Site icon Blink Drive

เปิดเผยตารางเปรียบเทียบรถยนต์ไฟฟ้าแบบ kg ต่อ kWh กันไปเลย, มาดูกันว่าคันไหนเบาหรือหนักที่สุด

รถยนต์ไฟฟ้านั้นถือว่าเป็นคลื่นลูกใหม่สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ เวลาคนทั่วไปเปรียบเทียบรถยนต์ไฟฟ้านั้นจะมองแค่ว่า รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้จะวิ่งได้ระยะทางเท่าไหร่ต่อหนึ่งรอบการชาร์จ รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้วิ่งได้ความเร็วสูงสุดเท่าไหร่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นคือน้ำหนักของรถยนต์ไฟฟ้าต่อความจุแบตเตอรี่หรือ (Electric cars weight with the battery capacity) เหมือนเวลาเราดูมวยเขาจะแบ่งรุ่นของนักมวยด้วยน้ำหนัก เช่น Heavy weight หรือ Light Heavy weight เอาล่ะครับเรามาดูตารางกันว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นไหนจะครองแชมป์น้ำหนักรถต่อความจุแบตเตอรี่ที่ดีที่สุดแบบ kg/kWh

Credit ข้อมูล : Insideevs และ Bjørn Nyland

ตารางเปรียบเทียบน้ำหนักรถกับความจุแบตทั้งหมด 72 รุ่น

จากการสำรวจข้อมูลน้ำหนักรถยนต์ไฟฟ้าต่อความจุแบตเตอรี่ของคุณ Bjorn Nyland (Youtuber เรื่องรถไฟฟ้าชื่อดังชาวนอร์เวย์ สำหรับคุณ Nyland เค้าเกิดที่ประเทศไทยครับ) โดยตารางรถยนต์ไฟฟ้าที่คุณ Nyland ได้ทำการสำรวจนั้นจะมีค่าความจุแบตเตอรี่ต่อน้ำหนักรถตั้งแต่ 22 kWh ถึง 100 kWh

mach-E มีอัตราส่วนอยู่ที่ 23.2 kg ต่อ 1 kWh

ยกตัวอย่างเช่นรถ Ford Mustang Mach-E น้ำหนักทั้งหมดของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้จะอยู่ที่ 2,300 กิโลกรัม และความจุของแบตเตอรี่จะอยู่ที่ 98.9 kWh พอเราเอาตัวเลขมาหารกันผลลัพธ์ที่ได้คือรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้จะมีน้ำหนักรถอยู่ที่ 23.2 กิโลกรัมต่อ 1 kWh ตัวเลขที่เราได้นั้นคือประสิทธิภาพต่อน้ำหนักของตัวรถแบบปอนด์ต่อปอนด์

ที่หนึ่งคือ Tesla Model S LR Raven มีอัตราส่วนอยู่ที่ 22.4 kg ต่อ 1 kWh

จากตัวเลขตามตารางนี้แชมป์ของเราจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Tesla Model S รุ่น Long Range Raven โดยตัวเลขจะอยู่ที่ 22.4 กิโลกรัมต่อ 1 kWh สำหรับค่าเฉลี่ยกลางของรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่นตัวเลขจะอยู่ที่ 30.7 กิโลกรัมต่อ 1 kWh

โดยรวมแล้วรถยนต์ไฟฟ้าที่มีผลลัพธ์ที่ดีนั้นจะมีชุดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ เช่น Ford Mustang Mach-E และใช้เซลล์แบตเตอรี่ที่มีคุณภาพสูง หากเรามองกันดีๆจะเห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้าของเทสล่าแทบจะครองแชมป์ท็อปเทนของตารางนี้ นั่นเพราะแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้าเทสล่ามี Energy Density ที่สูงกว่าคือ มีขนาดเล็กแต่มีความจุไฟฟ้าที่เท่ากันหรือมากกว่า

Tesla Model 3 SR+ MIC อัตราส่วนอยู่ที่ 31.3 kg ต่อ 1 kWh

อย่างไรก็ตามรถบางรุ่นของเทสล่านั้นก็ใช้แบตเตอรี่แบบ LFP (แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต) ของบริษัท CATL จากตารางนี้จะมีอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้คะแนนรั้งท้ายจะเป็นรุ่นที่มีแบตเตอรี่ขนาดเล็ก

อย่าง Tesla Model 3 SR+ MIC(Standard Range Plus) รุ่นผลิตจีนที่ใช้แบต LFP นั้นจะอยู่อันดับที่ 40 ซึ่งทำคะแนนได้ที่ 31.3 kg ต่อ 1 kWh

หมายเหตุ : Tesla Model 3 SR+ นั้นก็ได้วางขายในบ้านเราเช่นกัน

Tesla Model 3 Long Range อัตราส่วนอยู่ที่ 23.7 kg ต่อ 1 kWh

ส่วน Tesla Model 3 Long Range นั้นจะมีน้ำหนักสุทธิที่ 1,940 kg มาพร้อมแบต 82 kWh(รุ่นปี 2021) สามารถทำอัตราส่วนได้ที่ 23.7 kg ต่อ 1 kWh ทำให้ขว้าตำแหน่งอันดับ 5 ไปโดยปริยาย

