ฮานอย, เวียดนาม (CNN) – เมืองฮานอยนั้นเป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนาม ซึ่งมีประชากรหนาแน่นอย่างเห็นได้ชาด ดังนั้น การจราจรส่วนใหญ่ในเมืองนั้นจะเต็มไปด้วยฝูงมอเตอร์ไซค์เหมือนกรุงเทพบ้านเรา สาเหตุที่ทำให้ประชาชนของพวกเค้าเลือกที่จะเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์เป็นหลักก็เพราะว่า(ค่าใช้เพลิง)ถูกและรวดเร็ว
8 ล้านคน
จากสถิติที่ CNN เก็บมาได้ เมืองหลวงฮานอยเพียงเมืองเดียวมีประชากรมากกว่า 8 ล้านคนและมีมอเตอร์ไซค์มากถึง 6 ล้านคัน และมีรถยนต์เพียง 700,000 คัน ดังนั้น ปัญหามลพิษในเมืองจริงๆ นั้นน่าจะมาจากมอเตอร์ไซค์มากกว่าการใช้งานรถยนต์
ณ ปัจจุบัน ประชาชนและนักท่องเที่ยวนั้นเลือกที่จะเดินทางสัญจรด้วย taxi มอเตอร์ไซค์ หรือเรียกอีกอย่างว่า Grab Bike นั่นเองครับ
กรมขนส่งของเมืองหลวงฮานอยได้ตระหนักเห็นถึงการใช้มอเตอร์ไซค์ฺกันอย่างหนักแบบนี้ ทางกรมขมส่งเลยคิดมาตราการลดมลพิษทางอากาศในเมืองหลวงโดยสร้างกฏหมายขึ้นมาใหม่ว่า ภายในปี 2030 หรือ พ.ศ. 2574 นั้น การใช้งานมอเตอร์ไซค์น้ำมันในเมืองถือว่า มีความผิดทางกฏหมาย ซึ่งกฏหมายตัวนี้เป็นการเร่งให้ประชาชนตระหนักถึงสภาวะโลกร้อนและมลพิษทางอากาศจากยานพาหนะ และเป็นการบังคับให้ประชาชนเลือกซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาขี่กัน
ที่มา : CNN
บังคับแบบนี้ และจะไปซื้อที่ไหนล่ะ?
Vinfast (ผู้ผลิตรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์รายใหญ่ของประเทศเวียดนาม) ได้ปล่อยรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Klara มาตั้งแต่ปี 2561 แล้ว และเค้าบอกว่า จะปล่อยรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าออกมาอีกหลายรุ่นภายใน 2-3 ปีข้างหน้านี้อีกด้วย
สิ่งที่บริษัท Vinfast หันไปผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าก็เพราะว่าตระหนักถึงผลเสียจากการใช้งานรถมอเตอร์ไซค์น้ำมันในเมืองแล้วสร้างมลพิษให้แก่ลูกหลานเค้าแหละครับ
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Vinfast รุ่น Klara
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วครับ ผมจัดให้อีกหน่อยละกัน ผมแวะไปเว็บเวียดนามมาแล้วเอาข้อมูลมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Klara มาตีแผ่ให้อ่านกันนะครับ
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Klara นั้นมีสองรุ่น คือ รุ่นแรก เป็นแบต Lithium ion (แบตลิเธียม) ขนาด 22.8 Ah หรือ 1.4 kWh ราคาเริ่มต้น 72,000 บาท ($2,400) ส่วนรุ่นที่สองเป็นแบตกรด (lead-acid) ราคา 43,800 บาท ซึ่งสินค้าล๊อตแรกนั้น บริษัทจะลดราคาแบตให้อีกด้วย ถ้าเป็นล๊อตถัดไปราคาจะเพิ่มขึ้นไปคันล่ะ 10,000 บาท($300)
80 km เสียเงินไป 6 บาท
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันนี้วิ่งได้ไกลถึง 80 km ต่อการชาร์จ 1 ครั้งส่วนค่าไฟในการชาร์จก็แค่ครั้งล่ะ 6 บาท(ชาร์จไฟเต็มกินไฟ 1.4 หน่วย , คิดคำนวณจากค่าไฟ 4 บาทต่อหน่วย) เห้ย ขี่ไปได้ 80 km แล้วใช้ไฟเพียง 6 บาท ถูกแสนถูกแล้วละครับ
แถมแบตรถคันนี้เป็นแบบ removable คือถอดเปลี่ยนได้ ดังนั้นใครขี่ grab ทั้งวันทั้งคืนก็เพียงซื้อแบตมาสำรองเอาไว้ที่บ้าน ถ้าแบตใกล้หมดก็ขี่แวะกลับไปที่บ้านหรือที่ทำงานเพื่อทำการสลับแบตก้อนใหม่มาใช้สิครับ
ที่มา : the leader
Top speed (ความเร็วสูงสุด)ของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันนี้อยู่ที่ 50 km/h ถือว่าน้อยไปนิดกับการใช้งานบนทางหลวงนะครับ แต่เวียดนามเป็นเมืองที่รถติดมากกว่าถนนโล่ง ดังนั้นผมมองว่า การใช้งานเพียง 50 km/h นั้นอาจจะตอบโจทย์ผู้ใช้งานบ้านเค้าก็เป็นได้ครับ