Site icon Blink Drive

บริษัท xAI คือบริษัทอะไร? และเป้าหมายของเค้าจะมาเปลี่ยนโลกยังไงบ้าง?

xAI ถูกก่อตั้งโดยอีลอน มัคส์ในเดือนกรกฎาคม 2023 โดยบริษัท xAI ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อสร้าง AI (Artificial Intelligence) ที่จะเข้ามาช่วยเหลือนักวิทยาศาสตร์ทำงานวิจัยและคิดค้นหาสิ่งประดิษฐ์ใหม่รวมไปถึงเข้าใจธรรมชาติและกฏของจักรวาลนี้

เป้าหมายสูงสุดของการ xAI คือการสร้าง AI ที่มีความซื่อตรงและเป็นประโยชน์แก่มนุษยชาติมากที่สุด พร้อมกับแก้ไขปัญหาโจทย์เลขยากๆต่างๆ ที่จะไขปริศนาแนวคิดต่างๆ ของนักวิทยาศาสตร์อีกด้วย โดย product (ผลผลิต)ของ xAI ชิ้นแรกนั้นก็คือ Grok AI หรือ AI ที่ทำหน้าที่ตอบคำถามได้แบบ ChatGPT ยังไงละครับ โดย Grok นั้นจะเป็นผู้เล่นตัวสำคัญสำหรับมนุษยชาติในการแก้ไขโจทย์ปัญหาต่างๆ ที่ยังไม่มีใครเคยแก้ไขกันมาครับอย่างไรก็ตาม concept นั้นเป็นเรื่องง่าย ใครก็พูดกันได้ แต่พอลงมือทำให้ได้ตามที่พูดเอาไว้นั้นยากมากๆ เพราะการจะสร้าง AI ให้ชาญฉลาดได้ขนาดที่สามารถมาช่วยมุนษย์แก้ไขที่ไม่เคยมีใครแก้ไขมาก่อนนั้นจะต้องใช้ GPU (การ์ดประมวลผล) AI จำนวนมหาศาลซึ่งนั่นก็เป็นที่มาของ​ (X.ai)​​ (Wikipedia)​​ (Engadget)​.

ภาพตัวอย่าง Grok 1.5 แก้ไขโจทย์ pythonจากถ่ายภาพเพียงรูปเดียว

AI Training Clusters คืออะไร?

AI Training Clusters ก็คือสถานที่ฝึก AI เปรียบเสมือนโรงเรียนฝึกสอน AI ให้ฉลาดขึ้นก่อนนำไปใช้งานครับ ณ ปัจจุบันนั้น xAI เตรียมโรงฝึก AI เอาไว้ขนาดใหญ่มากๆ โดยซื้อ GPU รหัส H100s มาทั้งหมด 100,000 ใบ(nvidia H100s ใบล่ะ 1 ล้านบาท($30,000 – 40,000) โดยมีทั้งหมด 100,000 ใบพร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำก็ตกประมาณ 100,000 ล้านบาทครับ($3,000 ล้านเหรียญ)(Tom’s Hardware)​​

nvidia H100s

แต่ยังไงก็ตามอีลอนบอกว่า H100s นั้นมันไม่จิ๊ดพอ เพราะเป็นรุ่นเก่าแล้ว(เพิ่งออกมาปี 2022 เองตกรุ่นซะแล้ว) ก็เลยกระโดดไป nvidia B200 เลยครับ อย่างไรก็ตาม nvidia B200 นั้นยังไม่ได้ประกาศราคาออกมาแต่เฮียอีลอนบอกว่า จะสั่งซื้อ B200 มาประมาณ 300,000 ใบ!! หรือประมาณ 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐหรือเทียบเท่าเงินไทยประมาณ 300,000 ล้านบาท(มากกว่านั้นแน่นอน)อันนี้คือการลงทุนที่มหาศาลมากครับ มากกว่ามูลค่า Gigafactory Texas ไปถึง 2,000 ล้านเหรียญหรือ 60,000 ล้านบาท(มูลค่าก่อสร้าง Gigafactory Texas อยู่ที่ $10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ)

รูปภาพ : nvidia Blackwell ที่จะนำมาใช้ใน B200

ส่วนสาเหตุที่อีลอนไม่ทุ่มสุดตัวไปกับ H100s เพราะเรื่องกำลังไฟที่จ่ายเข้าไปสำหรับ train AI (ฝึกฝน AI) มันไม่คุ้มกับผลลัพธ์ที่ได้มา เค้าเลยบอกว่า จะลอง B200 จาก nvidia รวดเดียวไปเลยเพื่อเอามาใช้งานกับ CX8 network

