Blink Blink
EV CarsVolvo

Volvo ประกาศเปลี่ยนชื่อรุ่นรถไฟฟ้า XC40 เป็น EX40 พร้อมเปิดตัวรุ่นพิเศษ Black Edition

  • รถไฟฟ้า Volvo C40 Recharge เปลี่ยนชื่อเป็น Volvo EC40 และ Volvo XC40 Recharge เปลี่ยนชื่อเป็น Volvo EX40
  • เปิดตัวรุ่นพิเศษ Black Edition เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้ทุกเส้นทาง สำหรับผู้กล้าที่จะแตกต่าง ด้วยโทนสีดำทั้งภายในและนอก อาทิ สีภายนอก Onyx Black , ตราโลโก้วอลโว่หน้ากระจังรถสีดำ, ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วแบบก้านดำเงา และการตกแต่งภายในสี charcoal
  • Volvo EC40 และ EX40 เจนเนอเรชั่นล่าสุดยังมาพร้อมสีใหม่ Sand Dune

“E” เพื่อเพิ่มความชัดเจนในเรื่องรถ EV

วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ประกาศพร้อมจำหน่าย Volvo EC40 และ EX40 รถไฟฟ้าเจนเนอเรชั่นล่าสุด ซึ่งได้รับการเปลี่ยนชื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มผลิตภัณฑ์รถไฟฟ้าของวอลโว่ พร้อมเปิดตัวรุ่นพิเศษ แบล็ค เอดิชั่น (Black Edition)

Volvo EC40 และ EX40 ได้รับการเปลี่ยนชื่อจากรุ่นเดิม ได้แก่ Volvo C40 Recharge และ XC40 Recharge ตามลำดับ เพื่อสร้างความชัดเจนให้กลุ่มผลิตภัณฑ์รถไฟฟ้าจากวอลโว่ และสอดคล้องกับรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง Volvo EX30 นอกจากนี้ วอลโว่ ยังได้ยุติการใช้คำว่า Recharge ในชื่อผลิตภัณฑ์ทุกรุ่นรวมถึงรถปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid)

คุณคริส เวลส์, กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “เพื่อสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนแก่ผู้บริโภค และเตรียมความพร้อมสู่การเป็นบริษัทรถไฟฟ้าในอนาคต  วอลโว่ คาร์ จึงเปลี่ยนชื่อรถไฟฟ้าสองรุ่นแรกของเราให้สอดคล้องกับรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ที่เพิ่งเปิดตัว เราเชื่อว่าชื่อผลิตภัณฑ์ที่ถูกเปลี่ยนจะช่วยมอบความชัดเจนแก่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นเมื่อซื้อรถไฟฟ้า หรือรถปลั๊กอินไฮบริด จากวอลโว่” 

(ที่สองจากขวา) คุณคริส เวลส์ – กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด

(ที่สองจากซ้าย) คุณภัทรพงษ์ อชะปาละศิริ – ผู้อำนวยการฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด

(ขวา) คุณนิชานันท์ ปัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย)

(ที่สามจากขวา) คุณอัจฉริยา  คุณพันธ์ – ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด

(ซ้าย) คุณสวพงษ์ พงษ์เก่า – ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด

Black Edition

นอกจากชื่อและเจนเนอเรชั่นใหม่    วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ยังประกาศการจำหน่าย Volvo EC40 และ Volvo EX40 ในรุ่น Black Edition เพื่อมอบตัวเลือกที่มากขึ้นแก่ผู้บริโภคที่มองหารถไฟฟ้าที่มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ สีโดดเด่นสะดุดตา และให้คุณสมบัติการใช้งานที่คล่องตัว ตอบโจทย์ในทุกบทบาทที่เป็นคุณ ในทุกมิติของการใช้ชีวิต


ชื่อรุ่นที่บ่งบอกตัวตน:Black Edition มาพร้อมการออกแบบโทนสีภายนอกด้วยสีดำ Onyx Black องค์ประกอบการตกแต่งอื่น ๆ อาทิ โลโก้วอลโว่ที่กระจังหน้า ตัวอักษรวอลโว่ที่ด้านหลัง ป้ายชื่อรุ่น  และล้อแม็กซ์อัลลอย์ขนาด 20 นิ้วดีไซน์  5 ก้าน ล้วนมาในสีดำไฮกรอส

ภายในตกแต่งด้วยโทนสีเข้มรับกับสีตัวรถด้านนอก อาทิ พวงมาลัยแบบสปอร์ตที่ออกแบบมาเพื่อการจับที่ถนัดมือ เพดานหลังคาภายใน และการตกแต่งภายในมาในโทนสีดำ charcoal   เบาะที่นั่งผลิตขึ้นจากวัสดุเนื้อผ้าสีดำแบบ Connect Suede Textile/ Microtech ให้สัมผัสพรีเมียมที่แฝงความเท่ห์ไว้ในตัว ทำให้ Black Edition ของรถทั้งสองรุ่นมีความสปอร์ต และเรียบหรู ในคันเดียวกัน

ตำแหน่งการจัดวางอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในห้องโดยสารของ Volvo EC40 และ Volvo EX40 ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้จริง ไม่เกะกะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้ขับและผู้โดยสารสามารถเข้าถึงการใช้งานต่าง ๆ ภายในรถได้ง่าย ทั้งยังให้ลุคที่มินิมอล เรียบหรู ในแบบสแกนดิเนเวียนดีไซน์อันเป็นเอกลัษณ์ของวอลโว่

นอกเหนือจากตัวเลือกพิเศษอย่างรุ่น Black Edition  รถไฟฟ้า Volvo EC40 และ EX40 ยังมาพร้อมสีตัวถังภายนอกใหม่ ได้แก่ สี Sand Dune ที่ตัดกับโครงหลังคาสีดำของตัวรถอย่างลงตัว

