Blink Blink
TeslaUSA

อีลอนบอกว่า ไม่ใช้ LiDAR มาสร้าง GroundTruth ให้รถ Tesla อีกแล้ว, แล้วสั่งซื้อมาเพิ่มทำไม?

บริษัทผลิต LiDAR ชื่อว่า Luminar Technologies ได้ออกมาบอกผู้ถือหุ้นทุกคนว่า Tesla เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของบริษัทในไตรมาสแรกของปี 2024 โดยได้สั่งซื้อ LiDAR ไปประมาณ 10 % ของรายได้บริษัท โดยบริษัทนั้นมีรายได้เข้ามาที่ 21 ล้านเหรียญสหรัฐ(770 ล้านบาท) ส่วน Tesla นั้นมียอดสั่งซื้อเข้ามาที่ 2.1 ล้านเหรียญสหรัฐ(77 ล้านบาท)

โดยมีการคาดการณ์ราคาตัว LiDAR ของบริษัท Luminar Technologies นั้นอยู่ที่ $500 – $1,000 หรือ 18,300 – 36,600 บาทต่อชิ้น เรียกได้ว่า Tesla เหมาไปประมาณ 2,100 ชิ้นในไตรมาสนี้

Tesla ใช้ LiDAR สร้าง Ground Truth ให้กับรถ

อย่างที่ทราบกันมานานแล้วว่า Tesla เอา LiDAR มาใส่รถ Tesla ที่เป็น Pre-production (ก่อนส่งมอบ)ทุกคันเพื่อทำการสร้าง Ground Truth ให้กับรถ(มีคำอธิบายด้านล่าง)และทำการ calibrate (ตั้งค่า)กล้องรอบคันให้กะระยะได้อย่างแม่นยำมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็น Tesla Model S, Tesla Model X, Tesla Model 3, Tesla Model Y, Tesla Semi, และ Tesla Cybertruck นะครับ

Ground Truth คืออะไร?

เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เป้าหมายของการพัฒนา AI บน Deep Learning นั้นคือการทำให้มันสามารถเก่งได้และเข้าใจปัญหาได้อย่างที่เราอยากให้มันเป็นครับ เช่น ถ้าอยากให้ AI มองภาพแล้วทายว่าภาพนี้คือสุนัขหรือแมวนั้นก็ต้องมี Ground Truth (คำเฉลย)เตรียมเอาไว้เพื่อใช้มันเป็นคำเฉลยตอน AI สอบเสร็จนะครับ การสอบนั้นพูดกันภาษาบ้านๆคือการให้ AI นั้นรับภาพมาจากกล้องหรือจาก input source อื่นๆก็ได้จากนั้นก็ใช้ Neural Network (โครงข่ายประสาทเทียม)ในการคาดเดาว่าคำตอบควรจะออกมาแบบไหน ในการทดสอบนั้นจะมีการให้คะแนนอยู่เป็นระยะๆ เพื่อให้ AI รู้ผิดชอบชั่วดี(หรือรู้ว่าอันไหนตอบแล้วได้คะแนน อันไหนตอบได้แล้วผิด : Reinforcement Learning) และมีการทำการ update ชุดความรู้ที่สอบเสร็จแล้วเพื่อให้ AI มีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาหรือเข้าใจปัญหามากยิ่งขึ้นเพื่อให้ได้คำตอบที่ถูกต้องในการทดสอบในครั้งถัดไปหรือเรียกว่า Backpropagation)

Ground Truth แปลเป็นไทยตรงๆ คือคำเฉลยนะครับ โดย AI นั้นจะแบ่งออกมาเป็น 2 พวกหลักๆ คือพวกที่มีหน้าที่หาคำตอบ กับอีกคนคือ testing หรือคนที่รู้คำตอบ(มี ground truth อยู่ในมือ)อยู่แล้วและเตรียมให้คะแนนครับ

โดยการ train AI นั้นจะแบ่งออกเป็นอัตราส่วนง่ายๆ คือ 80 % training(ฝึกให้ AI พยายามเรียนรู้การแก้ไขปัญหา) , 10 % validation (ตรวจและเปรียบเทียบกันว่า Model ที่ train มานั้นอันไหนดีที่สุด) และ 10 % testing (Final exam หรือสอบปลายภาค, บอกคะแนนจริงๆที่ AI จะได้รับ) จริงๆ มันเลือกที่จะแบ่งอัตราส่วนแตกต่างจากนี้ได้ แต่อันนี้คือหนึ่งในมาตราฐานการแบ่งการ training AI นะครับ

โดย Ground Truth จะอยู่ช่อง Test เหมือนอาจารย์ที่มีเฉลยข้อสอบอยู่แล้วและเตรียมทดสอบความรู้นักเรียน (Trained AI) ครับ

