Site icon Blink Drive

รีวิวประสบการณ์ซ่อมตัวถัง Tesla อู่นอก(ประกันไม่ขาด)

สวัสดีครับ วันนี้ผมมีเคสรีวิวการซ่อมตัวถัง Tesla Model 3 จาก Tesla Thailand Official มาเล่าให้ฟังกันนะครับ เคสนี้คือ เจ้าของเกิดอุบัติเหตุที่ต่างจังหวัดและบ้านก็อยู่ต่างจังหวัด(พิษณุโลก)พอเกิดอุบัติเหตุก็มีการประสานงานระหว่าง Tesla Body shop และอู่นอก(อู่รถเบ็นซ์)ว่า จะสามารถซ่อมเคสนี้ที่อู่นอกได้ไหมครับ

อันนี้น่าจะเป็น Official Case แรกๆ ของ Tesla เลยที่มีการพูดคุยกับ Tesla Thailand ก่อนที่จะซ่อมตัวถังนะครับ

ส่วนคุณนุชแจ้งสาเหตุของแผลนี้ว่า “รถบุบและสีครูดกับรั้วบ้านที่บ้านต่างจังหวัดทางเหนือ (ติดกับพิษณุโลก) ในช่วงที่ขับรถกลับบ้านค่ะ”

ประกันใช้เวลาอนุมัติ 3 สัปดาห์

เริ่มต้นที่การเคลมประกันครับ คุณนุชได้ทำการติดต่อประกันรถไปเป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์เพื่อทำเรื่องเคลม คุณนุชบอกว่า ไม่ค่อยประทับใจเรื่องการบริการประกันบริษัทนี้เท่าไหร่ แถมเป็นประกันเพียงไม่กี่บริษัทที่ทำ partner กับ Tesla นะครับ ค่าประกันปีล่ะ 66,000 บาท (ใช่ครับ ราคารถไม่ถึง 2 ล้านบาท,​ประกันรถ 66,000 บาทต่อปี อันนี้ผมอยากให้ สคบ. เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดเหมือนกันนะครับ อยากรู้สาเหตุที่ประกันแพงเหมือนกันครับว่า มันแพงที่ตัวอะไหล่รถหรือแพงที่อะไรกันแน่ครับ รถราคาถูกกว่า Benz แต่ค่าประกันจะชน Porsche Macan อยู่แล้วครับ)

ซ่อมที่อื่นประกันขาดทันที!!

อ้างอิงข้อมูลจาก MMS Bosch Car Service ในไทยนั้นได้แจ้งเอาไว้ว่า

MMS Bosch Car Service ได้รับสิทธิ์ในการเป็นตัวแทนการให้บริการหลังการขายอย่างเป็นทางการ ด้านซ่อมสีและตัวถัง (Body&Paint) ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% แบรนด์ Tesla ในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ TESLA Approved Body Shop

 ประกันที่สามารถเข้าซ่อมที่ศูนย์ MMS ที่ได้รับการรับรองจาก Tesla มี 2 บริษัท คือ 

  • ไทยวิวัฒน์ 
  • Sunday

ผู้ใช้งานนำรถยนต์ไปซ่อมกับอู่แห่งอื่น ที่ไม่ใช่ศูนย์บริการที่ได้รับการรับรองจาก Tesla เมื่อมีการเปลี่ยนหรือซ่อมชิ้นส่วนไหน ประกันของชิ้นส่วนนั้น ๆ จะขาดทันที

Credit : MMS

อันนี้เป็นเรื่องหนักใจชาวเทสล่าในไทยอย่างมาก เพราะเงื่อนไขตรงนี้เขียนเอาไว้ 100% ว่า ถ้าไปซ่อมศูนย์บริการอื่นประกันขาดทันที และศูนย์บริการที่ได้รับการรองรับจาก Tesla ในไทยนั้นมี 1 ศูนย์ฯ​ถ้วนคือ MMS ทำให้คนไทยหลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยในการบริการหลังการขายของเทสล่าที่ทำตลาดมา 1 ปีแล้วว่าจะดูแลชาวเทสล่ามากกว่า 8,000 คันในไทยอย่างไรต่อไปจากนี้ครับ แต่คุณนุชก็ได้เขียนบอกว่า การซ่อมตัวถังอู่นอกนั้นทำได้ แต่ต้องสื่อสารกับช่างอู่นอกให้เข้าใจเกี่ยวกับการซ่อมเพื่อป้องกันไม่ให้รถหลุดประกัน

เนื่องด้วยรถเทสลามีประกันตัวรถที่ติดมาด้วยตั้งแต่ออกรถ การซ่อมรถเทสลาใดๆ ต้องระวังการหลุดประกัน โดยเฉพาะการดำเนินการใดๆ ที่มีการดัดแปลงหรือการทำให้ระบบไฟฟ้าของรถเสียหาย >> ดังนั้น การจะเคลมและให้อู่นอก (อู่คู่สัญญาประกันภัยชั้น 1) ซ่อม จึงต้องติดต่อกับเทสลา เพื่อให้สื่อสารกับช่างอู่นอกให้เข้าใจเกี่ยวกับการซ่อม เพื่อป้องกันไม่ให้รถหลุดประกัน

คุณนุช

เคสนี้เป็นเคสที่น่าศึกษาอย่างมากครับเพราะเจ้าของรถประสบอุบัติเหตุที่พิษณุโลกและต้องการซ่อมรถของเค้าที่แถบภาคเหนือซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย พอจะเอาเข้ามากทม. เค้าก็บอกว่า เอารถเข้ามาได้แต่ต้องมาจอดต่อคิวที่ศูนย์ฯ เพื่อรอซ่อมซึ่งศูนย์ฯ ก็ไม่ได้บอกระยะเวลาในการรอซ่อมที่แน่นอน ทำให้เค้าไม่กล้าเอารถเข้าไปซ่อมที่ศูนย์ฯ นะครับ

พอจะติดต่อไปก็ปรากฏว่า ….

