Blink Blink
TeslaUSA

Tesla Model 3 Highland อาจจะมีกล้องตรงกันชนหน้าเหมือน Tesla Cybertruck

โพสนี้ผมขออัพเดทข้อมูล HW 4.0 จากฝั่งอเมริกาภายในเดือนสิงหาคม 2566 ไปกันเลยนะครับ

  • Tesla Model S/X HW 4.0 จะมาพร้อมเรดาร์ HD ส่วน Tesla Model 3/Y นั้นไม่มีมาให้
  • Tesla HW 4.0 ใน Model3/Y จะมีสเปคที่ต่ำกว่า Tesla Model S/X
  • Tesla Model 3 Project Highland ตัวทดสอบมีกล้องตรงกันชนหน้ารถเหมือน Tesla Cybertruck
  • Tesla Model 3 Highland จะใช้สายไฟน้อยกว่า Model 3 ตัวปัจจุบันซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะมีราคาขายที่ถูกลงในอเมริกา
  • Tesla Model 3/Y HW 4.0 จะมาพร้อม GPS Triband
  • Tesla HW 3.0 ไม่สามารถ upgrade เป็น HW 4.0 ได้

ผมขออธิบายพร้อม updateข้อมูล HW 4.0 ล่าสุดในเดือนสิงหาคมให้ทุกท่านได้อ่านกันก่อนนะครับ

HW 4.0 ใน Model Y โดนลดสเปค RAM และ NVme

เริ่มจาก RAM ก่อนซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ใครหลายคนสนใจกันเพราะ Tesla Model S และ Tesla Model X Refresh ที่มาพร้อมกับ HW 4.0 นั้นมี RAM ติดรถมา 16 GBs ทำให้มีหลายคนตั้งความหวังว่า Model Y HW 4.0 จะได้ RAM เท่ากันกับ Tesla Model S และ Tesla Model X นั้นก็ผิดหวังไปตามๆ กันครับ

โดย Tesla Model Y รุ่นใหม่นั้นถูกหั่น RAM จากเดิมใน HW 3.0 ที่มี 16 GBs เหลือเพียง 8 GBs เท่านั้นครับ ไม่เพียงเท่านั้นยังโดนลดหน่วยความจำภายในรถที่เป็น NVme จากเดิมใน HW 3.0 คือ 256 GBs เหลือเพียง 128 GBs ใน HW 4.0 ครับ

แต่ที่แปลกใจไปกว่านั้นคือ คนที่เพิ่งรับรถไปบอกว่า HW 4.0 นั้นทำงานได้ลื่นไหลกว่า HW 3.0 ซะงั้น ทั้งๆที่ใช้ CPU AMD เหมือนกันเป๊ะ แต่โดนลดสเปค RAM และหน่วยความจำ

อีลอนบอกว่า HW 3.0 ไม่ได้สามารถอัพเกรดเป็น HW 4.0 ได้

เนื่องจากมีคนถามเข้ามากันเยอะเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยังไงผมขออธิบายยาวนิดนึงนะครับ เริ่มต้นจากคำพูดของอีลอนก่อนเลยล่ะกัน

“The cost and difficulty of retrofitting Hardware 3 with Hardware 4 is quite significant. So it would not be, I think, economically feasible to do so. – insideevs

ค่าใช้จ่ายในการทำ retrofit (เอา HW 3.0 ออกแล้ว HW 4.0 มาใส่)นั้นมีราคาแพงมาก ทำให้ผมคิดว่า มันไม่สามารถทำได้ใน economic scale (ในราคาที่ย่อมเยา) หรือแปลเป็นไทยอีกรอบว่า ทำไม่ได้เพราะมีค่าใช้จ่ายที่แพงมาก

