บ้าไปกันใหญ่แล้วครับ ตั้งแต่ผมเกิดมายังไม่เคยเจอเหตุการณ์คนแห่กันไปจองรถยนต์แบบนี้เลยครับ นี่เป็นครั้งแรกในไทยที่ผมเห็นภาพแบบนี้ โดยสมาชิกเพจ Blink drive (คุณ Panithan) แจ้งว่า เค้าต้องบินมาจากเชียงรายเข้ากรุงเทพเพื่อเข้ามาจองรถ BYD Atto3 ครับ ทุกคนคงแปลกใจว่า ทำไมถึงใจกล้า บ้าบิ่น บินจากเชียงรายไปกรุงเทพเพื่อซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ด้วย เดี๋ยวผมขออนุญาตเล่าเรื่องราวให้อ่านคร่าวๆ ดังนี้ครับ
วางแผนซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามา 2 ปีเต็มๆ
หมายเหตุ : ขออนุญาตนำข้อความสนทนามาโพสตรงนี้นะครับ ขอบคุณที่ติดตามกันมาครับ
คุณ Panithanวางแผนซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาตั้งแต่ต้นปี 2021 (อ้างอิงจากที่มากดไลค์เพจ Blink Drive ครับ) แกบอกว่า แกชื่นชอบรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่นั้นมา
แถมยังเคยไปเช่ารถ MG EP+ จาก EVMe มาขับ แกบอกว่า ชอบมากๆ แรงบิดมาตอน 0 รอบ ซึ่งรถยนต์น้ำมันราคาเท่ากันนั้นให้ feeling (ความรู้สึก)นี้ไม่ได้เลย
ที่สำคัญคือ แกเอาให้น้องสาวขับแล้วน้องสาวบอกว่า ขับง่ายกว่ารถยนต์น้ำมันมากๆ เวลาเร่งแซงขวานั้นง่ายมากๆ ไม่กลัวเลยว่าจะไม่พ้น ทำให้แกวางแผนเอาไว้แล้วว่าจะต้องออกรถยนต์ไฟฟ้าซักวันนึงให้ได้ จริงๆ ตอนนั้นแกเล็ง MG ZS EV เอาไว้แล้วแต่ความพร้อมทางด้านการเงินยังไม่ได้เลย ข้ามมาจนถึงวันนี้ครับ ซึ่งเป็นวันดีแท้แต่พอจะไปออกรถก็ปรากฏว่า….
โดนศูนย์ BYD Hornbill เชียงรายเท
คุณ Panithan นั้นอาศัยอยู่ อำเภอฝาง, จังหวัดเชียงใหม่และพอจะค้นหาศูนย์ BYD ที่ใกล้ที่สุดเพื่อสั่งจองรถยนต์ไฟฟ้า BYD Atto3 แล้วนั้นปรากฏว่า ไปเจอศูนย์ BYD Hornbill สาขาเชียงรายเทเนื่องจากเค้าบอกว่า “คิวเต็มแล้ว” (เห้ยมันจะเต็มได้ยังไงในเมื่อเค้าบอกว่า จะเปิดรับคิวตอนวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 นิครับ อันนี้ฝาก BYD Rever ตรวจสอบด้วยนะครับ) ส่วนนี่คือข้อความเต็มจากคุณ Panithan ครับ
แชร์ประสบการณ์ถูกเลือกปฏิบัติจากศูนย์ BYD HORNBILL เชียงราย😡🤬 ไม่โอเคมากๆ😡😡😡
จากการที่ BYD REVER ประเทศไทยผู้นำเข้ารถยนต์ยี่ห้อ BYD ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการประกาศรับจองรถแบบออฟไลน์เพื่อลดปัญหาการลัดคิวคือให้ลูกค้าว็อคอินเข้าไปจองที่ศูนย์(ตัวแทนจำหน่าย) ส่วนตัวผมชื่นชมและสนับสนุนวิธีนี้เพราะการรันคิวแบบนี้คือคิวที่แท้จริง!แต่……🤬🤯เดิมทีติดต่อจองรถกับศูนย์ที่ กทม.