การติดต่อกับทีมงานเทสลา ใช้เวลา 1 ชม.

คุณนุชบอกว่า “ติดต่อยากมากกกกก” แต่ก็ต้องรับความเสี่ยงนี้ไว้เอง เนื่องจากตอนซื้อเทสลา ก็ทำใจเรื่องนี้เอาไว้และเลือกซื้อเพราะความเสถียรและสมรรถนะของรถที่คุ้มกับราคา แต่การมีศูนย์บริการเทสลาเพียงแห่งเดียวในประเทศ เมื่อเกิดเหตุที่ไม่ได้ตั้งใจ มันก็จะไม่สามารถเข้าถึงส่วนกลางได้ง่ายนัก

โชคดีที่ว่า ระหว่างรอซ่อม ทางทีมเทสลาติดต่อมาเอง เพื่อขอคำแนะนำในการปรับปรุงบริการ เลยแจ้งไปตามความจริง ซึ่งทีมงานก็เห็นด้วยกับการปรับปรุงการบริการต่างๆ ทั้งการซ่อมตัวถัง การติดต่อประสานงาน หวังมากๆ เลยว่า จะได้เห็นการปรับแผนของบริษัทด้านบริการลูกค้าให้ดีขึ้น

ได้รับอนุญาติให้ซ่อมตัวถังได้จาก Tesla

เมื่อคุณนุชได้คุยกับทีมงานเทสลาแล้ว และได้มีการชี้แจงว่า การซ่อมตัวถังรถที่ไม่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าของรถ เทสล่าจึงอนุมัติให้ทำได้ โดยไม่ต้องเข้าศูนย์เทสลาที่กรุงเทพ คุณนุชจึงตัดสินใจซ่อมกับอู่นอก (อู่คู่สัญญาประกัน LMG) ซึ่งเป็นศูนย์เบนซ์พิษณุโลกนามทอง(โฆษณาให้เลยเพราะซ่อมดีมากๆ)ในพิษณุโลก ปกติเค้าก็ซ่อมรถเบนซ์ได้นะ แต่ตอนนี้เริ่มมีรถไฟฟ้าค่ายต่างๆ มาซ่อมบ้าง สำหรับเทสลา รถของคุณนุชเป็นคันแรกของอู่นี้เลยครับ

สาเหตุที่เลือกซ่อมที่อู่นี้เพราะประกัน LMG เป็นคู่สัญญาเอาไว้และเป็นศูนย์/โชว์รูมรถเบนซ์ในจังหวัดพิษณุโลกที่มีงานซ่อมรถเบนซ์จึงวางใจใช้บริการอู่นี้ครับ

ซ่อมเสร็จภายใน 12 วัน,​งานดีมาก

ผลการซ่อมตัวถัง ใช้เวลา 12 วัน (สีขาวมุก จะใช้เวลาให้สีแห้งนานหน่อย เนื่องจากต้องเทสีหลายชั้น ช่างแจ้งมาแบบนี้) คุณนุชบอกเพิ่มเติมว่า อู่นี้ทำงานดีมาก ๆ ดูไม่ออกว่าเคยบุบหรือสีถูกครูดมาก่อนเลย

ค่าประกันแพงไปนิดส์

คุณนุชแซวเล่นๆ ว่า ช่วงนี้ผอมไม่ใช่เพราะออกกำลังกายหนักแต่เพราะเงิน(กินข้าว)หมดไปกับค่าประกันรถ Tesla Model 3 คันนี้)ซึ่งเอาจริงๆ ตอนนี้ราคาขายมือหนึ่ง Tesla Model 3 SR+ คันนี้ราคาเพียง 1.6 ล้านบาท แต่ราคาประกันที่คุณนุชจ่ายไปนั้นคือ 66,000 บาทต่อปีหรือเทียบเท่า 4% ของราคารถที่ซื้อมาเลยนะครับ

BLINK DRIVE TAKE

โพสนี้จะเป็นครูให้กับคนที่ใช้ Tesla และเพิ่งประสบอุบัติมา แต่บ้านอยู่ต่างจังหวัดแบบคุณนุชได้ศึกษาการเคลมและการติดต่อประกันให้เคสมันจบเอานะครับ ใครที่ประสบอุบัติเหตุเคสใกล้เคียงกับคุณนุชก็สามารถติดต่อ Tesla Thailand เพื่อให้เค้าประเมินเคสแบบนี้ได้และถ้าสามารถซ่อมอู่นอกได้โดยไม่กระทบประกันตัวรถแบบนี้ก็เป็นทางออกที่ดีเลยครับเพราะทุกวันนี้งาน MMS ล้นมือแล้วจริงๆ ถ้าผมไม่สามารถโพสหาทางออกกับลูกค้า Tesla แบบนี้ สุดท้ายชื่อเสียง Tesla Thailand ก็จะร่วงลงไปเรื่อยๆ ครับ

หมายเหตุ : MMS ไม่ใช่บริษัท Tesla มาประกอบการนะครับ การซ่อมหรือการดูแลนั้นจะไม่เหมือนคุณได้รับจาก Tesla Service เพราะบริษัท MMS เป็น Third-party (บริษัทนอก)ที่ได้รับสัมปทานมาเปิดร้านซ่อมตัวถังให้กับ Tesla Thailand ครับ

ในอนาคตนั้น Tesla Thailand พยายามมองหา Partner อื่น เพื่อแบ่งเบาภาระของ MMS ครับ

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

Exit mobile version