มีหลายคนพูดถึง Tesla Supercharger กันหลายหัวข้อมากๆว่า Tesla Supercharger มันเป็นของแถมจากการซื้อรถ Tesla ผู้ใช้งาน Tesla ไม่มีทางกำหนดทิศทางการตั้ง Tesla Supercharger ได้อยู่แล้ว บางคนก็ออกความเห็นว่า “แล้วตั้งตรงนู้นหรือตรงนี้จะผิดยังไง หรือจะบอกว่า จะไปเดือดร้อนทำไมเวลาเค้าจะไปตั้ง” “พวกคุณมีหน้าที่ใช้งานไปก็เท่านั้นเอง เค้าดีลกันจบนานแล้ว คุณจะไปโวยวายเพื่ออะไร”
หรืออีกฝั่งก็บอกว่าต้องตั้งข้างริม Highway เท่านั้น ห้ามตั้งในห้างฯ ในเมือง เดี๋ยวโพสนี้จะไขคำตอบกันนะครับว่า Tesla Supercharger มีประวัติความเป็นมายังไงและใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของ Tesla Supercharger ในแต่ละประเทศนั้นคือใคร, แล้วทำไม Tesla Supercharger ถึงเป็นสิ่งที่ทำให้รถ Tesla ยังเป็นรถที่น่าซื้อในปี 2024 ทั้งๆที่ค่ายอื่นพัฒนาแบตให้สามารถชาร์จได้ถึง 800 Volts ไปกันเกือบหมดแล้ว โพสนี้จะมาไขคำตอบกันนะครับ
ประวัติเริ่มต้น
Tesla เปิดตัว Tesla Supercharger ครั้งแรก ณ วันที่ 24 กันยายน 2012 หรือเมื่อ 12 ปีที่แล้ว เปิดตัวพร้อมส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model S ในปีนั้น โดย 6 สถานีแรกที่เปิดตัวนั้นกระจัดกระจายอยู่ระหว่าง 2 รัฐคือ แคลิฟอร์เนีย, เนวาดา, และอลิโซน่าเพื่อให้รถ Tesla ทุกคันสามารถเดินทางข้ามเมืองได้อิสระครับ
สิ่งที่ Tesla ทำในปี 2012 นั้นเรียกได้ว่าบ้าระห่ำเลยละครับ เป็นบริษัท Startup แท้ๆที่เพิ่งก่อตั้ง
ย้อนประวัติกลับไปนิดนึงคือ บริษัท Tesla ก่อตั้งโดย Martin Eberhard and Marc Tarpenning ในปี 2003 หรือ 21 ปีที่แล้วและอีลอนมาเข้าร่วมในปี 2004, เพิ่งมาตั้งไข่ได้จริงๆ ตอนปี 2008 ที่ออกวางขาย Tesla Roadster , มาปี 2012 ก็เปรี้ยวเปิดตัว Tesla Model S และก็ประกาศสร้าง Tesla Supercharger ทั่วอเมริกาและยุโรปเลยครับ
เรียกได้ว่า ตอนนั้นคนมองว่าอีลอนเป็นคนบ้าคนนึงเลย ที่พร้อมจะเอาบริษัท Tesla ที่สร้างมา 10 ปีมาเดิมพันกับการบอกทุกคนว่าจะไม่พึ่งพารัฐบาลหรือเอกชนรายอื่นมาสร้างสถานีชาร์จให้กับตนแต่เลือกที่จะสร้างสถานีชาร์จ Tesla Supercharger ด้วยตัวบริษัทเอง
ภาพ “The Wall of Evolution” ณโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Factory เมือง Fremont รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศอเมริกา
ต้องเรียนอย่างนี้นะครับ Tesla ในปี 2012 นั้นไม่ได้ strong (แข็งแกร่ง)เท่ากับ Tesla ในปี 2024 ที่ใครๆ ก็อยากมาลงทุนหรือซื้อรถมาขับครับ
Tesla ในปี 2012 ขาดทุนถึง $396 ล้านเหรียญ (14,026 ล้านบาท) ล้านบาทซึ่งขาดทุนมากกว่าปี 2011 ที่มีงบขาดทุนถึง $254 ล้านเหรียญ (8,996 ล้านบาท)เรียกได้ว่า ตอนนั้นเป็นช่วงเวลานรกของ Tesla เลยนะครับ สาเหตุที่ขาดทุนหนักมาก เนื่องจากอีลอนเข้าซื้อโรงงาน NUMMI ซึ่งเป็นโรงงานที่ GM (General Motors) และ Toyota จับมือร่วมกันก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1984 หรือ 40 ปีที่แล้ว และทำการเปิดตัวภายในวันที่ 1 เมษายน 2010 โดยคนที่มา take กิจการต่อจาก Toyota ก็คือ Tesla Motors ยังไงละครับ พร้อมกับอีลอนบอกว่าจะเอารถไปขายยุโรปและทั่วอเมริกาอีกด้วย ทำให้ค่าใช้จ่ายบานเบอะ ไหนจะเบิกงบไปพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model S เพื่อทำการขายอีก แถมยังมีเรื่องการลงทุน Tesla Supercharger เข้ามาอีก เรียกได้ว่า เจอศึก 10 ด้านเลยก็ว่าได้ครับ