อีลอนมัคส์

เนื่องจาก HW 4.0 นั้นใช้กล้อง 5 ล้านพิกเซล(จากเดิมคือ 1.2 ล้านพิกเซล) ถ้าคิดกันเล่นๆ คือ กล้องบางตัวในรถจะมาพร้อมกับ Heatsink และพัดลม ดังนั้นถ้าจะเปลี่ยน HW 3.0 เป็น HW 4.0 นั้นมันไม่ง่ายเหมือนตอนเปลี่ยน HW 2.5 เป็น HW 3.0 ครับ ตอนนั้น Tesla รับเปลี่ยนโดยมีเงื่อนไขว่าคนที่อยากเปลี่ยนต้องมี FSD Beta Software และต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกประมาณ

ความปลอดภัยของ HW 3.0 Vs 4.0

“Hardware 3 will not be as good as Hardware 4, but I’m confident that Hardware 3 will so far exceed the safety of the average human. So how do we get ultimately to – let’s say, for argument’s sake, if Hardware 3 can be, say, 200% or 300% safer than humans, Hardware 4 might be 500% or 600%. It will be Hardware 5 beyond that. But what really matters is are we improving the average safety on the road.”

HW3 นั้นไม่ได้ดีเท่า HW4 ก็จริง แต่ถ้าเทียบกันกับเรื่องความปลอดภัยแล้ว HW3 สามารถเพิ่มความปลอดภัยให้กับคนขับได้มากถึง 2-3 เท่า ส่วน HW 4 นั้น 5-6 เท่า, ดังนั้น HW5 ก็จะมีความปลอดภัยมากกว่าเดิมอยู่แล้ว

อีลอน

Tesla Model 3 Highland อาจจะมาพร้อมกล้องตรงกันชนหน้ารถเหมือน Tesla Cybertruck

ถ้าดูจากภาพถ่ายด้านล่างนี้แล้วเราจะเห็นว่ามีกล้องยื่นออกมาจากกันชนหน้ารถซึ่งตำแหน่งนั้นไม่เคยมีการติดตั้งกล้องมาก่อนนะครับ

ส่วนภาพด้านล่างนี้คือกล้องหน้ารถของ Tesla Cybertruck ครับ จะเห็นได้ว่าตั้งอยู่ตำแหน่งเดียวกันกับ Tesla Model 3 Highland เลยครับ

Tesla Model 3/Y HW 4.0 จะมาพร้อม GPS Triband

ภาพด้านล่างนี้คือภาพภายในกล้องหน้า HW 4.0 ของ Tesla Model 3 ฝั่งอเมริกาครับ

แตกต่างจากของเดิมไปเยอะเลยครับ

1. มี GPS tri-band เพิ่มมาให้
2. กล้องลดลงจาก 3 ตัวหรือ 2 ตัว
3. กล้องเปลี่ยนจาก 1.2 ล้าน –> 5 ล้านพิกเซล
4. มีพัดลมระบายความร้อนติดตั้งเพิ่มขึ้นมา

ยังไงผมเอาภาพ กล้องหน้ารถของเดิมมาเปรียบเทียบให้ดูด้านล่างนี้ครับ

FSD Software HW 3.0 ไม่ได้ไปต่อกับ FSD HW 4.0

ตอนนี้ผู้ใช้งาน Tesla Model X แจ้งมาว่า รถของเค้าไม่สามารถใช้งาน Auto-pilot ได้เลยเพราะกล้องรุ่นใหม่ไม่สามารถทำงานกับ software TeslaAP (Autopilot) V3 หรือรุ่นปัจจุบัน และตอนนี้เหมือนกับว่า Tesla เพิ่งทำการ committed Tesla AP4 ซึ่งจะเป็น stack ใหม่สำหรับ HW4.0 ไปเลยครับ

BLINK DRIVE TAKE

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ตอนนี้ Tesla ยังไม่ปล่อยให้โหลด Tesla FSD Beta ของ HW 4.0 มาให้ใช้งานเลย ซึ่งไม่มีใครบอกได้ว่าจะได้ใช้งานเมื่อไหร่นะครับ

ส่วนเรื่องการใช้งานอื่นๆ นั้นเหมือนเดิมเกือบหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่อง charging, แบตเตอรี่, อัตราเร่ง, หรือระบบแอร์รถ ดังนั้นแล้วการ upgrade รอบนี้เป็นเพียงในส่วนของ Autonomous driving หรือระบบขับเคลื่อนอัตโนมัตินะครับ

