Blink Blink
AsiaEV CarsNio

Nio ขายรถไม่รวมแบต(ถูกลง 300,000 บาท) , ปล่อยแบตให้เช่าเดือนล่ะ 4,466 บาท

Nio นั้นเป็นค่ายรถยนต์ไฟฟ้าเจ้าเดียวของโลกที่ยืนยันจะพัฒนาระบบ swap battery หรือบริการเปลี่ยนแบตให้กลายมาเป็นรูปเป็นร่าง(สามารถใช้งานจริงๆ ได้) วันนี้ผมจะมาเล่าเทคโนโลยีต่างๆ เกี่ยวกับระบบ swap battery ให้ทุกท่านได้อ่าน ทั้งเรื่องราคาแบต, ราคาค่า subscription (ค่าสมาชิกเช่าแบต), รวมไปถึงสถานี swap แบตของ Nio ที่มีอยู่ ณ ปัจจุบันอีกด้วยครับ

โครงการ BaaS

โครงการ BaaS ซึ่งย่อมาจาก battery-as-a-service ซึ่งเป็นบริการหลังจากขายของค่ายรถ Nio

โดยไอเดียนี้เริ่มมาจากการที่ลูกค้าต้องไปจอดรอชาร์จไฟเป็นระยะเวลานานแถมลูกค้ายังต้องมากังวลเรื่องแบตเสื่อมหลังจากหมดประกันอีกด้วย Nio เลยสร้างโครงการ BaaS ตัวนี้ขึ้นเพื่อบริการลูกค้าในเครือหลังการขายนะครับ

หมายเหตุ : ระยะเวลาในการ Swap Battery (สับเปลี่ยนแบตลูกเก่าเป็นไปลูกใหม่)จะอยู่ที่ 5 นาทีซึ่งเร็วพอๆ กับการเติมน้ำมันนะครับ แถมเรายังได้แบตลูกใหม่มาใช้ตลอดเวลาอีกด้วย

ลดราคารถยนต์ไฟฟ้าลงไปคันล่ะ 300,000 บาท

Nio ได้บอกว่า แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้านั้นยังมีราคาค่อนข้างสูงในปัจจุบันซึ่งราคาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าของ Nio จะอยู่ที่ 70,000 หยวนหรือ 319,000 บาท

ค่าสมาชิกเดือนล่ะ 4,466 บาท

แต่การที่ลูกค้าหันมาเลือกโครงการ BaaS ซึ่งมีค่า subscription (สมาชิก)รายเดือน เดือนล่ะ 980 หยวนหรือประมาณ 4,466.26 บาทเพียงเท่านั้น นอกจากจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายของลูกค้าลงไป

ราคารถไม่ตก เพราะแบตไม่มีทางเสื่อม

เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีชิ้นส่วนขับเคลื่อนเพียง 80 ชิ้น(รถ ICE (น้ำมัน) มีมากถึง 3,000 ชิ้น) แต่คนก็ไม่ได้เลิกกังวลเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าแต่อย่างใดเพราะสิ่งที่คนทั่วไปยังเป็นห่วงในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคือแบตเตอรีนะครับ ซึ่งคนที่เคยใช้งานรถยนต์น้ำมัน Hybrid จะรู้ดีเลยว่าหลังจาก 5-7 ปีไปแล้วไอ่แบตพวกนี้มันชอบรวนตลอดเวลากลายเป็นว่าเค้าต้องซ่อม 2 ระบบหลังหมดประกันคือ ซ่อมทั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องยนต์