ภาพ : คุณ JB Straubel (สตรัสเบล)หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Tesla Motors มอบรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model S คันแรกของโลกให้กับลูกค้านะครับ
อย่างไรก็ตาม อีลอนก็ยังบอกว่า Tesla Supercharger นั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาตั้งแต่ต้นเพื่อสร้างกำไรให้กับบริษัทเทสล่าหรือเป็นเครื่องประดับสถานที่ เช่น ห้างฯ แต่ถูกออกแบบมาเพื่อให้บริการผู้ใช้งาน Tesla ประเภท Long Distance Travel (เดินทางไกล) เพื่อให้พวกเค้าเดินทางถึงที่หมายได้รวดเร็วเหมือนกับการเติมน้ำมันที่ปั้มน้ำมัน(Cite : Tesla Website) และนี่คือ Core Value ของการสร้าง Tesla Supercharger ที่อีลอนกล่าวเอาไว้ในปี 2012 ครับ ธุรกิจ Tesla Supercharger ไม่ใช่ธุรกิจแสวงหากำไร แต่เป็นธุรกิจที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้บริการผู้ใช้งาน Tesla ทุกคนขับรถถึงที่หมายได้สะดวกรวดเร็วเหมือนกับการใช้งานรถยนต์น้ำมัน
ประวัติ Tesla Supercharger
รุ่น | กำลังไฟสูงสุด | คุณสมบัติ / หมายเหตุ |
---|---|---|
V1 | 100 กิโลวัตต์ | • กำลังไฟลดลงเมื่อมีรถอีกคันเสียบชาร์จที่เครื่องชาร์จคู่ข้างเคียง |
V2 | 125 หรือ 150 กิโลวัตต์ | • กำลังไฟลดลงเมื่อมีรถอีกคันเสียบชาร์จที่เครื่องชาร์จคู่ข้างเคียง • อัพเกรดกำลังไฟจาก 120 กิโลวัตต์ผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์ |
Urban | 72 กิโลวัตต์ | • ขนาดเล็กกว่า เหมาะสำหรับการติดตั้งในเมือง |
V3 | 250 กิโลวัตต์ | • มีสายชาร์จที่บางและเบากว่า ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว • บางเครื่องในอเมริกาเหนือมีอะแดปเตอร์ CCS “Magic Dock” สำหรับชาร์จรถยี่ห้ออื่น |
V4 | 250 กิโลวัตต์ | • มีสายชาร์จที่ยาวขึ้นและเครื่องอ่านบัตรเครดิตสำหรับชาร์จรถยี่ห้ออื่น • เครื่องชาร์จในอเมริกาเหนือมีอะแดปเตอร์ CCS “Magic Dock” • ปัจจุบันจำกัดที่ 250 กิโลวัตต์ แต่สามารถรองรับกำลังไฟที่สูงขึ้นได้ในอนาคต |
ในฝั่งยุโรปนั้น สถานี Tesla Supercharger แห่งแรกในยุโรปตั้งอยู่ที่ นอร์เวย์ โดยเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคม ปี 2013 ที่เมือง Lyngdal ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขยายเครือข่าย Supercharger ในยุโรป จากนั้นเทสล่าประกาศแผนขยายเครือข่าย Supercharger ให้ครอบคลุมเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ เบลเยียม ออสเตรีย เดนมาร์ก และลักเซมเบิร์ก และ 90% ในอังกฤษ เวลส์ และสวีเดน ภายในสิ้นปี 2014
ในฝั่งเอเชียนั้น Tesla Supercharger แห่งแรกถือกำเนิดในเมืองปักกิ่งประเทศจีน ปี 2014
ใครเป็นเจ้าของ Tesla Supercharger ?