เอาล่ะครับ ลองมาดูการเปรียบเทียบอัตราส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายกันในบ้านเราบ้างดีกว่าครับ

MG ZS EV อัตราส่วนอยู่ที่ 32.8 kg ต่อ 1 kWh

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นยอดนิยมในไทยของเรานั้นก็มีอยู่ในลิสต์นี้นั่นคือรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น MG ZS EV ซึ่งหนักประมาณ 1,630 kg โดยรถยนต์รุ่นนี้นั้นได้อันดับที่ 45 รถยนต์ไฟฟ้า MG รุ่นนี้จะใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนความจุ 50 kWh โดยตัวเลขผลลัพธ์ที่ได้คือ 32.8 kg ต่อ 1 kWh สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ถือว่าได้ผลลัพธ์ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลางที่ 30.7 kg ต่อ 1 kWh

Volvo XC40 มีอัตราส่วนอยู่ที่ 29.5 kg ต่อ 1 kWh

สำหรับอีกหนึ่งรุ่นที่มีขายในไทยนั่นคือ Volvo XC40 มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 2,300 kg สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้นั้นได้อันดับที่ 34 โดยรถรุ่นนี้มีความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 78 kWh โดยตัวเลขผลลัพธ์ที่ได้เฉลี่ยอยู่ที่ 29.5 kg ต่อ 1 kWh ถือว่าได้ตัวเลขที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลางที่ 30.7 kg ต่อ 1 kWh

Porsche Taycan มีอัตราส่วนอยู่ที่ 29.4 kg ต่อ 1 kWh

รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์หรูอีกหนึ่งยี่ห้อที่มีขายในไทยในราคาเริ่มต้นที่ 7,100,000 บาทนั่นคือ Porsche Tycan 4S โดยรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้จะได้อันดับที่อันดับที่ 33 ในตาราง ความจุแบตเตอรี่ของรถรุ่นนี้นั้นจะอยู่ที่ 79 kWh สำหรับตัวเลขผลลัพธ์ที่ได้คือ 29.4 kg ต่อ 1 kWh สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ถือว่าทำผลงานได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยกลางนิดนึงครับ

 Xpeng รุ่น G3 มีอัตราส่วนอยู่ที่ 26.2 kg ต่อ 1 kWh

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์จีนที่น่าจับตามองได้แก่ Xpeng รุ่น G3 520 โดยได้อันดับที่ 11 ในตารางนี้ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้นั้นจะมีน้ำหนักอยู่ที่1720 กิโลกรัม ความจุแบตเตอรี่จะอยู่ที่ 66.5 kWh(ใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนของ CATL) ทำให้  Xpeng รุ่น G3 มีอัตราส่วนอยู่ที่ 26.2 kg ต่อ 1 kWh

หมายเหตุ : นี่เป็นน้ำหนักรถทั้งคันเปรียบเทียบกับความจุแบต ไม่ใช่น้ำหนักของแบตเปรียบเทียบกับความจุแบต ดังนั้นอุปกรณ์ต่างๆ ของรถก็มีผลเพิ่มหรือลดน้ำหนักอัตราส่วนตัวนี้

BLINK DRIVE TAKE by Tony_Performance

ถ้าเราดูตามตารางนี้จะมีสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจนั่นคือรถยนต์ไฟฟ้าของเทสล่ายังถือว่ามีประสิทธิภาพน้ำหนักแบบ kg ต่อ kWh ที่สูงกว่ารถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้ออื่นอยู่พอสมควร แต่ห้ามประมาทนะครับเพราะว่ามีรถยี่ห้ออื่นก็เริ่มเข้ามาทำตลาดแบบจริงจังมากขึ้นทั้งแบรนด์ยุโรปและแบรนด์จีน โดยเฉพาะแบรนด์จีนนั้นมีรถไฟฟ้ารุ่นต่างๆหลุดมาในตารางนี้มากพอสมควร โดยสำหรับประเทศจีนนั้นถือว่าเป็นประเทศที่มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากที่สุดในโลกและได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลอย่างเต็มที่ โดยที่มีเทสล่าเป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับบริษัทรถยนต์สัญชาติจีนที่จะต้องก้าวข้ามผ่านไปให้ได้ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่ออนาคตรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยครับเพราะว่าถ้าประเทศไทยจะได้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเราก็น่าจะได้ใช้จากค่ายรถยนต์ไฟฟ้าของจีนนี่แหละ รอติดตามกันต่อไปครับอนาคตในไม่กี่ปีข้างหน้าเราอาจจะได้เห็นค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนได้แซงหน้ารถยนต์ไฟฟ้าของเทสล่าก็เป็นได้

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

แชร์ข่าวสารน่าสนใจมาได้ที่ THE FORTRESS

Exit mobile version