สวัสดีครับ วันนี้ผมจะเอาข้อมูลภายในส่วนลึกของ Tesla Cybertruck มาพูดคุยกันนะครับ นั่นก็คือระบบ Radar (เรดาร์)ภายในรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Cybertruck พร้อมกับ Sensor (ตัวตรวจจับ)การนั่งบนเบาะแต่ละเบาะมาพูดคุยกันครับว่ามันเพิ่มความปลอดภัยในห้องโดยสารยังไงบ้าง?
อนาคตรถจะไม่ต้องมีเข็มขัดนิรภัยอีกต่อไป
อันนี้คือคำพูดของอีลอนที่ podcast Joe Rogan หมายเลขที่ 1609 ณ ปี 2021 เอาไว้นะครับ อีลอนเคยพูดเอาไว้ว่า
ถ้ารถมี advanced airbag (ถุงลมนิรภัยอัจฉริยะ)จริงๆละก็ พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องคาดเข็มขัดนิรภัยอีกต่อไปก็ได้
อีลอน มัคส์
อีลอนยังพูดต่อไปว่า concept ที่เราวางแผนจะสร้างรถแบบนั้นคือ จะมี sensor ใต้เบาะของทุกเบาะว่าแต่ละคนน้ำหนักเท่าไหร่และใช้ sensor อื่นๆ ในรถเพื่อกะระยะส่วนสูงของแต่ละคนที่มานั่งในรถจากนั้นก็ทำการระบุข้อมูลลงไปในการขับขี่ทุกครั้งเพื่อปรับเปลี่ยนข้อมูลให้ตรงกับรูปประพันธ์สันฐานของคนที่มานั่งที่เบาะนั้น จากนั้นก็ใช้ AI ในการวางแผนในการ deploy airbag (ปล่อยถุงลมนิรภัย) ตามขนาดลำตัวของคนที่มานั่งตรงเบาะๆ นั้น โดยจำลองการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ เพื่อให้ถุงลมนิรภัยเหล่านั้นรู้ว่าจะต้องปล่อยออกมามากน้อยเพียงใดให้เท่ากับลำตัวคนที่นั่งตรงเบาะนั้น
ยกตัวอย่างง่ายๆคือ
- AI จะต้องตั้งคำถามก่อนว่า : คนที่มานั่งเป็นผู้ใหญ่, วัยรุ่น, ผู้หญิงตั้งครรภ์, เด็กน้อยหรือเด็กทารก
- วิธีการก็ไม่ยากอะไรโดยการใช้กล้องภายในห้องโดยสารกะระยะและรูปร่างของคนนั่ง
- พร้อมกับใช้เบาะรถในการชั่งน้ำหนักของคนนั่ง(pressure of the seat)
จากนั้นตัวรถก็จะคำนวณน้ำหนักหรือปริมาณของลมในถุงลมให้เหมาะสมเพียงพอกับคนๆนั้น ซึ่งที่ผ่านมานั้นเราจะเห็นได้ว่าไม่ว่าใครนั่งเบาะไหนก็ตาม ตัว airbag มันจะทำงานเท่ากันตลอด ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ถุงลมนิรภัย(airbag) จะทำงานเหมือนกันเป๊ะคือปล่อยลมเท่ากันเป๊ะ ผลที่ตามมาคือ ถ้าคนอ้วนหรือตัวใหญ่มานั่งก็จะโดนถุงลมกระแทกใส่ ส่วนเด็กมานั่งก็จะไม่ได้สัมผัสกับถุงลมเท่าที่ควรครับ
อีลอนเลยวางแผนจะใช้ sensor ต่างๆ ในรถมาวัดขนาดลำตัวของคนแต่ละเบาะ รวมไปถึงเบาะที่ไม่มีคนนั่งก็จะไม่มี airbag ทำงานเพื่อลดการระเบิดของถุงลมโดยไม่จำเป็นและลดอันตรายที่เกิดจากการระเบิดของถุงลมนิรภัยด้วยครับ
เรายังไม่มีข้อมูลเรื่องการปลดปล่อยถุงลมนิรภัยของ Tesla Cybertruck นะครับ แต่เท่าที่ทราบจากสิ่งที่อีลอนพูดคือ hardware มันพร้อมอยู่แล้ว เหลือแค่เขียน software ให้รถสามารถตั้งค่าต่างๆ ได้เพื่อรองรับอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นครับ
ส่วนอีกเรื่องนึงเกี่ยยวกับเรดาร์ตัวนี้คือ มันจะมาตรวจจับเด็กภายในรถ ในอเมริกานั้นมีเคสเด็กเล็กตายในรถบ่อยๆ เพราะพ่อและแม่ลืมลูกและถูกทิ้งเอาไว้ในรถ(ร้อนจนทนไม่ไหวและตายไปครับ) ดังนั้น Tesla interior Radar ตัวนี้จะมาตรวจจับสิ่งมีชีวิตบนรถและแจ้งเตือนไปยังเจ้าของรถเพื่อให้ตรวจเชครถของเค้าอีกทีนะครับ
BLINK DRIVE TAKE
ผมมองว่าเทคโนโลยีตัวนี้น่าจะเป็นสิ่งที่รถ EV ในอนาคตทุกค่ายควรมีนะครับ เพราะเราไม่รู้จริงๆ ว่าพวกเราลืมสัตว์เลี้ยงหรือลูกเอาไว้ในรถแล้วลืมเปิดแอร์หรือป่าวนะครับ ส่วนเรื่อง Airbag นั้นถ้ามี software update เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อไหร่ หรือมีอุบัติเหตุของ Tesla Cybertruck แล้วมีการทำงานแบบที่อีลอนพูดเอาไว้เมื่อไหร่ ผมจะทำโพสให้อ่านนะครับ