ในทางกฏหมายนั้น เจ้าของ Tesla Supercharger คือบริษัท Tesla ครับ แต่ถ้าในความเป็นจริงนั้น เจ้าของรถ Tesla ทุกคนหรือจะเรียกว่าพวกคุณที่เป็นเจ้าของรถ Tesla ในไทยนี้เป็นเจ้าของ Tesla Supercharger อยู่นะครับ
Tesla Supercharger ทุกหัวจ่าย ทุกสถานีนั้นมาจากเงินของพวกคุณ(เจ้าของรถ Tesla)ครับ อีลอนบอกในปี 2012 เองว่า เงินที่ลงทุนสร้างสถานีชาร์จ Tesla Supercharger ทุกสถานีจะมาจากการขายรถยนต์ไฟฟ้า Tesla เท่านั้น Tesla ไม่มีนโยบายรับเงิน third party (บุคคลที่สาม)มาสร้างสถานีชาร์จครับ (Cite : electrek, Tesla website)
Tesla Supercharger “never be a profit center” – อีลอน มัคส์
หรือจะแปลอีกครั้งว่า Tesla Supercharger ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อประดับสถานที่หรือเป็นตัวทำเงินให้กับบริษัท Tesla ครับ มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับชาว Tesla ทุกท่านครับ
การลงทุน Tesla Supecharger ทุกสาขาบนโลกนั้นอ้างอิงจากเงินกำไรจากการขายรถในประเทศนั้นๆครับ (Cite : electrek, Tesla website) อันนี้จึงเป็นสาเหตุที่ Tesla ไม่เอาเงินมาโฆษณาป้ายใหญ่ๆ ในเมืองหรือยิงโฆษณาในทีวีครับ เพราะเค้าเลือกที่จะใช้เงินของพวกคุณแบบสมเหตุสมผลมาโดยตลอดครับ
ย้ำอีกครั้งว่า ในทางกฏหมายหรือกรรมสิทธิ์นั้น ชาวเทสล่าไม่มีสิทธิ์ในการซื้อขายสถานี Tesla Supercharger หรอกครับเพราะคุณไม่ได้สั่งซื้อเครื่องชาร์จเข้ามาในไทย แต่ถ้าไม่มีพวกคุณ(ชาวเทสล่า) ก็ไม่มี Tesla Supercharger ครับ Tesla Supercharger ไม่ได้คลอดออกมาจากท้องแม่วัวครับ แต่มันออกจากเงินในกระเป๋าของพวกคุณครับ ถ้าไม่มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ในไทย สถานี Tesla Supercharger ก็ไม่เยอะขนาดนี้หรอกครับ เค้าสั่งซื้อ Tesla Supercharger ตามจำนวนยอดขายในไทยครับ
พวกคุณคือ income source ของ Tesla Supercharger ในไทยทุกสาขาครับ
แล้วที่ตลกคือ เค้าเอาเงินของพวกคุณไปสร้างสถานีในบริเวณที่พวกคุณไม่สามารถใช้งานได้กันอย่างมีประสิทธิภาพ ฮ๋าๆ
ถ้า Tesla Supercharger เกิดในถิ่นนั้นแล้ว จะมีสาขาสองแถวนั้นได้ไหม?