CX8 network คือ เทคโนโลยีระบบที่ส่งข้อมูลด้วยความเร็วสุงโดยมี latency[การวัดความล่าช้า (Delay) ระหว่างสองจุด ] ที่ต่ำซึ่งยิ่งต่ำยิ่งแสดงว่าข้อมูลเข้าใกล้ real time มากขึ้นเรื่อยๆครับ และมี bandwidth ที่ใหญ่มากๆ ซึ่งถึง bandwidth ยิ่งใหญ่ก็เหมือนถนนยิ่งกว้าง การสัญจรของข้อมูลก็สามารถทำได้เยอะนะครับ

xAI จะจับมือกับ AWS (Amazon), Google Cloud และ Oracle Cloud ในการพัฒนา AI ร่วมกันนะครับ(Engadget)​พร้อมปล่อย AI ที่ train จาก B200 ภายใน Summer หน้าหรือประมาณเดือนกรกฎาคมปีหน้าครับ

BLINK DRIVE TAKE

อีลอนคงมองว่าเทรนของ AI นั้นมาแรงมากๆ ใน 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ ถ้าไม่จับ AI ขึ้นมาล่ะก็มีหวังอาจจะตกรถไฟขบวนนี้ก็ได้นะครับ แต่การลงทุนมหาศาลแบบบ้าคลั่งนี้ เท่ากับว่าเค้าเดิมพันอนาคตของวิสัยทัศน์เค้าแล้วว่า AI คืออนาคตที่มนุษย์จะเข้าถึงได้นะครับ

ในความคิดของผมนั้น ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 70 ปีที่แล้ว ใครถือครองอาวุธร้ายแรงเอาไว้มากที่สุดในโลกก็คือประเทศมหาอำนาจครับ แต่ในยุค 2025 เป็นต้นไปนั้น มันไม่ใช่แค่เรื่องอาวุธร้ายแรงแล้วครับ มันเป็นเรื่องของปัญญา, ความฉลาด, และการที่เข้าถึงคำตอบก่อน นั่นแหละครับจะทำให้ประเทศนั้น ไม่สิบริษัทนั้นกลายเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในโลกครับ

ความหยั่งรู้(wisdom)คืออาวุธที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกครับ ถ้าปราศจากความหยั่งรู้หรือการรู้แบบถ่องแท้แล้ว ไม่ว่าจะจับอาวุธอะไรขึ้นมาก็รบแพ้เค้าหมดครับ ดังนั้นการจะเข้าถึงความรู้นั้นได้คือชัยชนะของคนๆ นั้นครับ

เราคงต้องมาจับตากันว่าในปี 2025 นั้นจะมีผู้เล่นรายไหนกันบ้างที่สามารถเข้าถึงปัญญาระดับสูงเหล่านั้นก็ได้บ้างนะครับ ปัญญาเหล่านั้นคงจะเป็นปัญญาที่มนุษย์แบบเราๆใช้เวลาแก้ไขหรือหาคำตอบเป็นระยะเวลา 100 ปีกว่าจะได้มันมาแหละครับ

ยกตัวอย่างง่ายๆ นะครับ โจทย์โปรแกรมต่างๆ ที่อยู่ในหลักสูตรตามมหาลัยนั้น แต่ก่อน(ก่อนที่จะมี ChatGPT)มานั้นนักเรียนต่างใช้เวลา 1-3 อาทิตย์ในการแก้ไขปัญหาไม่ว่าจะเข้าห้องสมุดเพื่อค้นคว้าความรู้, เข้า reddit, เข้า stackoverflow หรือ github เพื่อหาคำตอบ แต่พอ ChatGPT เข้ามาเท่านั้นแหละ ใช้เวลา 5 นาทีก็ได้ code มาส่งการบ้านแล้วครับ นี่ยังไม่นับวิชาสังคมศาสตร์, อักษรศาสตร์, หรือวิชาอื่นๆ ที่อาจารย์กำลังปวดหัวกับลูกศิษย์ที่เอา ChatGPT มาทำการบ้านแทนนะครับ

ดังนั้น ผมมองว่า AI ไม่ได้มาแทนที่มนุษย์ในอนาคตอย่างแน่นอนครับ แต่คนที่ใช้ AI ต่างหากที่จะมาแทนที่งานคนที่ใช้ AI ไม่เป็นครับ

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

Exit mobile version