Blink Blink
EV CarsNews

สรุปยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกปี 2019

ผมจะขอโฟกัสยอดขายเพียง 5 อันดับแรกก่อนนะครับ

Top 5 Best seller EV car in 2019

อ้างอิงจากเว็บ ev-sales , ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 นั้นมีมากกว่า 300,000 คัน อันดับ 2 นั้นก็คือค่าย BAIC ของจีนโดยนำรถรุ่นต่างๆ ใน series ของ EU มาผนวกรวมกันได้มากถึง 111,000 คัน

อันดับ 3 นั้นก็คือ Nissan Leaf ซึ่งมองแล้วไม่ผิดหวังจริงๆ ที่ได้ยอดขายเพียงเท่านี้ เพราะระบบ battery ของ nissan นั้นตามหลังค่ายจีนไปหมดแล้วครับ ( Nissan leaf ในปี 2019 นั้นยังไม่มีระบบ Thermal management system[ควบคุมอุณหภูมิแบต]) แถม quick charge ก็ทำได้ไม่ดี แต่สิ่งที่ทำให้ Nissan Leaf สามารถขึ้นมาเป็นที่ 3 ได้ก็เพราะว่า มีศูนย์จัดจำหน่ายอยู่ทั่วโลก ทำให้ได้เปรียบเรื่องการเข้าถึงตัว product

อย่างที่เห็นในตาราง Top 5 นั้นจะเห็นได้ว่า มีเพียง 2 ยี่ห้อเท่านั้นที่สามารถขายรถไปได้ทั่วโลกคือ Tesla และ Nissan แต่ถ้าเทียบเรื่องศูนย์บริการหลังการขายและสถานที่จัดจำหน่ายแล้ว Nissan นั้นเป็นอันดับ 1 ของโลกในหมวดหมู่รถยนต์ไฟฟ้าครับ แต่เหตุไฉนถึงมียอดขายห่างจาก Tesla ที่มีสถานที่จัดจำหน่ายทั่วโลกไม่ถึง 25 ประเทศด้วยซ้ำ

1.Tesla model 3 – 300,075 คัน

2. BAIC eu series – 111,047 คัน

3. Nissan Leaf – 69,873 คัน

4. BYD yuan /s2 ev – 67,839 คัน

5. SAIC Baojun E-Series – 60,050 คัน

ที่มา : ฐานเศษรฐกิจ

Top 20 ของโลกมีอะไรบ้าง??

ภาพรวมตลาดปี 2018

ภาพรวมตลาดปี 2019

ภาพรวมของปี 2019 [อยู่ที่ 2,209,831 คัน] นั้นถือว่า มากกว่าปี 2018 [2,018,000 คัน]เพียง 10 % เท่านั้น ถ้ามองภาพรวมนั้นเราจะเห็นเลยว่าไม่ก้าวกระโดดเท่าไหร่เลยครับ แต่ถ้ามองเข้าไปหายอดขายแล้วจะเห็นว่า ภาพรวมของรถยนต์ไฟฟ้าค่ายอเมริกาอย่าง tesla รุ่น model 3 นั้นก้าวกระโดดไปถึง 2 เท่าตัว (จาก 145,846 คัน –> 300,075 คัน) กินส่วนแบ่งตลาดไป 14 %เต็มๆเลยครับ

ภาพจาก insideev

สาเหตุหลักที่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าไม่เติบโตมากเท่าที่ควรนั้นมาจาก incentive ที่ลดลงและภาวะเศษรฐกิจโลกที่หดตัวด้วยครับ

ส่วนยอดขายรถยนต์น้ำมันของไทยนั้น ในปี 2562 ที่ผ่านมาสรุปยอดขายรถยนต์ในประเทศน่าจะ หดตัว -4% (yoy) หรือปิดยอดได้ราว 1 ล้านคัน 

ที่มา : ข่าวสด

Tesla มีส่วนแบ่งของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั้งโลกที่ 17 %

ถ้ารวมยอดขาย Model 3 ,Model S ,และ Model X ไปด้วยแล้ว ยอดขายของรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อ Tesla นั้นมีมากถึง 367,820 คันทำให้ยอดขายนั้นกระโดดขึ้นมาเป็น 17 % ของภาพรวมตลาดทั้งหมด

