Tesla เปิดขาย เซนเซอร์ลมยาง(TPMS)รุ่น BT ราคาเริ่มต้น 2,500 บาท($75)ต่ออัน

glassman555

3 years ago

ณ ปัจจุบันนี้ Tesla เริ่มเปิดให้ผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ของตนได้ซื้ออะไหล่บางส่วนมาซ่อมกันเองแล้วได้นะครับ มาวันนี้ Tesla เปิดตัว TPMS(Tire Pressure Monitoring System) หรือเซนเซอร์ลมยางรถให้ซื้อมาใส่รถของตนเองกันแล้วนะครับ

TPMS คืออะไร?

TPMS(Tire Pressure Monitoring System) หรือเซนเซอร์ลมยางรถนั้นจะติดมากับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ หลังปี 2015 ไปกันเกือบหมดแล้วนะครับ ตัว TPMS นั้นจะมาแสดงผลตอนลมยางรถเราอ่อนซึ่งมันดีมากๆ ที่เราจะสามารถรู้การแจ้งเตือนนี้ก่อนที่ลมยางเราจะหมดไป

หลักการทำงานของ TPMS นั้นคือใช้ RF Base sensor ส่งสัญญาณไปที่ตัว receiver ของรถแล้วทำการส่งข้อมูล

ประสบการณ์ TPMS ส่วนตัวของผมคือ รถ Toyota Prius(คันเก่าผม) TPMS เสียแล้วผมไม่ไปซ่อมอยู่ 2 เดือน ปรากฏว่ามียางเส้นนึงในรถรั่ว วันนั้นผมขับ highway อยู่ดีๆ ได้ยินเสียง “ตูม” จากด้านหลังรถของผม จากนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนเฮลิคอปเตอร์บินอยู่บนหัว(เสียง : ครืนๆๆๆๆ) ก็เลยรู้ว่ายางแตกแล้ว โชคดีที่ผมขับมาประมาณ 80 km/h ในตอนนั้นเลยหักหลบเข้าข้างทางทันถ้าไม่งั้นก็เสียล้อแม๊คไปอีกล้อครับ

ส่วน TPMS ในท้องตลาดจะมี 2 ประเภทหลัก ๆคือ Direct TPMS, กับ Indirect TPMS นะครับ(ไม่ขอเจาะลึกเพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นเว็บให้ความรู้ยางรถยนต์ไปเสียก่อนครับ ฮ่าๆ)

เอาเป็นว่า ค่ายรถปัจจุบันหันไปใช้ Direct TPMS กันมากขึ้นครับเพราะมันได้ความแม่นยำมากกว่า แต่ข้อเสียก็มีนะครับ ไม่ใช่ไม่มีเดี๋ยวจะเล่าให้อ่านด้านล่างนี้ครับ

แต่ล่ะค่ายรถก็มีการแสดงผล TPMS ที่แตกต่างกันไป เช่น บางเจ้าอยากประหยัดก็จะมัดรวม TPMS Sensors เป็นกระจุก error display ตัวเดียว(แบบภาพด้านล่างเลย) ข้อดีคือเวลาสลับยางก็ไม่ต้อง relearn ตำแหน่งของ TPMS ให้เสียเวลาครับเนื่องจากมันเป็น TPMS เหมารวม แต่ข้อเสียการทำ TPMS Sensor แบบกระจุกแบบนี้คือเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ยางล้อไหนรั่วหรือลมอ่อนนะครับ

บางเจ้า(อย่าง Chevy Bolt ที่ผมขับ)ก็จะให้ TPMS มาแบบ 4 ล้อเลย อันนี้ดีมากๆ เวลาเชคลมยางเพราะเราจะสามารถรับรู้ได้ทันทีว่าลมยางล้อไหนที่มีปัญหานะครับ แต่ข้อเสียของ TPMS ของรถทั่วไปคือเวลาเราสลับยางรถนั้น เราจะต้องมา relearn TPMS ของรถเราด้วยครับ

เกิดมาผมก็เพิ่งรู้เรื่องนี่แหละครับ (ตอนอยู่ไทยเราเอารถเข้าศูนย์สลับยางและเจ้าหน้าที่เค้าก็ทำการ relearn TPMS ให้เรานะครับ) แต่อยู่อเมริกาค่าสลับยาง $10(330 บาท) ค่า relearn(ตั้งค่าใหม่) TPMS ประมาณ $20 หรือ 660 บาท ผมก็เลยไปซื้ออุปกรณ์มา relearn ตัวเองแบบนี้ครับ