ถ้าใครที่วางแผนซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งานเพื่อลดค่าใช้จ่าย, ศึกษาเทคโนโลยี(ที่ไม่ใช่ FSD) หรือลองอัตราเร่งแล้วล่ะก็ ไม่ว่า HW3.0 หรือ HW4.0 ก็ตอบโจทย์ทั้งหมดครับ

ส่วนเรื่องการเปิดให้คนไทยใช้ Tesla FSD Beta นั้นคงเป็นเรื่องอีกไกลพอสมควรเพราะยังไม่มีข่าวในการเปิดให้ประเทศอื่นๆ ใช้งานกันเลยนะครับ เราคงต้องมาจับตากันอย่างใกล้ชิดอีกทีปลายปีนี้ว่าหลังจากที่ Tesla หันไปขายรถพร้อม HW 4.0 กันแล้วจะมีอะไรเพิ่มเติมกันบ้างนะครับ

ซื้อเลยหรือรอก่อน?

สำหรับคนที่หลังไมค์เข้ามาถามเรื่องว่าจะรอซื้อ HW 4.0 ดีไหมหรือซื้อเลย?

ผมก็อยากมาตอบตรงนี้ว่า แล้วแต่การใช้งานของแต่ล่ะคนเลยครับ

เชื่อว่า 100 ทั้ง 100 ในตอนนี้คงไม่สามารถใช้งาน FSD Beta ในไทย ดังนั้นการได้ HW 4.0 มาในไทยช่วง 1-2 ปีนี้คงใช้งานได้เพียง 20% ของความสามารถ HW 4.0 ครับ ซึ่งแทบจะไม่แตกต่างจาก HW 3.0 เลย

มีเพียงกล้องรอบคันเท่านั้นที่แตกต่างแบบเห็นได้ชัดครับ

ส่วนเรื่อง performance, ความประหยัด, และการประกอบน่าจะไม่ต่างกันเลยครับ

ดังนั้นผมอยากจะให้โพสนี้เป็นโพสที่ให้ความรู้ใหม่ๆแก่ชาวไทยมากกว่ามาขิงกันว่า ผมซื้อรถใหม่กว่าคุณนะครับ

เพราะเอาจริงๆ Tesla ได้ทำการวิจัย HW 5.0 ไปแล้วครับใช้ชิป 4 nm ของ Samsung ครับ อาจจะมีการวางขายภายในปี 2024-2025 ก็เป็นได้ ดังนั้น HW 4.0 ก็จะตกรุ่นเหมือน HW 3.0 ทันทีครับ

ดีไม่ดี กว่า FSD Beta จะออกที่ไทยนั้น Tesla ใช้ HW 5.0 ไปแล้วก็ได้ครับ

สรุปแล้วก็คือ ถ้าคุณจำเป็นต้องใช้งานรถจริงๆ ก็ซื้อไปเถอะครับ ซื้อเพราะได้ประหยัดเงินก่อน, ได้ลองอัตราเร่งแรงๆก่อนชาวบ้านก็พอแล้วครับ

แต่ถ้าอยากสัมผัสเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่ตลอด แนะนำว่าอย่าซื้อรถ Tesla ขับเลยครับ คุณซื้อรถตามเค้าไม่ทันหรอกเพราะมีการ upgrade ทุกปี(อารมณ์การพัฒนารถของ Tesla ตอนนี้เหมือนตอน Intel ไล่ออก Pentium เลยครับ ออกโมเดลใหม่ทุกปี เรียกได้ว่าคอมพ์ตกรุ่นทุกปี)

ผมแนะนำให้เช่ารถขับดีกว่าครับ จะได้ตามเทคโนโลยีเค้าทันทุกครั้งที่รถออกใหม่ครับ

ถ้าคุณคิดว่าไม่ซื้อตอนนี้มาขับ แล้วรอคันที่มีเทคโนโลยีใหม่มาก็คงต้องเปลี่ยนทุกปีครับเพราะ Tesla แอบเปลี่ยนไส้ในทุกๆ 6-12 เดือนครับ

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

Follow by Email