วันนี้มีสมาชิกเพจ Blink Drive ส่งข้อมูลมาทางหลังบ้านว่า
ขอบคุณ Blinkdrive นะ เป็นส่วนสำคัญมากกกก ที่ทำให้ผมตัดสินใจ ซื้อ Tesla
คุณณพ
พร้อมกับแนบรูปของเค้ายืนถ่ายคู่กับรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model Y นะครับ ผมจึงเริ่มสอบถามข้อมูลว่า เริ่มสนใจรถยนต์ไฟฟ้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่และบทความไหนที่ทำให้คุณณพกล้าลุยกับรถยนต์ไฟฟ้าแบบเต็มตัวนะครับ
วางแผนซื้อ Tesla มากว่า 5 ปี
คุณณพบอกผมว่า จำจุดเริ่มต้นที่หันมาสนใจรถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้ว่าตอนไหน แต่จะได้คร่าวๆว่า หลังจากเรียนจบและกลับมาจากอเมริกาก็เริ่มหันมาสนใจรถยนต์ไฟฟ้าช่วงนั้น
คุณณพเรียนที่อเมริกา 2016-2018 ที่เมือง Rochester รัฐ Minnesota ซึ่งเป็นรัฐเดียวกับที่ 9arm อยู่ ณ ปัจจุบันครับ ซึ่งตอนคุณณพเรียนอยู่นั้นพวก EV มันไม่ได้บูมมากทำให้เค้าไม่ได้สนใจจะซื้อมาขับในตอนนั้น
แต่เวลาคุณณพไปหาเพื่อนที่แคลิฟอร์เนียและเริ่มเห็น Tesla มันก็เป็นอะไรที่ว้าวดีครับ ทำให้คุณณพเริ่มจุดประกายความฝันที่จะเป็นเจ้าของเทสล่ามาตั้งแต่ช่วงนั้นครับ
เล่น Hybrid มาก่อนแต่ราคาร่วงแรงมาก
ตอนก่อนไปอเมริกานั้น คุณณพใช้ Toyota Camry Hybrid รุ่นแรก แฟนเค้าใช้ Toyota Prius ครับ ซึ่งพวกเค้าก็ happy กันนะ แต่ยุคนั้น ราคาตกเละเทะ เนื่องจากคนไทยยังกลัวค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ Hybrid อยู่
หันไปซบ Plug-in Hybrid แทนในปี 2018
ตอนคุณณพกลับมาจากอเมริกาในปี 2018 พวก infrastructure มันไม่ได้พร้อมมากครับ แล้วรถ EV ที่มี มันคือ MG ZS EV ซึ่งเค้าไม่อยากได้ คุณณพสนใจแต่ Tesla เท่านั้น
ตอนนั้น ที่บ้านของคุณณพเลยเบนเข็มไปออกรถน้ำมัน PHEV (Plug-in Hybrid) มาสองคัน แล้วติด wall charger สมัยห้าปีที่แล้ว ค่าติดกับ charger โดนไป 80000 กว่าบาทซึ่งถือว่าแพงมากๆ และรถ PHEV สองคันนี้ก็วิ่งไฟฟ้าได้เพียง 28 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้งเท่านั้น
ปัญหา PHEV โดนมากับตัว
ทุกวันนี้แฟนยังบ่น ที่ชวนเขามาใช้ Phev เพราะปัญหามันเยอะอยู่ครับ เหมือน เรารับความเสี่ยงสองทางเลย ทั่ง ICe ทั้ง Hybrid
คุณณพ
คุณณพแจ้งว่าพวกระบบ Hybrid มัน malfunction (ทำงานผิดพลาดบ่อยครับ)
หลักๆ คือ เวลาแบต 12 volt ลูกเล็ก(low voltage battery) ไฟอ่อน ระบบมันจะรวนทั้งคันและต้องวิ่งเข้าศูนย์บ่อยๆ
