ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่น่าเหลือเชื่อมากๆ ที่หลังจาก Tesla ได้เปิดโรงงาน Gigafactory 3 ที่จีนแล้ว จู่ๆ ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าก็พุ่งขึ้นอย่างมาก ส่วนหนึ่งก็มาจากแรงสนับสนุนจากรัฐบาลจีนที่ทำการลดหย่อนภาษีสำหรับรถที่ผลิตในประเทศให้ถึง 10% แล้วยังส่งเสริมเพิ่มไปอีกด้วยการให้เงินอุดหนุนแก่บริษัท Tesla ถึงคันล่ะ $3,600 หรือประมาณ 100,000 บาทต่อคันครับ
ที่มาเงินอุดหนุนและส่วนลดทางภาษี : techcrunch
ครองส่วนแบ่งทางตลาดที่ 12.5 %
หลังจากเหตุการณ์ด้านบนแล้วทำให้ Tesla Model 3 ขึ้นครองแชมป์อันดับหนึ่งรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในจีน โดยมียอดขายในเดือนมกราคมเพียงเดือนเดียวถึง 2,625 คัน ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง GAC Aion S ประมาณ 292 คัน
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ยอดขายมีได้เพียงเท่านี้ก็มาจากหลายปัจจัย เช่น กำลังผลิตปัจจุบันนั้นยังไม่ได้พัฒนาถึง 100% และอีกเรื่องก็คือ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ทำให้กำลังผลิตในโรงงานนั้นถูกสั่งชะงักไปในวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมาเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ผลที่ตามมาคือ operation ต่างๆในโรงงานต้องหยุดการทำงานและส่งมอบรถ
ที่มา : cleantechnica
BLINK DRIVE TAKE
ผมมองเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ไทยจะต้องหันไปดูจีนนะครับ ณ ปัจจุบันนั้นจีนเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีกำลังผลิตเยอะกว่ายุโรปถึง 2 เท่าตัวและมากกว่าอเมริกาถึง 3 เท่าตัว แต่มาติดปัญหาเรื่องเชื้อไวรัสโคโรน่า ทำให้การผลิตในช่วงต้นปีนี้อาจจะถดถอยลงไปบ้าง (โดยผมได้ข่าวมาว่า กระทบวงการยานยนต์ทั้งประเทศจีนแหละครับ)
แต่หลังปลายปีนี้ ถ้าจีนฟื้นตัวได้เมื่อไหร่ speed การผลิตระดับนี้ อาจจะเบียดยอดขายรถยนต์ในไทยได้เลยนะครับเพราะจีน, ยุโรป,อเมริกา, สิงคโปร์ก็ไม่เอารถยนต์น้ำมันกันแล้ว(อ้างอิงจากเพจ Elecpress )
คำถามที่อยากถามคือ ไทยเราจะผลิตรถยนต์น้ำมันไปขายใครในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้ครับ เค้าแบนรถยนต์น้ำมันในปี 2040 ก็จริง แต่เชื่อว่านโยบายต่างๆ ต้องหันไปสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าจนทำให้ยอดขายรถยนต์น้ำมันตกแน่นอนแหละครับ