Mate Rimac ซึ่งเป็น CEO Buggatti และ Rimac ได้ออกมาแถลงการณ์ว่าจะเปิดตัวแบรนด์รถใหม่ภายในเครือของ Volkswagen Group ในชื่อยี่ห้อว่า VERNE ซึ่งรถยี่ห้อนี้จะไม่มีพวงมาลัย, คันเร่ง,และแป้นเหยียบเบรคมาตั้งแต่วันแรกที่วางขายเลยเพราะ Mate ตั้งใจจะสร้างรถคันนี้ให้เป็น Driverless Taxi หรือ Robotaxi นั่นเองครับ โดยเมืองแรกที่จะได้ Robotaxi ยี่ห้อ VERNE ไปใช้นั้นก็คือ เมือง Zagreb ประเทศโครเอเชียซึ่ง Mate วางแผนจะส่งมอบรถภายในปี 2026 นี้(อีก 2 ปี)
แรงบรรดาลใจในการตั้งชื่อยี่ห้อรถ Verne นั้นมาจากชื่อนักเขียนนิยายชาวฝรั่งเศสนามว่า Jules Verne ซึ่งจะเป็นนักเขียนนิยายแนววิทยาศาสตร์ เรื่องที่โดดเด่นของนักเขียนนิยายท่านนี้คือ
- Twenty Thousand Leagues Under the Sea (1870) : เป็นเรื่องเกี่ยวกับการผจญภัยใต้ท้องทะเลของกัปตันนีโม่ที่ใช้เรือดำน้ำเดินทางไปยังก้นลึกของท้องทะเลมหาสมุทร
- Journey to the Center of the Earth (1864) : การเดินทางของศาสตราจารย์ Lidenbrock กับลูกทีมของเค้าอีก 2 คนที่เดินทางไปยังแกนกลางของโลกแล้วพบว่าแกนกลางของโลกนั้นไม่ใช่แกนความร้อนแต่เป็นโลกดึกดำบรรพ์อีกโลกนึงที่มีไดโนเสาร์อาศัยอยู่
- Around the World in Eighty Days (1873) : การเดินทางรอบโลกภายใน 80 วันโดยคุณ Phileas Fogg พยายามเอาชนะเงินรางวัลเดิมพันว่าพวกเค้าจะพิสูจน์ว่าโลกนี้กลมไหมและสามารถเดินทางจบภายใน 80 วันให้ดู
Verne CEO คือหนึ่งในผู้สร้าง Rimac Nevera
คุณ Marko Pejković ซึ่งมาดำรงตำแหน่งเป็น CEO Verne (รถ robotaxi ไร้คนขับ) นั้นเคยเป็น 1 ใน 3 เสาหลักของ Rimac นะครับ หรือจะเรียกได้ว่าคุณMarko Pejković นั้นคือคนที่ทำให้ Rimac Nevera สามารถผลิตและขายออกไปได้ทั่วโลกครับ
อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถปฏิเสธเทคโนโลยี AI ในปัจจุบันได้เลยว่ามันกำลังจะเข้ามามีบทบาทกับเราทางด้านการเดินทางภายใน 2-3 ปีหลังจากนี้ ทาง Rimac Bugatti เล็งเห็นแล้วว่า ตลาดรถ Robotaxi จะเติบโตอย่างมาก พวกเค้าจึงส่งคุณ Marko Pejković มาสร้างบริษัทใหม่นามว่า Verne โดยเสาหลักของ Verne นั้นมีทั้งหมด 3 ต้นคือ
- การออกแบบรถให้มีรูปทรงโฉบเฉี่ยวแต่แผงไปด้วยความอเนกประสงค์ในการใช้งาน
2. Ride-hailing smartphone app หรือ การออกแบบ App มือถือให้สามารถใช้งานง่ายเหมือน App Ride-hailing (พวก Uber) เป็นต้นMothership
3. Mothership (ยานแม่) หรือจะเป็นฐานปฎิบัติการในการซ่อมบำรุงรถ Robotaxi รวมไปถึงกองบัญชาการที่จะส่ง software update ออกไปยังรถเหล่านี้ครับ
