หลังจากนี้ไปประเทศอินโดนีเชียจะกลายเป็น hub ผลิตรถยนต์โตโยต้าที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของ Southeast Asia (ที่หนึ่งยังเป็นประเทศไทย)
-โรงงานที่ไปตั้งนั้นจะผลิตและพัฒนาแบต lithium-ion เป็นหลัก
-Monet ซึ่งเป็นบริษัท self driving ของ โตโยต้า (ระบบขับเคลื่อน อัตโนมัติ เหมือน autopilot ของ tesla) ได้กล่าวกับสำนักข่าวชื่อดัง Reuters (รอยเตอร์) ว่า จะเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ปีหน้า
-ประธานโตโยต้า คุณ อากิโอะ โตโยดะ(Akio Toyoda) ได้กล่าวว่า “จากปีนี้ไปถึงปี 2023 พวกเราจะพยายามทยอยขนเงินมากกว่า 6.4 หมื่นล้านบาท(2 พันล้านเหรียญ)มาลงทุนที่ประเทศอินโดนีเซีย”
-รถชนิดแรกที่จะเริ่มผลิตที่ประเทศอินโดนีเซียจะเป็นรถยนต์น้ำมัน hybrid
-บริษัทโตโยต้าวางแผนเอาไว้แล้วว่า ครึ่งนึงของยอดขายในปี 2025 ต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น ส่วนการที่เลื่อนเป้าการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากปี 2030 ให้เร็วขึั้น 5 ปีนั้นก็มาจากการแข่งขันที่ดุเดือดที่จีน
-Deal นี้เพิ่งทำเสร็จสดใหม่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ณ เมือง โอซาก้า ระหว่าง รัฐมนตรีประสานงาน Luhut Pandjaitan กับ ตระกูลโตโยดะ
-ประเทศอินโดนีเซียจะกลายเป็น hub ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าใหญ่ที่สุดรองจากจีนภายใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่า ฮุนไดได้ดำเนินการเปิดโรงงานผลิตแบตและรถยนต์ไฟฟ้า
ที่มา : business insider
BLINK DRIVE TAKE
ผมเพิ่งทราบเหมือนกันว่า Toyota นั้นวางแผนจะไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบต lithium-ion ที่ประเทศอินโดนีเซีย และก็เพิ่งทราบวันนี้ว่า ประเทศไทยเป็น Hub ใหญ่ที่สุดให้กับ Toyota ใน Southeast Asia (ในใจลึกๆ ผมภาคภูมิใจที่ประเทศไทยนั้นเป็นที่หนึ่งด้านนี้มาตลอด)
แต่มาแบบนี้คงจะต้องเปลี่ยนความคิดใหม่แล้วนะครับว่า Toyota นั้นวางกลยุทธ์ที่แปลกไปคือ ชูประเทศอินโดนีเซียให้กลายเป็น hub ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครับ ซึ่งผมมองว่าการลงทุนตั้ง 6.4 หมื่นล้านบาทนั้นคงไม่ได้ลงทุนเล่นๆ แน่นอน
ซึ่งตอนนี้ พี่จีนมาแรงแซงทางโค้ง เล่นผลิตรถยนต์ไฟฟ้ากันแบบพลิกแผ่นดิน ทำให้พี่โตอยู่เฉยไม่ไหวต้องหาทางสร้างฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่ม(หรือป่าวก็ไม่รู้ครับ) แต่ที่แน่ๆ พี่โตมองข้ามไทยไปเลย
คราวนี้กลับมามองข่าวสารของประเทศไทยซักนิดนะครับ ข่าวนี้เพิ่งออกมาจาก business insider ได้ยังไม่ถึง 24 ชั่วโมงดี ดังนั้นเป็นการยากมากที่สำนักข่าวไทยหรือสำนักข่าวใน internet จะเอาออกมาตีพิมพ์เพราะมันไม่ดังเหมือนข่าวรถยนต์ไฟฟ้าไหม้เนอะ ข่าวแบบนี้กว่าจะมาถึงพวกคุณได้ก็ใช้เวลาเป็นอาทิตย์ เร็วสุดก็ 3 วัน ผมเลยขออาสาแปลข่าวให้ชาว Blink Drive เข้าถึงข่าวสารรอบโลกได้รวดเร็วกว่าที่อื่นนะครับ มันจะการดีอย่างมากถ้าข่าวพวกนี้แปลให้เสร็จหลังจากข่าวต่างประเทศตีพิมพ์ออกมาเพียง 1-2 วันครับ แต่อย่างที่บอกข่าวรถยนต์ไฟฟ้าในไทยนั้นน้อยมาก ๆ (ปีนี้ผมรู้สึุกได้ว่าเยอะกว่าปีที่แล้วเป็นอย่างมาก) ดังนั้นผมขอร้องผ่านเว็บผมตรงนี้เลยครับ ถ้าใครมีฝีมือในการแปล มีความสามารถในการทำ content โปรดกรุณาลุกขึ้นมาทำ content เหล่านี้เถอะครับ เพราะอีกไม่ถึง 1 ปี หมวดรถยนต์ไฟฟ้าจะดังเป็นพลุแตก ดังนั้น ถ้าใครอยากแจ้งเกิดก็มาร่วมด้วยช่วยกัน สร้างเพจขึ้นมาแปลข่าวต่างประเทศกันเถอะครับ ยุคนี้มันยุค IoT(Internet of Thing) ประชาชนของประเทศไหนเข้าถึงข่าวสารก่อน ประชาชนเหล่านั้นจะเป็นผู้ชนะครับ ผมอยากเห็นคนไทยก้าวเป็นที่หนึ่งของโลกในอนาคตครับ จึงอาสาเข้ามาช่วยแปลข่าวให้แก่เด็กรุ่นใหม่ๆ ได้ศึกษากันครับ
ถ้าผมแปลข่าวผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
stay tune at Blink Drive : https://www.facebook.com/blinkdrive555/