เจ้าของรถคันนี้ใช้นามใน Twitter ว่า “I Like Piano Black” เป็นคนแคนาดานะครับ รถคันนี้คือ รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 Long Range ปี 2018 หรือเรียกว่าขับมาได้ 5 ปีเต็มๆ ไปแล้วนะครับ
ฝรั่งคนนี้ขับรถวันล่ะ 500-600 km ซึ่งเส้นทางที่เค้าใช้งานระหว่างวันนั้นเป็นเส้นทาง highway เกือบซะส่วนใหญ่ ดังนั้นการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ของเค้านั้นจะเน้นการชาร์จกับ Supercharger (DC Fast Charge) เป็นหลักครับ ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าชาร์จ Tesla Supercharger เป็นหลักเพราะใช้งานรถหนักมากๆ
ภาพด้านล่างนั้นเปลี่ยนเป็นหลัก km ตอนเดือนพฤศจิกายน 2023 ที่ผ่านมาครับ
ซ่อมอะไรไปแล้วบ้าง?
แกก็โพสตอบเบาๆ ชิวๆว่า
แบตเตอรี่เดิม, ผ้าเบรคเดิม(ตั้งแต่ซื้อมาจากโรงงาน), มอเตอร์เดิม
แต่ก็มีสิ่งที่เสียเหมือนกันครับ แต่เป็นของที่สามารถเปลี่ยนได้ครับ เช่น
- ปั้มน้ำมันเกียร์ (drivetrain oil pump) : 250 CAD หรือ 6,137 บาท เสียตอน 460,000 km
- Control Arm (ปีกนก) และโช๊ค (suspension) – ไม่ได้บอกราคาแต่ก็เป็นราคาช่วงล่าง(แพงกว่าไทยนิดๆ) ค่าแรงที่แคนาดาแพงกว่าไทย 5-8 เท่าตัว
เสียค่าบำรุงรักษาอะไรไปแล้วบ้าง?
ถ้าไม่นับยางรถกับน้ำยาทำความเย็นแบตที่ต้องเปลี่ยนทุกๆ 250,000 kmแล้ว ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษารถคันนี้ไม่มีเลยครับ ผ้าเบรคเดิม, มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดิม, แบตเดิม
BLINK DRIVE TAKE
ทุกคนคงสงสัยว่าแกทำอาชีพอะไรใช่ไหมครับ? ฝรั่งท่านนี้บอกว่า เค้าทำงานเป็นคนส่งของระหว่างประเทศ(Internaltional Courier) แล้วเค้าบอกทริกอีกอย่างที่รถ Tesla Model 3 เค้ารอดตายมาถึงทุกวันนี้คือ อย่าไปจี้ตูดรถคันอื่นเยอะเพราะรถเทสล่านั้นมีมอเตอร์และแบตที่ทนทานก็จริง แต่ Body ของรถนั้นกระจอกมากๆครับ แค่ชนนิดหน่อยก็ Totaled ทั้งคันแล้วครับ(ประกันตีเสียทั้งคัน) ดังนั้นถ้าอยากขับนานๆ อย่าไปขับจี้ตูดใครมากครับ (เพื่อลดอุบัติเหตุ)