พอเป็นแล้วเวลาแก้ มันมักแก้ไม่ค่อยจบ วิ่งเข้าวิ่งออก สองสามครั้งจึงจบ เป็นทั้ง 2 ยี่ห้อเลยครับ และคราวนี้เวลาเสียค่า maintenance (ซ่อมบำรุง)ก็เหมือนโดนสองทาง คือ คุณณพต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง, น้ำหม้อน้ำ, หรือน้ำมันเกียร์ของเครื่องยนต์ปกติไม่พอ มันยังพ่วงมากับความงง ของระบบ hybrid ที่มีแบตหลายลูก พอแบตไหนมีปัญหา ก็จะรวนไปหมด ไล่ไปไล่มากว่าจะเจอ เสียเวลา เข้าออกศูนย์หลายรอบ
error ส่วนใหญ่มันจะขึ้นว่า hybrid malfunction เกือบทั้งหมดทีนี้ก็เครื่องยนต์ ล้วนๆ มันขับได้นะครับ แต่เหมือน เราเอารถติดเทอร์โบ ไปแบกน้ำหนักระบบ hybrid (แบตและมอเตอร์) อีก 200 กิโลกว่าๆ ทั้งๆ ที่ระบบ Hybrid มันควรจะใช้งานได้ครับ
หมายเหตุ : เวลาระบบ hybrid มันตายหรือเสีย ตัวระบบมันจะตัดเข้าเครื่องยนต์ 100% ดังนั้น แทนที่จะประหยัดน้ำมันกลับกลายเป็นกินน้ำมันเยอะกว่ารถนำ้มันธรรมดา เพราะแบตมันใหญ่ครับ แบกแบตไปไหนมาไหนตลอดเวลากินน้ำมันมากกว่ารถน้ำมันซะอีกครับ
คุณณพแจ้งว่าใช้มา 5 ปี(ตั้งแต่ปี 2018) จากเดิม รถ Plug-in hybrid วิ่งไฟฟ้าล้วนๆได้ 29 กิโลต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตอนนี้(ปี 2023)เหลือ15-18 กิโลต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
ประกันแบต Hybrid 10 ปีก็จริง แต่ถ้าไฟสัญญาณ error ไม่ขึ้น ศูนย์ฯเขาก็ไม่เปลี่ยนแบตใหญ่ให้ เพราะถือว่ายังทำงานได้ซะงั้นครับ (แบตเสื่อมไม่นับ)
เกือบจะถอย BMW EV
คุณณพกับแฟนเค้าก็ใช้ PHEV มาตลอด และก็รอว่า เมื่อไรอุตสาหกรรม EV ในไทยจะสุกงอม ในใจก็รอ Tesla นี่แหละครับ เพราะคิดว่ามันน่าจะเป้น EV ที่ดีที่สุด
ตอนนั้น คุณณพเริ่มดูช่องของกัปตันดล DIY ซึ่งแกเริ่มจาก ZsEV แต่รูปทรงและ Range (ระยะทางที่วิ่งได้)ในการขับขี่มันยังไม่ตอบโจทย์ในชีวิตประจำของคุณณพครับ
จากนั้นดู youtube ก็เริ่มเห็นที่ Blink Drive กับ กัปตัน DIY คุยกัน ผมก็เริ่มดูมาตลอด ถึงเทคโนลโลยีที่น่าสนใจของ Tesla ความล้ำ ผมเกือบตัดใจซื้อ Gray market ไปหลายที บวกกับช่วงเงินบาทตก ราคามันโดดไป สามล้านกว่า เลยพับแผน
จริงๆ ตอนนั้นก็มอง ๆ volvo XC40 และ Volvo C40 เกือบตัดใจไปถอยมาขับ เพราะอยากได้ EV แท้ ๆ
แต่ก็ใจยังคิดถึง Tesla ตลอด เพราะฟัง Blink Drive มาเยอะมาก
ผมใช้ BMW อยู่ตัว PHEV พอดีทาง bMW นำ iX3 เข้ามา ก็ไปนั้งไปลอง ก็ชอบนะ แต่เกินงบไปนิดนึง นั่งสบายจริง แต่ไม่ชอบความที่มันเอาตัวถังเก่ามาครอบมอเตอร์ ซึ่งมันแบบ ไม่ใช่อะ
มันยังยึดติดความเป็น ICE (รถน้ำมัน)อยู่มาก
คุณณพ
หมายเหตุ : BMW iX3 นั้นพัฒนาจาก platform BMW X3 ทั้งคันดังนั้นมันจะมีชิ้นส่วนและ body ต่างๆ ที่ copy มาจากรถยนต์น้ำมันมาเลยครับ โดยเฉพาะตรงกลางรถที่จะมีช่องคันเกียร์ซึ่ง BMW iX3 ไม่มีเกียร์แต่ก็ยังมีช่องนั้นใส่มาครับ
ทำไมถึงเลือก Tesla?