ร่วมมือกับ Mobileeye ในการออกแบบ
บริษัท Verne ได้จับมือกับ Mobileye ซึ่งเป็นบริษัทผลิต LiDAR อันดับต้นๆ ของโลกเพื่อมาช่วยออกแบบระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติภายในเมืองหลวง อย่างไรก็ตาม Mobileye ไม่ได้ออกมาบอกว่าจะสามารถทำรถให้ขับขี่ได้ถึง level อะไร แต่ที่แน่ๆ คือ บริษัท Verne ตั้งใจจะใช้ Sensor (เซนเซอร์รับรู้)ทั้งหมด 3 อย่างคือ กล้อง, เรดาร์, และไรดาร์ โดยรถทุกคันจะไม่มีพวงมาลัยมาและคันเร่งมาให้
ปล. Tesla HW 1.0 ที่เอามาใส่ใน Tesla Model S ปี 2012 นั้นก็ได้ Mobileeye มาช่วยออกแบบระบบขับขี่อัตโนมัติและ chipset ที่ใช้งานอีกด้วยครับ
Inside, riders will be greeted by a massive central screen controllable by a smaller tablet between two passengers. Legroom is massive, and the unique experience is accented further by a circular sunroof that the brand calls “the Halo ring.” Riders enter and exit through sliding doors.
ภายในนั้นจะมีจอขนาดใหญ่แนวนอนระหว่างที่นั่งสองคน สาเหตุที่เค้าออกแบบให้รถนั่งได้สองคนนั้นเพราะว่าสถิติของ Ride hailing ส่วนใหญ่นั้นจะเดินทางแค่ 1-2 คน ดังนั้นเค้าเลยออกแบบรถให้มีขนาดเล็กกระทัดรัดและมีที่นั่ง 2 คนแบบ business class ไปเลยครับ (ปรับเอนแบบนอนเกือบราบได้เลย)
ส่วนประตูนั้นใช้แบบสไลด์เอานะครับ ที่ออกแบบมาเพิ่มเติมก็คือหลังคารถที่ออกแบบเป็น Halo Ring คือเป็นวงกลมเหมือนแหวน
รถ Verne เตรียมเริ่มให้บริการณ เมือง Zagreb ประเทศโครเอเชียภายในปี 2026 และจะขยายการให้บริการไปยังประเทศเพื่อนบ้านเช่น เยอรมัน, อังกฤษและประเทศอื่นๆ อีก 11 ประเทศ(รวมไปถึงประเทศแถบตะวันออกกลางอีกด้วย)
โดยเป้าหมายของ Verne คือกระจายการให้บริการมากถึง 30 ประเทศทั่วโลก
cite : Roadandtrack
BLINK DRIVE TAKE
Robotaxi จะกลายเป็นเรื่องที่ทุกค่ายรถหันไปทำกันมากขึ้นในปี 2025 เป็นต้นไปนะครับเพราะเทคโนโลยี AI เรามาถึงจุดที่สามารถเปิดให้รถขับเคลื่อนอัตโนมัติได้แล้วครับ อย่าง Tesla นั้นก็กำลังจะเปิดตัว Robotaxi ภายในวันที่ 8 สิงหาคมนี้(อีก 2 เดือน) เราคงต้องมาจับตาดูกันว่าค่ายไหนจะสามารถปล่อยให้คนทั่วไปได้ใช้อย่างอิสระเหมือนการใช้งาน Grab หรือ Uber ได้ก่อนกันนะครับ
ณ ปัจจุบันนั้นก็มี Waymo, Cruise, และค่ายอื่นๆมาทำ robotaxi แต่มันจำกัดการใช้งานแค่เมืองไม่กี่เมืองในอเมริกาครับ ซึ่งไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริงๆของคนทั่วไปครับ