คราวนี้พอจะเห็นภาพแล้วใช่ไหมครับว่า LiDAR คือ GroundTruth และกล้องคือ AI ที่มาฝึกยังไงละครับ ดังนั้นแล้วจะมีการ Calibrate ทั้งแบบ Backpropagation และ Reinforcement Learning เพื่อทำให้ตัว AI มีค่า parameter ในการตรวจจับวัตถุรอบคันและกะระยะวัตถุรอบคันครับ

LiDAR จึงกลายเป็นอาจารย์ใหญ่ของ Tesla ทุกคันมาตั้งแต่ปี 2015 ครับ

LiDAR เอาไว้ทำอะไร?

พวกเราต้องเข้าใจพื้นฐานของ LiDAR ก่อนว่ามันคืออะไร LiDAR คืออุปกรณ์ที่ยิงแสง Laser (เลเซอร์)ออกไปกระทบวัตถุและกระเด้งกลับมาที่ sensor รับแสงจากนั้นก็จะบอกระยะวัตถุจาก time (เวลา)ที่เอามาจากการ sending(ยิงแสง) – receiving(รับแสง) นะครับ ส่วนสาเหตุสำคัญที่ LiDAR นั้นเป็นพระเอกของวงการกะระยะทุกๆอย่างไม่ว่าจะเป็นวงการตีกอล์ฟ, ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติหรือวงการอวกาศเพราะว่าความแม่นยำนี่แหละครับ

LiDAR นั้นมีความแม่นยำระดับ mm(มิลลิเมตร) หรือ cm(เซนติเมตร)แล้วแต่รุ่นและระยะในการใช้งานครับ ถ้าระยะใกล้ก็ mm ส่วนระยะ 200 เมตรแบบที่รถขับเคลื่อนอัตโนมัติใช้งานกันก็ cm ครับ ส่วนกล้องนั้นความแม่นยำนั้นระดับ m (เมตร) ซึ่งห่างกันเป็น 10-100 เท่า แต่เอาจริงๆแล้ว ถ้า Training ดีๆ error rate มันจะ drop มาใกล้ๆ LiDAR แต่ไม่มีทางที่กล้องจะทำงานได้ดีกว่า LiDAR (ยกเว้นตอนฝนตกหรือหมอกลง)ครับ ดังนั้นแล้วยังคงทิ้งเป็นปริศนากันว่าอีลอนจะซื้อมาทำไม ในเมื่อบอกว่าจะไม่เอามาใช้สร้าง Ground Truth ให้กับรถแล้ว

อีลอนประกาศเลิกใช้ LiDAR สร้าง Ground Truth

มาเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้นอีลอนบอกว่า ไม่ได้ซื้อ LiDAR มาทำ Ground Truth รถและไม่ได้ซื้อมาติดตั้งในรถซักคันครับ อ้าวแบบนี้จะซื้อมาทำเพื่ออะไรกันน้า?

ชาว Internet บางคนก็บอกว่าน่าจะเอามาใช้งานในโรงงานเพราะความแม่นยำระดับ mm นั้นมันต้องเอามาใช้งานกับหุ่นยนต์ Optimus ในที่กำลังเตรียมตัวไปทำงานในโรงงานครับ รวมไปถึงบาง station ที่ต้องใช้ความแม่นยำสูงกว่ากล้องจะสามารถทำได้

BLINK DRIVE TAKE

ก็ยังไม่มีข้อมูลที่สามารถสรุปได้สำหรับเรื่องนี้นะครับว่าอีลอนซื้อ LiDAR มา 2,100 ตัวเพื่ออะไร แต่ที่สงสัยอีกอย่างคือ บริษัท Luminar Technologies ได้ยอดขายของ Tesla ไป 770 ล้านบาทภายใน 3 เดือนก็กลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดแล้ว ทำให้ฝรั่งหลายคนสงสัยว่านี่คือ size บริษัท startup หรือระดับเกือบ unicorn หรือป่าวนะครับ

สิ่งที่เรามั่นใจคือ Tesla ไม่ได้ซื้อไปใช้งานกับรถ(ไม่ใช่ทั้งซื้อมาใส่รถรุ่นใหม่และใส่รถ Pre-production car)เพราะอีลอนออกมาตอบแล้วนะครับ ส่วนสาเหตุนั้นก็ต้องมารอดูประกาศ earning call กลางปีนี้ครับว่าจะแถลงไหมว่าซื้อไปทำอะไร ฮ่าๆ

เฮียแกนี่เดาใจยากจริงๆครับ

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

Follow by Email