ส่วนใครที่บอกว่า เห้ย ปล่อยเค้าสร้างไปก่อน เดี๋ยวเค้าก็หันมาสร้างข้าง Highway บอกเลยครับว่า ยากมาก เพราะถ้าสถานีถัดไปนั้นมันดันอยู่ใกล้เส้น highway ที่วิ่งขึ้นเหนือล่องใต้มากกว่าสถานีแรก ก็เท่ากับว่าเค้ากำลังสร้างสถานี Tesla Supercharger เพื่อ disrupt สถานีที่สร้างมาก่อนหน้านั้น ใครอยากทุบหม้อข้าวหม้อแกงตัวเองโดยการสร้างสถานีชาร์จ Tesla Supercharger ใกล้กันถึง 2 สถานีละครับ นั่นก็กลายเป็นว่า หวยมันจะล๊อคแค่นั้นเพื่อไม่ให้คนเลิกใช้สถานีแรก
ตัวอย่างง่ายๆ เส้นขึ้นทางเหนือของไทยนั้นมีสถานี(ไม่ขอพูดชื่อ)อยู่ห่างจากถนนใหญ๋ไปอีก 15-20 นาที(ต้องอ้อมเข้าไปชาร์จ) ถ้าวันนี้คุณจะขอให้เค้าสร้างสถานี Tesla Supercharger ข้างถนนใหญ่ตรงปากทางเข้าหรือถัดไปอีก 1-2 km คุณคิดว่าเค้าจะทำไหมครับ อารมณ์เหมือน 7-11 แหละครับ ถ้าเจ้าของใหญ่มาลงทุนสร้างซอยนี้แล้ว ใครจะมาขอเปิดอีกสาขาก็ทำไม่ได้ครับเพราะมันไปแย่งยอดขายสาขาแรกครับ
เอาง่ายๆ ครับ ที่พัทยานั้น สร้างเอาไว้ซะสูงขนาดนั้น เป็นไปได้ไหมครับว่าเค้าจะกล้าสร้างสถานีที่เข้าถึงง่ายในพัทยาเป็นแห่งที่สองครับ ถ้าสร้างจริง แห่งแรกใครจะแวะเข้าไปใช้ครับ? ผมบอกเลยว่าอาจจะมี เช่นพวกที่เข้าห้างฯไป shopping แล้วเผอิญวนหาที่จอดรถไม่เจอซักทีจนวนไปถึงชั้นบนสุดของห้างฯ แต่ถ้าใช้งาน roadtrip นั้นยากครับ
แล้วนี่มันตรงกับสิ่งที่อีลอนพูดยังไงบ้างครับ?
BLINK DRIVE TAKE
จริงๆ ตัวผมเป็นคนรักสงบอยู่ครับ เลี่ยงที่จะมีเรื่องกับคนอื่นมาตลอด เนื่องด้วยบุคลิกผมเป็นคนใส่แว่น เด็กเนิร์ดที่นั่งเล่นเกมส์หรือเกรียนไปวันๆ ครับ (ตอนเด็กๆ นั้น เวลามีเรื่อง ผมวิ่งหนีตลอดครับ ขี้ขลาดมากครับ)
แต่พอมาอยู่อเมริกาแล้ว เริ่มมองเห็นโลกกว้างขึ้นและมองว่าเรื่องไหนมันไม่ถูกต้อง(ถ้ามันเอียงแค่ 10-20% ผมก็ว่ามันเป็นสิ่งที่เราต้องยืดหยุ่นและรับได้ครับ แต่นี่เอียงเกินไปมากครับ) ผมเลยต้องลุกขึ้นมา fight นะครับ เพราะถ้าเรานิ่งเฉยกับสิ่งผิดๆ เหล่านั้น เท่ากับว่า เรายินดีให้คนอื่น “เหยียบ” หน้าเราฟรีๆอยู่นะครับ ผมไม่ได้ fight บริษัท Tesla นะครับ ผมจะทำไปเพื่ออะไร เพราะบริษัทแม่เค้าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่สิ่งที่ผม fight มาตลอดคือ สิทธิของ Tesla Owner ที่ไทยจะได้อะไรบ้างครับ โดยอ้างอิงข้อมูลจากต่างประเทศเป็นหลักครับ