รถทั้งสองรุ่นมาพร้อมระบบสาระบันเทิง (infotainment) ที่มีคุณสมบัติและประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม โดยรองรับการทำงานร่วมกับแอปพลิเคชั่นจาก Googleและระบบปฏิบัติการณ์ Android โดยผู้ใช้งานสามารถใช้บริการจาก Google อาทิ บริการนำทาง Google Maps, การสั่งงานต่าง ๆ ผ่าน Google Assistant หรือดาว์นโหลดแอปที่รองรับผ่าน Google Play Store 

พลังขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (Twin Motor)* ของ Volvo EC40 และ EX40 ให้ระยะทางการขับสูงถึง 650 กิโลเมตร ใน Volvo EC40 และ 645 กิโลเมตร ใน Volvo EX40 แบตเตอรี่ความจุขนาด 82kWh  แรงม้าสูงสุดจากมอเตอร์ไฟฟ้า 408hp ให้แรงบิดสูงสุดถึง 670Nm รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 200 kW DC.

พลังขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว (Single Motor)* ของ Volvo EC40 และ EX40 ให้ระยะทางการขับสูงถึง 590 กิโลเมตร ใน Volvo EC40 และ 565 กิโลเมตร ใน Volvo EX40 แบตเตอรี่ความจุขนาด 69kWh แรงม้าสูงสุดจากมอเตอร์ไฟฟ้า 238hp ให้แรงบิดสูงสุดถึง 420Nm รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 150 kW DC.

ราคา Volvo EC40 และ EX40

Volvo EC40 และ EX40 เจนเนอเรชั่นใหม่ รวมถึงรุ่น Black Edition พร้อมให้ผู้สนใจจองแล้ววันนี้ 

  • Volvo EC40 Ultra – Twin Motor Black Edition ราคา    2,490,000       บาท
  • Volvo EX40 Ultra – Twin Motor Black Edition ราคา    2,390,000       บาท
  • Volvo EC40 Ultra – Twin Motor          ราคา 2,790,000 บาท
  • Volvo EC40 Ultra – Single Motor       ราคา 2,090,000 บาท
  • Volvo EX40 Ultra – Twin Motor          ราคา 2,690,000 บาท
  • Volvo EX40 Ultra – Single Motor       ราคา 1,990,000 บาท
ModelPrice (Baht)Battery (kWh)Horsepower (hp)
Volvo EC40 Ultra – Twin Motor Black Edition2,490,00078402
Volvo EX40 Ultra – Twin Motor Black Edition2,390,00078402
Volvo EC40 Ultra – Twin Motor2,790,00078402
Volvo EC40 Ultra – Single Motor2,090,00069248
Volvo EX40 Ultra – Twin Motor2,690,00078402
Volvo EX40 Ultra – Single Motor1,990,00069248

BLINK DRIVE TAKE

จริงๆ ต้องบอกว่า ผมก็สับสนมาหลายปีเหมือนกันว่า Volvo XC40 Recharge นั้นคือ plug-in Hybrid หรือ EV เพราะเวลาไปที่ศูนย์ฯ Volvo นั้นจะมี 2 คันจอดคู่กันและแทบจะดูไม่ออกเลยครับ ยกเว้นจะไปดูท่อไอเสียด้านหลัง มารอบนี้ถือว่า Volvo ค่อนข้างเอาจริงเรื่องรถ EV ขึ้นมาอีกระดับโดยเปลี่ยนชื่อรุ่นด้านหน้าให้ unique(เอกเทศน์)ไปเลย

ถ้าเทียบกับรถ EV รุ่นต่างๆ ในท้องตลาดแล้ว สิ่งที่ Volvo ได้เปรียบกว่า Tesla Model Y Long Range นั่นก็คือเรื่องแบตที่ให้มามากกว่า(แต่มอเตอร์กินไฟมากกว่าหน่อยๆ)และหน้าจอฝั่งคนขับที่ทำให้คนสูงอายุมาขับแล้วไม่ต้องปรับตัวมากนัก ส่วนเรื่องค่าประกันนั้นยังไง Volvo ก็ทำราคาค่าประกันภัยรถต่ำกว่า Tesla Model Y อยุ่ดีซึ่งผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดีว่าทำไม Tesla Model Y ถึงมีค่าประกันแซง Volvo ทุกรุ่นซะงั้น ทั้งๆ ที่ค่าตัวถูกกว่า

ประสบการณ์ส่วนตัวตัวนั้น ผมเคยได้ขับ Volvo C40 บอกตามตรงว่าสิ่งที่ประทับใจคือ frunk ที่ให้มาเหมือน Tesla, แต่ที่ดีกว่านั้นคือเรื่องจอฝั่งคนขับ สะดวกสบายจนสปอยผมไปเลยครับ แถมหน้าจอชัดมากๆ

ส่วนช่วงล่างนั้น มันก็คือ Volvo ครับ ไม่ต้องพูดเยอะ กดไป 180 km/h ++ ก็เอาอยู่จริงๆ ดีใจที่เค้าเอารุ่น Single Motor มาขายในบ้านเราและทำราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาทนะครับ เพราะเอาจริงๆ รุ่นนี้ก็ฮิตในต่างประเทศ(แถบยุโรป)เพราะมันตอบโจทย์คนที่ใช้งานระยะทางไม่ไกลมาก เช่น บ้านไปที่ทำงานหรือรอบเมือง เป็นต้น

ผมขอจากกันด้วยคลิปรีวิว Volvo C40 ที่เคยทำเอาไว้ตอนกลับไปไทยเมื่อปีที่แล้วนะครับ

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

Follow by Email