เพราะเชื่อมั่นในบริการของเซลล์ที่คุยด้วย แต่ด้วยระยะทาง คือผมอยู่เชียงใหม่ เลยเลือกศูนย์ที่อยู่ใกล้อำเภอฝางจังหวัดเชียงใหม่มากที่สุดนั่นก็คือ BYD นกเงือกเชียงราย ประกอบกับเซลล์ให้คำมั่นว่าหากมารับคิวก่อนได้รับรถล็อตแรกแน่นอน พอก่อนวันเปิดจอง 1/11/2565 เซลล์แจ้งมาว่าต้องขอโทษด้วยทางเราเลือกลูกค้าจากความพร้อม!!! ซึ่งก็คือเลือกลูกค้าที่มีเงินสด💵 จ่ายสดเต็มจำนวนเป็นอันดับแรก!!! ผลก็คือ ถึงคุณจะไปรอหน้าศูนย์ตั้งแต่ตี่สามตีสี่ เพื่อเอาคิววางเงินจองเป็นคิวแรก สุดท้ายคิวจะถูกลัดและแทรกโดยลูกค้าเงินสดทันที ซึ่ง ณ เวลานี้ วันนี้ 31/10/2565 เซลล์บอกว่ามีลูกค้าพร้อมออกรถเงินสดทันทีเต็มโควต้าแล้ว ถึงคุณจะได้วางเงินจองคิวแรก ก็ไม่รู้ว่าจะได้รถเมื่อไหร่ เพราะมีลูกค้าเงินสดทยอยมาออกรถเรื่อยๆ คิวไฟแนนซ์ (คิวเงินผ่อน) ก็รอต่อไปอย่างไม่มีกำหนด หรือจนกว่าจะไม่มีลูกค้าเงินสดมาซื้อแล้วถึงจะรันคิวลูกค้าเงินผ่อน นั่นแสดงให้เห็นว่าศูนย์บริการแห่งนี้มีนโยบายเลือกปฏิบัติ หากลูกค้ามีเงินสดก็พร้อมลัดคิวให้ทันที ไม่สนลูกค้าที่ไปต่อคิวรอแต่เช้า(จะมีคิวไปทำไม) ซึ่งผมเองได้เจรจาและขอร้องอยู่นานถึงความจำเป็นที่ต้องได้คิว เพราะเราไม่สามารถลางานได้บ่อยๆ และขอให้รันคิวตามคิวจริงคือรอผลไฟแนนซ์(ไม่เกิน 1-2) แล้วค่อยพิจารณาให้คิวถัดไป แต่ทางศูนย์แห่งนี้ยังยืนยันคำเดิมว่า “เราประเมินลูกค้าจากความพร้อมทางการเงิน” ซึ่งผมไม่เห็นด้วยเพราะทางศูนย์ยังไม่ทันจะทราบผลการพิจารณาสินเชื่อก็ตัดสินลูกค้าเป็นกลุ่มสองแล้ว และได้ลัดคิวส่งมอบรถในทันที ซึ่งแตกต่างจากศูนย์ที่ กทม.ที่ยึดถือคิวเป็นหลักให้ลูกค้าทั้งเงินสดและเงินผ่อนได้คิวเดียวกันรันตามจริง!
หากศูนย์แห่งนี้เลือกที่จะใช้วิธีพิจารณาแบบนี้ นั่นก็แสดงว่าลูกค้าสินเชื่อที่ต้องการใช้รถก็จะไม่ทราบคิวจริงเลย เพราะถูกแซงคิวได้ตลอด ผมไม่โอเค🙅♂️
ส่วนตัวผมมองว่า คิวก็คือคิว การจะตัดสิทธิ์หรือลัดคิวควรให้ไฟแนนซ์หรือผู้ให้บริการสินเชื่อเป็นผู้ตัดสินว่าไม่ผ่านถึงจะดำเนินการลัดคิวเป็นคิวถัดไป ไม่ใช่ให้ลูกค้าไฟแนนซ์ถูกลัดคิวไปเรื่อยๆ มีคิวก็เหมือนไม่มี😡
บินตรงลงกรุงเทพคืนนั้น
อย่างที่ผมบอกไปคือ บ้านคุณ Panithan นั้นอยู่ อ. ฝาง จังหวัดเชียงใหม่, แกบอกว่า อยากได้รถคันนี้มากๆ ถึงขั้นขับรถ 200 km เดินทางไปเชียงรายเพื่อเตรียมตัวเองรถ แต่ปรากฏว่า ศูนย์เชียงรายเทแกตอนบ่าย 3 โมง ทำให้แกหาทางออกรถให้ได้ภายในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 เพราะเป็นฤกธิ์งามยามดีของจีนและไทยนะครับ(วันส่งมอบวันแรกของ BYD ก็วันนี้ครับ) สุดท้ายคือแกตัดสินใจซื้อตั๋วเครื่องบินจากเชียงรายบินตรงสู่กรุงเทพคืนนั้น(31/10/22) เพื่อไปจองรถยนต์ไฟฟ้า BYD Atto 3 ที่ศูนย์จัดจำหน่าย BYD ในกรุงเทพต่อเลยครับ
แกแอบกระซิบผมมาว่า ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เชียงราย – กรุงเทพนั้นประมาณ 4,000 – 5,000 บาทครับ
นี่คือหน้าตาของศูนย์ BYD กวงไถ่มอเตอร์กรุ๊ปตอนที่คุณ Panithan มาถึง (ตอนตีหนึ่งกว่าๆ) ครับ คือคนเต็มอย่างกับว่าแจกรถกันฟรีครับ
คนมารวมตัวกันเยอะจนตำรวจคิดว่ามีปาร์ตี้?