แต่ Tesla TPMS ต่างจาก TPMS ที่อยู่ในท้องตลาดอยู่มากๆ ครับ เดี๋ยวจะมาเขียนให้อ่านว่า ต่างกันยังไงนะครับ

Tesla TPMS Auto Learn

ก่อนอื่นเลย Tesla Model 3 รุ่นก่อนปี 2020 นั้นใช้ TPMS แบบ RF(Radio Frequency)ที่ความถี่ 433mhz ส่วน Tesla ทุกรุ่นหลังปี 2020 ไปนั้น ใช้แบบใหม่คือ Bluetooth ครับ ซึ่งจะได้ความถี่หรือการตอบสนองในการรับส่งค่าได้รวดเร็วกว่ารุ่นเก่าแถมประหยัดพลังงานมากกว่าครับ อย่างที่ผมได้กล่าวข้างบนไปคือ TPMS ค่ายรถต่างๆนั้นใช้งานเป็นแบบ RF (Radio Frequency) แต่เทสล่าเปลี่ยนมาใช้แบบ Bluetooth ครับ ซึ่งแบบ Bluetooth นั้นจะดีกว่า RF อยู่ 2 อย่างหลักๆคือ การตอบสนอง(รับ-ส่งสัญญาณ)จะทำได้ถี่และรวดเร็วกว่า RF, อีกหนึ่งข้อดีคือประหยัดพลังงานมากกว่าครับ

อีกข้อดีนึงที่ไม่พูดไม่ได้คือมันสามารถทำ Auto-relearn ได้เองครับ(อันนี้ Tesla Model 3 ทุกรุ่นสามารถทำได้นานแล้วนะครับ)

BREAKING NEWS:
The 2021 Model 3 has the same new Bluetooth TPMS as Model Y.
The sensors are 100% exclusive to Tesla, so when getting winter wheels make sure you get the right ones!

The good news:
Contrary to early reports they are 100% auto-learning, no pre-programming required. pic.twitter.com/2rUExua0cs
— Mad Hungarian (@IanPavelko) November 13, 2020

คือฟังชั่นนี้จะไม่ค่อยมีผลกับคนไทยมากนักเพราะส่วนใหญ่เวลาเราสลับยางรถนั้น ทางร้านขายยางจะทำการ relearn ให้เราอัตโนมัตินะครับ แต่ฟังชั่นนี้จะมีผลกับชาวฝรั่งอย่างมาก เพราะอย่างที่ผมพูดไปด้านบนคือราคา relearn TPMS ในอเมริกาอยู่ที่ $20 หรือ 660 บาท (จะต้องจ่ายต่อเมื่อคุณไม่ได้ซื้อยางจากเค้า ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว รถมือหนึ่งก็ต้องมาเสียค่าใช้จ่ายส่วนนี้ในยางเส้นแรกกันแหละครับ)

ที่มา : Tesla Club, melexis

ส่วน Tesla TPMS นั้นแตกต่างจาก TPMS เดิมสิ้นเชิงเพราะมีฟังชั่น relearn ครับ โดยก่อนหน้านี้ Tesla ไม่เคยคิดจะขายอะไหล่ตัวนี้ในเว็บของตนเอง ดังนั้นเจ้าของรถ Tesla ส่วนใหญ่ก็ไปซื้อ TPMS ของ copy เกรด A ใน internet ซึ่งขายแพงมากๆ เนื่องจาก TPMS ของ Tesla มันเป็นแบบ Bluetooth(ไม่เหมือนชาวบ้าน)และก็ต้องใช้ชิปยี่ห้อเดียวกับที่ Tesla OEM ใช้ไม่งั้นมันจะไม่ sync(เชื่อมต่อ)กันครับ

Auto-relearn = การที่สลับตำแหน่งของล้อแต่ล่ะครั้งนี้จำเป็นต้องทำการ relearn ตำแหน่งของ TPMS ใหม่นะครับ แต่ถ้ารถคันไหนมี Auto-relearn (ซึ่งมันจะอยู่ในรถแพงมากๆๆๆๆ) พอเราสลับล้อรถเสร็จ ตัว TPMS มันจะคุยกับกล่องควบคุมรถและทำการจำจด(relearn)ตำแหน่ง TPMS ใหม่ให้ทันทีครับ