หลังปี 2022 ไป ราคารถยนต์ไฟฟ้าจะหล่นลงมาเท่ากับรถยนต์น้ำมัน

อ้างอิงจากเว็บ mining.com , โดยเว็บนี้ได้เอาราคาแร่ lithium ซึ่งเป็นแร่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ามาเปรียบเทียบระหว่างปี 2018 และปี 2019 ได้พบว่า ราคาแร่นั้นลดลงไปมาก และมีความเป็นไปได้ที่ราคาจะร่วงลงไปอีกเพราะมีการพบเหมืองขุดแร่ใหม่ในจีน, Western Australia(ออสเตรเลีย), และในทวีปแอฟริกา

สรุปคือ มีการคาดการณ์ว่าหลังปี 2022 เป็นต้นไปราคาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าจะถูกลงและต้นทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจะทำได้เท่าๆกันกับรถยนต์น้ำมัน

ปล. ถ้าสังเกตุจากกราฟด้านบนจะเห็นได้ว่าหลังปี 2022 เป็นต้นไปนั้นมีการคาดการณ์ว่า demand รถยนต์ไฟฟ้าจะโดดอย่างเห็นได้ชัดครับ

BLINK DRIVE TAKE

ในปี 2020 นี้ เทสล่าประกาศเอาไว้แล้วว่า โรงงาน gigafactory3 ที่จีนต้องผลิตรถยนต์ไฟฟ้า(ซึ่งจะผลิตเพียง model 3 และ model Y) ให้มากกว่า 250,000 คัน ถ้าผมลองคำนวณเล่นๆ คือ ภาพรวมของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าปี 2020 นั้น Tesla จะมียอดขายอย่างต่ำที่ 500,000 คัน

ส่วนคู่แข่งอย่าง Volkswagen นั้นก็ได้ตั้งโรงงานที่จีนสำเร็จแล้วและประกาศแล้วว่าจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2020 นั้นที่ 500,000 คัน(โดยแบ่งเป็นผลิตที่จีน 300,000 คันต่อปีและที่เหลือก็แบ่งไปผลิตที่อเมริกาและยุโรปครับ) ดังนั้นปี 2020 นั้นยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแค่ 2 บริษัทก็ปาไป 1 ล้านคันแล้วครับ

ที่มา : โฟคสวาเกนเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ณ ประเทศจีน ตั้งเป้าผลิต 300,000 คันต่อปี

นี่ยังไม่รวมยอดขาย Ford Mach-e , audi e-tron, porsche taycan, mini cooper e, Benz EQC, Honda e, Toyota CHR EV, Chevrolet Bolt, (กระบะ)Ford F-150, (กระบะ)Rivian, Hyundai Kona EV, และรถยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ อีกมากมายนะครับ จริงๆ แล้วนี่มันก็ปี 2020 แล้วนิ

ฝรั่งเค้าเตรียมวางแผนสร้างบ้านรองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าแล้วด้วย

ที่มา : อเมริกาออกกฏใหม่ บังคับบ้านใหม่ทุกหลังต้องมีที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าติดมาด้วย

แล้วไทยละครับ ถึงเวลาที่ไทยควรจะหันมองผ่านกระจกมองหลังได้หรือยังครับ?

รถยนต์ไฟฟ้ามันค่อยคืบคลานเข้ามาเรื่อยๆแล้ว มันกำลังจะกลืนกินฐานผลิตในเอเชียจนหมดแล้ว เพราะใบสั่งจองรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกนั้นเยอะมากครับ แค่ใช้เวลา 5 ปีผลิตส่งมอบให้กับทุกคนที่สั่งจองยังเป็นเรื่องยากเลยครับ แปลกใจว่าทำไมไทยไม่ไปช่วยเค้าผลิตบ้างครับ

ปล. ผมย้ำว่าช่วยเค้าผลิตนะครับ
ไม่ใช่ทุบหม้อข้าวหม้อแกงตัวเอง ทำลายโรงงานผลิตรถยนต์น้ำมันแล้วหันไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้ากันทั้งประเทศเลย
เราควรจะจีบเค้ามาร่วมผลิตได้แล้วนะครับ
ไม่งั้นจีน, อินเดีย, เกาหลีใต้, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, และลาว จะคาบไปกินนะครับ
ห๊า อะไรนะ ลาวกำลังพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า
ครับ คุณอ่านไม่ผิดจริงๆ เรื่องรถยนต์ไฟฟ้านั้น ลาวไปไกลกว่าไทยแล้วครับ ล่าสุด สปป. ลาววางแผนให้เมืองเวียงจันทร์นั้นเป็นเมืองที่มีแต่รถยนต์ไฟฟ้าครับ

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

Follow by Email