ใช่ครับ คุณอ่านไม่ผิดหรอกครับ คุณ Panithan แจ้งว่า ช่วงตี 1-2 สายตรวจแวะเข้ามาส่องดูมามีคนมาทำอะไรกันตรงนี้เพราะเห็นคนรวมตัวกันเยอะมากๆ คิดว่ามีปาร์ตี้นะครับ แต่พอสายตรวจมาเห็นคุณลุง, คุณป้านั่งอยู่ก็รู้เลยว่าไม่ได้มาปาร์ตี้อะไรทั้งนั้น (กูมาซื้อรถกันเฟ้ย) สายตรวจก็กลับไปแต่โดยดี ผมขอชื่นชมตำรวจที่ออกราดตระเวนช่วงค่ำเพื่อดูแลความปลอดภัยประชาชนมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
คิวแรก 2 ทุ่ม
คุณ Panithan แจ้งว่า คนแรกที่มีต่อแถวนั้นเริ่มตอน 2 ทุ่มครับ แล้วจากนั้นก็ทยอยกันมาเรื่อยๆ
ส่วนภาพด้านล่างนี้คือ โฉมหน้าของคนแรกที่มาจองรถครับ (พี่ผู้หญิงนะครับ) ส่วนคุณลุงผู้ชายด้านขวานั้นมาตอน 4 ทุ่มเป็นคิวที่สองครับ คือทุ่มทุนมากครับ เค้าเปิดรับจองรถตอน 7 โมงเช้า แสดงว่า พี่ผู้หญิงท่านนี้ต้องรอประมาณ 11-12 ชั่วโมงจากนี้ไปครับ หรือเทียบเท่า 1 วันครึ่งของวันทำงานครับ !!! โหดมาก ใจไม่รักจริง ไม่ทำแบบนี้นะเนี่ย
ส่วนของคุณ Panithan นั้นได้คิวที่ 11 นะครับ (ดีใจด้วยครับ) แกบอกว่า เฉพาะ 20 คิวแรกที่จะได้รถยนต์ไฟฟ้า BYD ขับกลับบ้านนะครับเนื่องจาก YBD Rever กระจายรถยนต์ไฟฟ้าออกไปทุกๆ ศูนย์ฯ ในปริมาณเท่าๆกันในล๊อตแรกคือ 20 คัน
ส่วนภาพด้านล่างนี้คือ แถวยาวมาก ๆ สำหรับคนที่ต่อแถวรอซื้อรถยนต์ไฟฟ้า BYD Atto3 ครับ
ส่วนภาพด้านล่างนี้เป็นภาพของ BYD กวงไถ่มอเตอร์กรุ๊ป สาขาเพชรเกษมครับ นึกว่ามางานเปิดตัว iphone ที่ไทยซักอีกนะครับ
ส่วนภาพด้านล่างนี่คือ update ล่าสุดตอนตีห้ากว่าๆครับ เจ้าหน้าที่ BYD เริ่มมารันคิวแล้วครับ
BYD ในกทม. มีหลายเจ้า, ทำไมต้องกวงไถ่มอเตอร์กรุ๊ป?
ส่วนสาเหตุที่คุณ Panithan มาออกรถกับ BYD กวงไถ่มอเตอร์กรุ๊ปเพราะที่นี่เค้าใช้ “คิวจริง” หรือเรียกว่าทำแบบแฟร์ๆ ในการจองคิวรถอย่างมากครับ เช่น ห้ามจ้างวินมอเตอร์ไซค์มาจองคิว (เจ้าตัวต้องมาเอง), ไม่มีการลัดคิวหรือคิว VIP อะไรทั้งนั้น (ถือว่าให้ความแฟร์กับคนทั่วไปอย่างมาก), และให้สิทธิ์ First come First Serve(มาก่อนได้คิวก่อน)
ส่วนเรื่องการออกรถนั้น เค้าให้ความสำคัญคนจองมากกว่าการจ่ายเงิน(เงินสดหรือเงินผ่อน)ครับ ดังนั้น ผมขออนุญาติโฆษณาบริษัทนี้ให้ฟรีๆ ตรงนี้เลยครับ (ถ้าเจ้าไหนทำดี Blink Drive ยินดีโฆษณาให้ฟรีครับ ยินดีทำด้วยใจ)
ภาพด้านล่าง : จองคิวที่ 23 ตอนตี 5 ครึ่ง ตอน 6 โมงครึ่งคิววิ่งไป 100 กว่าๆ แล้วครับ – ที่มา BYD Spyder บางนา
ข้อมูลจากผู้จัดจำหน่าย BYD กวงไถ่มอเตอร์กรุ๊ป
อัพเดท สรุปการจองรถ BYD Atto3 ในไทย ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565
1. วันที่ 1 จอดรถ CDC ฟรี มีจุดให้จอด มีรถรับส่งให้ เริ่มจอดได้ 8.00 น. ทางห้างกำหนดเวลาตามนี้ (ผมแนะนำให้จอดโลตัสตรงข้ามแล้วเดินข้ามมาจะสะดวกกว่า เพราะโลตัสเปิดแต่เช้าครับ)
2. เริ่มลงทะเบียน รับบัตรคิวจองรถ 8.00 น. ท่านไหนมาก่อน สามารถยืนเข้าแถวรอได้เลย (ผมแนะนำให้มาก่อนเวลา เพราะคาดว่าลูกค้ากลุ่มแรกจะมาหกโมงครับ)
3. ประเมินรถเก่าเริ่ม 7.00 น.