ส่วนรถยนต์ไฟฟ้านั้นแตกต่างจากรถยนต์น้ำมัน Hybrid ตรงที่มีแบตเตอรี่ลูกใหญ่ลูกเดียวเอาไว้ใช้งาน และสิ่งที่จะถูกใช้งานหนักสุดในรถ(รองลงมาจากประตูคนขับ)ก็คือแบตเตอรีนี่แหละครับ เวลาขายรถยนนตืไฟฟ้าต่อในต่างประเทศส่วนใหญ่เค้าจะเชค SoC ของแบตหรือ life cycle ของแบตก่อนซื้อนะครับ แต่ถ้า Nio สามารถเปิดเครือ Battery Cloud ได้แบบนี้ ก็เท่ากับว่า เจ้าของรถก็ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเสื่อมอีกต่อไปเพราะเราจ่ายค่าแบตเป็น subscription (ระบบสมาชิก)หรือเรียกได้ว่าเช่าแบตมาใช้ตลอด ดังนั้น Nio มีหน้าที่ดูแลแบตของรถที่เราใช้ให้สดใหม่อยู่เสมอ เรามีหน้าที่ขับและดูแลเรื่องตัวถังเท่านั้น แบบนี้เวลาขายต่อราคาก็ไม่ตกลงไปเหมือนรถยนต์น้ำมันเพราะสิ่งที่จะเสื่อมนั้นไม่เหลืออีกแล้ว

สถานีเปลี่ยนแบต 143 สถานีทั่วจีน

ณ ปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้า Nio ทุกรุ่น(ได้แก่ EC6, ES6, ES8 เป็นต้น) สามารถเข้ารับการเปลี่ยนแบตได้ที่สถานีเปลี่ยนแบต 143 สถานีทั่วประเทศจืน แถม Nio เป็นรถยนต์ไฟฟ้าค่ายเดียวในโลกที่สร้างโครงสร้างรถให้ง่ายต่อการเปลี่ยนแบตอย่างรวดเร็ว(hot swap) ดังนั้น การที่ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ จะเข้ามาใช้เทคโนโลยีนี้ก็คงต้องมารื้อโครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้ากันใหม่ทั้งหมด

โดย Nio ได้จดสิทธิบัตรทางปัญญามากกว่า 1,200 ใบแล้วเกี่ยวกับเทคโนโลยีตัวนี้

เปลี่ยนแบตไปแล้ว 800,000 ครั้ง

อ้างอิงข้อมูลจาก Nio ตอนนี้บริษัท Nio ได้ทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้กับลูกค้าและพนักงานในเครือ Nio ไปมากกว่า 800,000 ครั้งแล้ว ดังนั้นเค้ามั่นใจว่าเค้ามีข้อมูลและประสบการณ์มากเพียงพอที่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก

คลิป คุณตาม( Bjørn Nyland เทพรถยนต์ไฟฟ้า)ทดสอบรถยนต์ไฟฟ้า Nio ES8 ที่ทวีปยุโรป

ที่มา : cnet, Nio

BLINK DRIVE TAKE

ตอนแรกที่ผมได้ยินไอเดียเกี่ยวกับ swap battery นี้ก็คิดถึง Tesla นะครับ ที่อีลอนเคยนำรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model S ออกมาเปลี่ยนแบตโชว์บนเวทีเมื่อ 7 ปีที่แล้วครับ

โดยการ swap battery ครั้งนึงจะกินเวลาเพียง 1 นาที 33 วินาทีเท่านั้นหรือเรียกว่าเร็วกว่าการเติมน้ำมัน(เต็มถัง)ประมาณเท่าตัวครับ

คราวนี้ Nio ก็ทำการ copy concept ตัวนี้มาแล้วก็ทำการสร้าง platform รองรับระบบ swap battery พร้อมๆ กันไปเลย เราคงต้องมาดูว่าสถานีไหนจะได้รับความนิยมมากกว่ากันนะครับ แต่ที่แน่ๆ การ swap battery ให้ลูกค้านั้นประหยัดทั้งเวลาและถนอมแบตมากกว่าเพราะทางศูนย์สามารถ spend time(ใช้เวลา)อยู่กับแบตก้อนที่ยังไม่ได้ชาร์จนานกว่าคนที่เอารถเข้ามาชาร์จที่สถานีนะครับ

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

Follow by Email