  • ระบบชาร์จไฟเร็ว : 30-80 % ภายใน 28 นาที, หรือสามารถเติมไฟให้วิ่งได้ 120 km ภายในระยะเวลา 10 นาทีครับ
  • ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งสามารถวิ่งได้ไกลถึง 706 km (NEDC) สำหรับรุ่น Long Range
  • ราคาของ Xpeng P7 นั้นเริ่มต้นที่ 259,900 หยวนหรือ 1.19 ล้านบาท
    • Long Range จะมีราคาอยู่ที่ 276,900 หยวนหรือ 1.26 ล้านบาท
    • Performance จะมีราคาอยู่ที่ 349,900 หยวนหรือ 1.59 ล้านบาท

หมายเหตุ : ราคาเหล่านี้เป็นราคาที่รัฐบาลจีนได้ทำการสนับสนุนแล้ว โดยรัฐบาลจีนสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าประมาณ 25,000 หยวนหรือ 114,000 บาทต่อคัน

ที่มา : Business wire

BLINK DRIVE TAKE

จริงๆ แล้ว รถยนต์ไฟฟ้าคันล่ะ 1.2 ล้านบาทในต่างประเทศนั้นอัดแน่นไปด้วย option มหาโหดทั้งนั้นเลยครับ

ผมเพียงแต่ภาวนาให้ Xpeng ผลิตรุ่นพวงมาลัยขวาขึ้นมาครับ รับรองงานนี้มีบันเทิงแน่นอน ยิ่งรัฐบาลไม่รู้จักพิษสงของยี่ห้อรถยี่ห้อนี้เสียด้วย ดังนั้นถ้าเอาเข้ามาขายไทยในราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ผมว่ามีคนแอบซื้อกันเต็มแน่นอนเพราะรถคันนี้ได้รับการออกแบบตัวถังและช่วงล่างจาก Porsche , ชิปเซ็ทจาก Nvdia, และ Snapdragon แถมยังมีระบบปฏิบัติการเหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้า Tesla อีก

อ้อ ลืมบอกไปครับ คุณตามแจ้งมาว่า Xpeng จะเข้าไปขายในยุโรปอย่างเป็นทางการ ณ เดือนธันวาคมนี้ครับ

งานนี้พี่โตเหนื่อยแน่นอนถ้า Xpeng เอาจริงนะครับ

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

Follow by Email