4. มีฟิล์มให้เลือก หลายยี่ห้อ ราคาไม่แพงกว่าข้างนอก รอสรุปราคา
5. กรณีซื้อสด ออกรถเลย ชำระเงิน เป็นเงินโอนเท่านั้น
6. รูดบ้ตรเครดิตจอง 10,000 บาท ไม่ชาร์จ
7. ถ้า ตจว ซื้อดราฟ หรือ กทม ซื้อแคชเชียร์เช็ค เช่นออกรถวันที่ 3 ต้องเอาเช็คหรือดราฟ ไปเคลียร์ริ่งก่อน ถึงรับรถ
จึงไม่เหมาะกับออกรถวันที่ 1 เพราะเราไม่มีใครวิ่งไปแบงค์ให้ เลยไม่สะดวก
8. กรณีมีรถพร้อมเราเก็บรถ ให้ 3 วัน
ทำไมไม่จองผ่าน App?
BYD ไม่รับการจองผ่าน App นะครับ เพราะจะมีคิวผีหลุดมาเยอะและก็ไม่เกิดความเป็นธรรมกับคนที่ต้องการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจริงๆ ทำให้เค้ารับจองแบบ Walkin อย่างเดียวครับ
รถเข้ามาปีนี้เพียง 5,000 คัน
ตอนแรกมีหลายคนกลัวว่า เอารถเข้ามาแล้วจะขายไม่หมดนะครับ แต่ตอนนี้ผมกังวลว่า เอารถเข้าแค่นี้เอง ขายไม่ทันแน่นอนครับ ลองคิดเล่นๆ ตามผมนะครับ รถคันนึงประมาณ 1.2 ล้านบาท 5,000 คันก็ 6,000 ล้านบาท ชิว ๆ ครับ BYD แย่งส่วนแบ่งเค้กก้อนนี้ไป 6,000 ล้านบาทแล้วครับ ถ้าค่ายรถยนต์น้ำมันที่เป็นเจ้าถิ่นยังชิวเบอร์นี้อยู่ ผมเกรงว่า โดน BYD กินโต๊ะจีนหมดแน่นอนครับ อันนี้ยังไม่รวมเทสล่าที่จะเข้ามาต้นปีหน้าอีกนะครับ
สำหรับใครที่สนใจเรื่องราวของคุณ Panithan นั้นสามารถเข้าไปดูบทสนทนาได้ที่คลิปด้านล่างนี้เลยนะครับ
BLINK DRIVE TAKE
เอาจริงๆ นะครับ ตั้งแต่ผมเกิดมา ผมยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ในไทยเลยครับ ไม่มีค่ายรถค่ายไหนในไทยสามารถดึงดูดความสนใจประชาชนได้เบอร์นี้เลยครับ ภาพที่เห็นนี้ก็เป็นเครื่องหมายยืนยันว่า กำแพงความต้องการยานยนต์ไฟฟ้านั้นแตกแล้วครับ demand(ความต้องการ)รถยนต์ไฟฟ้านั้นทะลักพุ่งเข้ามาประชิดหน้าเมืองแล้วครับ
ถ้ารัฐบาลยังชิวๆ แบบไม่สนใจที่จะเปลี่ยนหรือสนับสนุนค่ายรถยนต์ไฟฟ้าอื่นให้เกิดในไทยล่ะก็ ผมมองว่า ไทยเราคงจะตกที่นั่งลำบากในฐานะผู้ผลิตยานยนต์ในปี 2025 เป็นแน่แท้ครับ
ผมอยากให้โพสนี้กระเด็นไปหาหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการจัดสรรการผลิตรถยนต์ในไทย ได้(เบิกเนตร)เห็นความสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าเหมือนประชาชนที่มานั่งรอจองรถยนต์ไฟฟ้าในภาพซักทีครับ เพื่อให้รถยนต์ไฟฟ้ามีที่ยืนในสังคมไทยมากกว่านี้แหละครับ