รีวิวนี้เป็นรีวิวจากคุณเป้ซึ่งข้อมูลหลังบ้านมาที่เพจ Blink Drive นะครับ รถตู้ไฟฟ้า MG Maxus ที่คุณเป้ซื้อมานั้นไม่ใช่รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของบ้านครับ
รถคันแรก Tesla Model Y 2021 [Grey Market]
ผมต้องขอท้าวความกลับไปเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2021 หรือเมื่อ 2 ปีที่แล้ว คุณเป้เค้าส่งข้อความหลังไมค์มาบอกว่า ซื้อ Tesla Model Y แล้วนะครับ ย้อนกลับไปในช่วงนั้น รถยนต์ไฟฟ้า Tesla ในไทยถือว่าเป็นของใหม่มากๆ คลังข้อมูลสมัยนั้นน้อยกว่าปี 2023 เป็นสิบเท่าครับ เรียกได้ว่า คุณเป้พูดคุยกับผมก่อนซื้อรถประมาณ 3 สัปดาห์นั้น ข้อมูลที่พวกเราคุยกันนั้นมาจากต่างประเทศทั้งหมดเลย
หลังจากที่คุณเป้ได้ทดลองใช้งาน Tesla Model Y มา 2 ปีเต็มกลายเป็นว่า ตอนนี้คุณเป้เค้าไม่หันกลับไปใช้รถน้ำมันอีกเลย ทำให้รถคันต่อไปในบ้านจึงกลายมาเป็นรถตู้ไฟฟ้า MG Maxus 9 คันนี้ครับ
การขับขี่
ดีมากครับ รถตู้ไฟฟ้าคันนี้แรงบิด อัตราเร่ง เอาชนะรถตู้เครื่องเบนซิน 2.5 หรือดีเซลเทอร์โบทุกๆคันที่ผมเคยขับมาครับ ถ้าขับเร็วๆ ช่วงล่างคือแน่น เกาะถนน เข้าโค้งดี ขับเร็วๆไม่โครง (แบตเตอรี่ทำให้รถศูนย์ถ่วงต่ำ) และที่สำคัญลมไม่เข้าที่ความเร็วสูง
สเปคมอเตอร์ไฟฟ้า Maxus
- มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุดที่ 245 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตันเมตร
ความสบายของเบาะนั่งแถวกลาง (เบาะนวดไฟฟ้า)
ถ้าเป็นรุ่น Top จะเบาะที่นั่งสบายมากๆ เบาะสามารถปรับเอนนอนได้เหมือนนั่งเครื่องบินชั้นธุรกิจ ที่วางแขน มีจอที่ควบคุมสิ่งต่างๆได้ในรถตั้งแต่แอร์ ไฟ หน้าต่าง เบาะสามารถนวดได้ ขยับชิดหรือห่างระหว่างกันได้ มีปลั๊กไฟบ้านสามารถเสียบทำงานได้ มี USB Charger ครับ
ความนุ่มนวลในการขับขี่
ในถนนที่สภาพไม่ค่อยดี เช่นซอยทางเข้าโรงเรียนลูก ความนิ่มผมว่าชนะรถตู้รุ่นยอดนิยมครับ เวลาผ่านฝาท่อ หรือตัวหนอน ผมว่าคันนี้ทำได้ดีมาก ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนซื้อ ผมได้ลองนั่งทดสอบในตำแหน่งเบาะทั้งสามแถว รถบางคันจะดีเฉพาะบางตำแหน่ง แต่คันนี้ทดสอบผ่านครับ
Ventilation (ระบบระบายอากาศ(พิษ))
ดีมากๆ อันนี้ให้คะแนนเต็ม ระบบการกรองอากาศมากับตัวรถดี มีค่า AQI / PM2.5 แสดงในรถเลย ไม่มีควันเข้าเวลารถติด แอร์หน้าแยกซ้ายขวา แอร์หลังแยกโซน
Storage (การเก็บของ) ทำได้ดีกว่า Alphard
เวลาพับเบาะคู่สุดท้าย พื้นที่ด้านหลังค่อนข้างกว้าง ผมเอากระเป๋าเดินทางชุดมาตรฐาน 5 ใบ (ประจำของครอบครัว) มาลอง พื้นที่ยังเหลือ …ทำไมต้อง 5 ใบนี้ เพราะ 5 ใบนี้คือกระเป๋าสูตรของที่บ้านเวลาไปเช่ารถที่ต่างประเทศ จะสามารถเข้า Toyota Landcruiser ได้พอดี! Toyota Alphard ไม่สามารถเก็บกระเป๋าชุดนี้ได้ครับ
ส่วนกระเป๋าจักรยาน Scicon รุ่น Triathlon Aero Comfort เลื่อนเบาะหลัง ไปด้านหน้าสามารถใส่ทางขวางได้ครับ อันนี้ได้คะแนน +1 จากผมเลย(รถที่ใส่ได้ทางขวางที่เคยใช้คือ Mercedes Benz Vito กับ Toyota Commuter)