จุดตัดสินใจสำคัญ คือ ที่ Blink ไปเอาข้อมูล รถที่วิ่งเป้นแสน ๆ ล้าน ๆ กิโลเมตร ของ Tesla แล้วบอกว่า เฮ้ย รถวิ่งไปเป็นล้านกิโล แบตมันเสื่อมไปแค่ 10% เองยังไม่เคยมีใครที่ต้องโดนเปลี่ยนแบตเลย
เพราะตอนจะตัดสินใจจะซื้อรถ EV เนี่ย คนเตือนเยอะ บอก เออ หมด 8 ปี เตรียมค่าแบตยัง
เราก็ได้ข้อมูลจาก Blink นี่แหละว่า ผ่านไป 8 ปี ไม่ใช่มันพังไปเลยนะ มันแค่เสื่อม ก็วิ่งได้สั้นลงบ้าง
แต่ทุกอย่างไม่ว่าพละกำลัง function ทุกอย่างยังไม่เหมือนเดิม
แล้วอย่าง Model Y เอง ตั้งแต่ออกมาคนวิ่งไปเยอะ ๆ หลายแสนกิโล ก็ยังไม่มีใครเข้า criteria (จุด)ที่จะต้องเปลี่ยนแบตเลยก็เลยตัดสินใจซื้อเลย
พอ Tesla Thailand มา นี่ไม่ได้คิดเยอะ ด้วยราคานี้ เราไหว รีบจัด
คุณณพ
จริงๆ ผมเขียนเอาไว้หลายบทความมากๆ เกี่ยวกับ longivity (ความคงทน)ของแบตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 นะครับ คร่าวๆ น่าจะมีแค่นี้ครับ
- ใช้งานไปแล้ว 321,000 km , แบตเดิม
- คนแรกในไทยที่วิ่ง Tesla Model 3 ครบ 100,000 km
จองรถตอนยอดจองทะลุ 4,000 คันไปแล้ว
ผมจองในวันที่ 7 มกราคม
วันแรกที่เปิดจองนั้น ผมอยากได้นะ
แต่วันนั้นดันยุ่ง พอรู้ตัวโห ยอดจองวันแรกไป สี่พันคัน เมื่อไรจะได้เนี่ย
และใจก็ขอดูตัวเป็นๆ สักครั้งก่อนจอง
ไป ที่ CTW (Central World) วันที่ 7 มกราคม คุยกับ Tesla Assistant จนพอใจหมดข้อสงสัย น้องเขาชวนจองบอก แค่ 4 พัน และผมบอกว่าอยากได้ช่วงกลางๆ ปี เขาก็บอกจองเลยได้ช่วงนั่นแหละ
คุณณพ
ยอดจองทะลุ 4,000 คันภายในอาทิตย์แรกนี่ถือไม่ธรรมดานะครับ สำหรับตลาดรถยนต์ในไทย แล้วคุณณพบอกผมว่า ตอนที่เค้ารับรถนั้น รถ Tesla ถูกส่งมอบในไทยมากกว่า 4,000 คันไปแล้ว โห นี่เยอะมากนะครับ สำหรับเวลาครึ่งปี จริงๆ ถ้าไม่มีเรื่อง HW 4.0 ที่กำลังจะมาภายในปีหน้านี้ ผมว่ามีโอกาสที่ยอดจองจะทะลุ 10,000 คันโดยไม่ยากแหละครับ
วันนี้ ก่อนไปผมขอจบกระทู้ด้วยภาพ Tesla Model Y ของคุณณพนะครับ
BLINK DRIVE TAKE
ถือว่าเป็นผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ท่านแรกที่ลองมาหมดทุกรูปแบบของรถยนต์นะครับ ไม่ว่าจะเป็น Toyota Camry Hybrid และ Toyota Prius ที่เป็น Hybrid แล้วก็ Bmw 330e และ Benz c350e ที่เป็น Plug-in Hybrid
ตบท้ายด้วย Tesla Model Y Performance นะครับ ตอนนี้คุณณพกำลังทำโปรเจคใหม่อยู่คือการอ้อนวอนแฟนมาขับ Tesla อีกคนนะครับ มาช่วยลุ้นให้กำลังใจกันว่า คุณณพจะสามารถทำภารกิจนี้สำเร็จหรือไม่นะครับ
แต่ผมบอกเลยว่า การได้มาขับรถยนต์ไฟฟ้า(โดยเฉพาะ Tesla) แล้ว มันยากมากที่จะกลับไปขับรถยนต์น้ำมันครับ