ยักษ์ใหญ่ระดับโลกของอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างโตโยต้าทำการขยับมาลงทุนรถยนต์ไฟฟ้าแบบเต็มตัวแล้วนะครับ การลงทุนครั้งนี้อยู่ที่ 1.38 แสนล้านบาท(3.8 พันล้านเหรียญ)หรือเทียบเท่าเงินลงทุนมากถึง 6 เท่าที่มาสร้างโรงงานผลิตรถ Hybrid ที่ไทยนะครับ
เมื่อวันพุธที่ 31 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมานั้น สำนักข่าว รอยเตอร์ ได้รายงานว่า บริษัทผลิตรถยนต์ Toyota ได้ทำการจับมือกับ Panasonic สร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าผ่านแผนการณ์ Prime Planet Energy & Solutions (PPES) ในเมือง Liberty รัฐ North Carolina ประเทศอเมริกา
โรงงาน Liberty plant แห่งนี้จะทำการเปิดสายการผลิตภายในปี 2025 โดยโรงงานแหน่งนี้จะผลิตแบตเตอรี่และอุปกรณ์ต่างๆ เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด
แล้วไทยล่ะ?
สาเหตุที่ผมต้องโพสเพื่อเชื่อมโยงกับไทยเพราะ GDP ส่งออกของประเทศไทยอันดับหนึ่งนั้นพ่วงอยู่กับอุตสาหกรรมยานยนต์นะครับ ซึ่งเจ้าตลาดผลิตยานยนต์ในไทยคือ Toyota ครับผม ในปี 2564 ที่ผ่านมานั้นโตโยต้ามียอดต่างๆ ดังนี้ครับ
- ปริมาณการส่งออกจะอยู่ที่ 292,000 คันจากยอดส่งออกทั้งหมด 959,194 คัน หรือเท่ากับ 30% ของยอดส่งออก
- ผลิตขายในประเทศ 222,000 คันจากยอดขายทั้งหมด 759,000 คัน หรือเท่ากับ 29% ของยอดขายทั้งประเทศ
จากยอดขายด้านบนนี้บอกเลยได้ว่า Toyota เป็นเบอร์หนึ่งของตลาดรถยนต์ในไทย(ทั้งส่งออกและขายในประเทศ) แต่กลับกลายเป็นว่า โตโยต้าไปลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่อินโดนีเซียซะงั้น เราคงต้องภาวนาให้โตโยต้าหันมาลงทุนในไทยบ้างแหละครับ
ส่วนเรื่องการประกาศว่า รถอีวีโตโยต้า มาแน่สิงหาคมนี้ โควตา 70 คัน 1.99 ล้านบาท ตอนนี้ยังมาไม่ถึงนะครับ ส่วนบางแหล่งข่าวแจ้งว่า Toyota bZ4X เตรียมเปิดตัวในไทยปลายปีนี้ หลังเข้าร่วมมาตรการสนับสนุนรถ EV ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีกับไทย แต่ผมมองว่าไทยควรจะมีโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจาก Toyota เหมือนอเมริกาและอินโดนีเซียกันได้แล้วครับ
BLINK DRIVE TAKE
ผมมองว่า โตโยต้ามุ่งมั่นเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าอย่างมากในรอบนี้ เราคงต้องมาดูกันปลายปีนี้ว่า พี่โตจะนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า Toyota bZ4X มากี่คันที่ราคาเท่าไหร่กันนะครับ
เพราะการที่เค้าไปเปิดโรงงานผลิตอเมริกา, จีน, และอินโดนีเซียแบบนี้นั้นไม่ได้เป็นผลดีกับบ้านเราเลยครับ อยากให้ผู้ใหญ่ในบ้านเราไปคุยกับพี่โตให้ได้เรื่องและโน้มน้าวให้เค้ามาผลิตที่ไทยอีกฐานนะครับ
ผมเชื่อว่าคนไทยมีศักยภาพเทียบเท่าหรือมากกว่าประเทศอื่นๆหลายประเทศทั่วโลก ดังนั้น การที่เราจะไปต่อรองกับพี่โตคงไม่น่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ครับ
ส่วนประชาชนคนไทยที่อยากเห็นพี่โตหันมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเร็วๆ นั้นก็เพียงถ่วงเวลาการถอยรถยนต์น้ำมันออกไปก่อนแหละครับ(soft power) เพื่อให้เค้าเห็น demand ยานยนต์ไฟฟ้าจากจีนอย่างแท้จริง(แค่เราไม่ไปซื้อรถยนต์น้ำมันมาขับ สัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าก็สูงขึ้นแล้วครับเพราะยอดขายรถยนต์น้ำมันลดลงแต่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเท่าเดิมหรืออาจจะสูงขึ้น) จากนั้นเค้าคงปรึกษากันภายในเพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในที่สุดครับ