เพจผมเป็นเพจเล็กมากๆ ผมอาจจะทำอะไรไม่ได้มากหรอกครับ ผมไม่สามารถหยิบมือพวกคุณขึ้นมาต่อสู้กับองค์กรต่างๆ ที่พยายามหาผลประโยชน์จากเทสล่าได้หรอกครับ ผมเป็นเพียงเพจเล็กๆครับ ไม่สามารถบงการใครหรือบอกใครได้หรอกครับ ผมเพียงหยิบ fact ของฝรั่งมาแปลเป็นภาษาไทยเท่านั้นเองครับ fact คือ fact ครับ
เพจ Blink Drive อาจจะโดนค่ายรถ(โดยเฉพาะเทสล่า)และเพื่อนๆ ที่เป็นสื่อเกลียดขี้หน้าเยอะขึ้นซึ่งก็เตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่ถ้าผมไม่ลุกขึ้นมาสู้ในวันนี้ ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ในไทยมันจะไม่โตไปกว่านี้อีกแล้วครับ เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้วที่คนไทยจะหันมาซื้อแบรนด์รถที่สร้างสถานีชาร์จแต่ในห้างฯหรือเข้าถึงยากกว่าสถานีทั่วไป มันไม่มี Privilege กว่าเจ้าอื่นแล้วครับ ค่ายอื่นพัฒนาแบตไป 800 Volts กันเกือบหมดแล้ว เทสล่าทุกคันที่ใช้ 400 Volts แล้วชนะค่ายอื่นที่ใช้ 800 Volts อยู่ได้ทุกวันนี้เพราะ Tesla Supercharger แต่ถ้ายังจัดตั้งสถานีชาร์จกันแบบนี้และชาวเทสล่าก็ไม่ได้สนใจอะไรกับการมาของสถานีชาร์จในแต่ละแห่งแบบนี้
อนาคต ยอดขาย Tesla ในไทยจะขี้เหร่กว่าประเทศอื่นทั้งหมดครับ และคนที่ซวยคือเจ้าของรถ Tesla ยังไงละครับ ใครๆก็ทราบกันว่า ที่ราคามือสองเทสล่ายังตรึงอยู่ทุกวันนี้เพราะ Priviledge ของการเข้าถึงสถานีชาร์จ Tesla Supercharger ที่ไม่ต้องไปแย่งหัวชาร์จ 2 แท่นในปั้ม แต่ถ้าในอนาคตเอกชนหันมาทำสถานีชาร์จ 6-10 หัวจ่ายแบบ Tesla Supercharger แล้ว เราจะวนขึ้นห้างฯไปชาร์จเพื่ออะไรครับ(ถ้าไม่ได้อยากเดินห้างฯนะครับ) ราคามือสอง Tesla หลังจากนี้อีก 3-4 ปีข้างหน้าก็ไม่น่าจะต่างจากค่ายอื่นครับ ดีไม่ดีถูกกว่าด้วยซ้ำเพราะค่าประกันที่แพงมากกกกกกกครับ(แปลกใจที่ค่ายนี้แก้ไขปัญหาไม่ได้ซะที ค่ายอื่นมาทีหลัง ราคารถแพงกว่าแต่ค่าประกันถูกกว่าค่าย Tesla ซะงั้น)
ดังนั้น ถ้าจะต้องให้ผมเลือกจริงๆ ผมขอยืนอยู่ข้างชาว Tesla ทุกท่านแล้วกันนะครับ