ส่วนกระเป๋า Ice Hockey ยี่ห้อ Grit รุ่น Large Grand 36 นิ้ว พับเบาะด้านเล็กด้านหลังข้างเดียวตะแคงเข้าสบายๆเลย
การชาร์จ
รถจะแถมที่ชาร์จ AC แบบติดที่บ้านให้ และ Emergency Charger (อยู่ใต้ฝากระโปรงหน้า) พอใช้ได้ครับ ไม่แรงและฉลาดเท่าที่ซื้อเอง
ถ้าซื้อเพิ่มเองจะสามารถจ่ายไฟได้ 11kw คือสูงสุดของรถที่รับได้ ทดสอบมาแล้วที่ชาร์จ Tesla V3 สามารถชาร์จได้ (เคยเอามาลองชาร์จกับ MG EP ตัวแรก ไม่เข้า) ชาร์จไปเปิดแอร์รอในรถได้ ไฟเข้าจะใช้ก่อนที่เหลือเอาไปชาร์จ
สเปคแบตและการชาร์จของรถ MG Maxus 9
- แบตเตอรี่ lithium-ion ขนาด 90 kWh
- DC Fast Charge ที่ 120 kW
- ชาร์จจาก 10-80 % ภายใน 30 นาที
- AC รับไฟได้สูงสุดที่ 11 kW
ข้อควรรู้ก่อนซื้อ (ข้อเสียที่อยากให้ MG นำไปปรับปรุง)
ข้อดีมาเยอะละเอาข้อที่ไม่ได้ว่าเป็นข้อเสีย แต่ถ้าปรับปรุงได้จะดีมากๆแล้วกันนะครับ
1. เบาะหลังถ้าพับแล้วยกขึ้นแยกซ้ายขวาได้เหมือน Alphard/Velfire จะทำให้การเก็บของดีขึ้นมาก รถคันนี้ถ้าขนจักรยานแบบไม่ถอดล้อ ต้องวางตรงเบาะแถว 2 เท่านั้น ลองมุมอื่นแล้วทำไม่ได้เลย
2. พอต่อ Apple Carplay แล้วจะปรับเสียง Volume จากจอค่อนข้างยาก ยกเว้นกดที่พวงมาลัย
3. ไม่มีแอปให้ใช้งานกับรถทำให้ไม่สามารถ remote ดู status การชาร์จ หรือตั้งเวลาชาร์จในช่วง TOU เพื่อประหยัดค่าไฟได้
4. ถ้าไม่นับ Logo MG ที่ฝากระโปรง ทุกอย่างจะโชว์ Maxus หมด กุญแจ พวงมาลัย จอ
5. ไม่มีระบบ Entertainment สำหรับภาพมาเลย ถ้ามี option เพิ่ม หรือไว้เติม Aftermarket จะดีมากๆ
6. รถจะมีการเตือนเรื่องความปลอดภัยค่อนข้างมาก ถ้าจะไม่อยากได้ยิน ต้องกดปิดทุกครั้งเวลาเริ่มขับรถ ไม่สามารถกด Settting ให้ค้างได้
ไอเดียจากคุณเป้
ถ้าผมเป็นเซลล์ขายรถ อยากจะขายรถรุ่นนี้ให้คนรอบข้างผม ผมจะเชียร์ยังไง
ขายให้นักวิ่ง 
ขายให้พ่อแม่ลูกวัยเรียน 
ขายให้นักธุรกิจที่ต้องการความเป็นส่วนตัว 
ขายเพื่อนๆสาย Party
หลังจากนี้ จะเอารถไปส่งติดฟิล์มใสกันรอยรอบคันก่อนครับ ไว้กลับมาลองรถยาวๆต่อครับ
BLINK DRIVE TAKE
เดี๋ยวหลังจากที่คุณเป้ไปติดฟิล์มกันรอยรอบคันแล้ว ผมจะขอไปรีวิวรถคันนี้ด้วยตัวเองแหละครับ เพื่อเอาข้อมูลมาให้ชาว Blink Drive ทุกท่านได้ศึกษากันครับ
ในความคิดส่วนตัวของผม ผมนั่งคิดมานานแล้วว่า เมื่อไหร่จะมีค่ายรถนำรถตู้ครอบครัวไฟฟ้า (eMPV)มาทำตลาดเมืองไทยน้าา พอ MG เอา MG MAXUS 9 มาเปิดตัวแล้วผมดีใจมากๆ เลย
บอกเลยว่าเป็นรถที่ผมอยากรีวิวมากกว่า Lucid Air ซะอีก เพราะราคาที่เข้ามาขายในไทยนั้นถือว่ามาต่ำกว่าคู่แข่งอย่างมาก (เริ่มต้นที่ 2.499 ล้านบาท) ซึ่งน่าจะเป็นราคาจับต้องได้ถ้าเทียบกับ Lucid Air ราคาเริ่มต้นแถวๆ $125,000 หรือ 4.25 ล้านบาท(ไม่รวมภาษีนำเข้า 200%)
หมายเหตุ : โพสนี้เขียนด้วยใจ ไม่ได้รับค่า sponsor ใดๆ จาก MG Thailand ครับ ผมชอบรถคันนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การที่ได้คุณเป้มาเขียนรีวิวแบบนี้ยิ่งทำให้ผมอยากทดลองนั่งและทดลองขับขึ้นมาอีกแหละครับ ฮ่าๆ