Tesla Supercharger คือบ้านของเจ้าของรถ Tesla ทุกคนครับ ทีเวลาผู้รับเหมามาสร้างบ้านให้คุณแล้ว สร้างผิดๆ หรือมีรอยร้าว พวกคุณจะโมโหจะเป็นจะตายเลยครับ แล้วนี่ถ้าเค้ามาสร้างบ้าน Tesla (สถานีชาร์จ)ให้เราแล้วมันไม่ถูกต้องตามจุดประสงค์ของอีลอนและการใช้งานของพวกคุณ พวกคุณยังชิวกันแบบนี้ อนาคตก็เตรียมใจครับ สถานีชาร์จ Tesla SC ทุกแห่งจะถูกออกแบบให้เหมือนต้นแบบคือ อยู่ในที่ๆ เข้าถึงยากและห่างจากถนนที่ใช้ในการสัญจรจริงๆครับ
โพสนี้เพียงแต่มาบอกว่า พวกคุณทุกคนที่ขับ Tesla อยู่คือเจ้าของสถานีชาร์จ Tesla Supercharger ครับ คุณมีสิทธิ์มีเสียงที่จะไปบอก Tesla ไทยให้สร้างสถานีตามที่มันควรจะเป็นครับ เพราะพวกคุณคือคนกำหนดทิศทางในการสร้างสถานีชาร์จ Tesla Supercharger หรือจะบอกทางอ้อมว่าพวกคุณคือผู้มีพระคุณของ Tesla Thailand ครับ ไม่ใช่นายทุนครับ
สถานีไหนดีก็รีวิวไปครับ เขียนเป็นกระทู้ในกลุ่มก็ได้ หรือจะเขียนบอกเล่าให้เพื่อนๆ อ่านในไลน์หรือส่งมาให้ผมก็ได้ครับ ผมช่วยโฆษณาให้ครับ ส่วนสถานีไหนไม่ดีก็รีวิวตามความเป็นจริงครับ
อย่าลืมนะครับ พวกคุณทุกคน(เจ้าของรถ Tesla) คือเจ้าของ Tesla Supercharger ครับ ไม่ใช่เจ้าของที่, เจ้าหน้าที่เทสล่า, หรืออีลอน มัคส์(ซึ่งมั่นใจว่าอีลอนไม่รู้เลยว่าที่ไทยสร้างกันแปลกๆ แบบนี้)ครับ พวกเค้าสร้าง Tesla Supercharger จากเงินที่ขายรถให้พวกคุณครับ ไม่ได้เสกเงินจากฟ้าหรือเอาเงินจากอเมริกาไปสร้างให้พวกคุณครับ
ดังนั้น ปกป้องสิทธิ์ของพวกคุณกันเองนะครับ
ถ้าชอบบทความก็ share ให้พรรคพวกของพวกเรา(เจ้าของ Tesla ทุกคน)ทราบถึงเจตนาของอีลอนด้วยเถอะครับ
ส่วนใครอยากแชร์ประสบการณ์การเข้าถึง Tesla Supercharger ต่างๆ ในไทยให้ชาวอเมริกาและคนของเทสล่าฝั่งอเมริกาก็เข้าไปเว็บ Nowyouknow ได้เลยครับ ถ่ายวิดีโอของคุณในการเข้าถึงสถานีชาร์จต่างๆ แล้วส่งไปในแบบฟอร์มในนั้นครับ เค้าจะเอาข้อมูลคุณไปเสนอกับทางเทสล่า HQ และทำคลิปออกมาเพื่อเผยแพร่ข้อมูลจากฝั่งไทยให้ครับ
ส่วนใครอยากมีส่วนร่วมในการให้ความเห็นในฐานะ Tesla user คนนึงก็สามารถกดเข้าไปใน link นี้เพื่อโหวตได้เลยนะครับ
ถ้าไม่ชอบก็ทักผมมาในเพจได้เสมอครับพร้อมแนบ fact ที่ถูกต้องมาครับ ผมจะเรียนรู้จาก fact ของคุณและนำมาแก้ไขบทความครับ ผมขอเป็น fact ที่มี citation นะครับ ไม่ใช่ “เค้าว่า..” “เค้าพูดมา..” อันนี้เอามาเป็น fact ไม่ได้ครับเพราะไม่มี citation ครับ