อีวาย หรือ เอินส์ทแอนด์ยัง (อังกฤษ: Ernst & Young ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น EY) เป็นหนึ่งในบริษัทตรวจสอบบัญชีสี่แห่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ออกมาทำการคาดการณ์ว่า ตลาดรถยนต์ในยุโรปจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลหลังปี 2028 นี้โดยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปจะแซงหน้ายอดขายรถยนต์น้ำมันในทวีปของตนภายในปีนั้นอีกด้วย
อีวาย ยังได้ออกมาคาดการณ์อีกว่า ภายในปี 2033 นั้น ประเทศจีนจะมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศสูงกว่ายอดขายรถยนต์น้ำมัน ส่วนในอเมริกานั้น จะเริ่มต้นใน 2036 โดยสำนักข่าว EY ยังทำการสรุปข้อมูลออกมาดังนี้
- ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าอเมริกา, จีน, และยุโรปจะแซงหน้ายอดขายรถยนต์น้ำมันภายในปี 2033
- ภายในปี 2045 ยอดขายรถยนต์น้ำมันจะเหลือต่ำกว่า 1 % ของภาครวมทั้งหมด
- ทวีปยุโรปจะเป็นผู้นำด้านยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าถึงปี 2031 หลังจากนั้นจีนฟาดเรียบตั้งแต่ 2032 ถึง 2050
COVID-19 คือตัวผลักดัน
เท่าที่เราทราบกันตอนนี้คือ หลังจากที่ COVID-19 ระบาดนั้น พฤติกรรมการซื้อรถของชาวอเมริกาและยุโรปนั้นเปลี่ยนไปสิ้นเชิงเลยครับ พวกเค้าเปลี่ยนพฤติกรรมเรื่องการทำงานเป็น WFH (Work From Home) กันเป็นส่วนใหญ่ ส่วนเด็กๆในช่วง COVID-19 นั้นก็เรียนผ่าน zoom meeting เป็นหลัก
ดังนั้นใครก็ตามที่อยู่กันเป็นครอบครัวหรือคู่(แฟนอยู่ด้วยกัน)ก็มีแนวโน้มที่จะไม่ซื้อรถยนต์มาขับเพิ่มอีกเพราะช่วงเวลาส่วนใหญ่จะต้องอยู่กับบ้าน และตอนนี้คนอเมริกาจำนวนมากแห่กันขายรถยนต์ที่ในครอบครัวไม่ได้ใช้งานออกเป็นจำนวนมากกว่าปกติ เช่น แฟนอยู่ด้วยกันแต่อีกคน WFH เป็นหลักก็เปลี่ยนจำนวนรถในบ้านจาก 2 คันเป็น 1 คัน แล้วถ้าเกิดวันไหนมีความจำเป็นต้องไปธุระพร้อมกัน ก็จะมีคนนึงที่จะหันไปเช่ารถหรือเรียก Uber แทนการมีรถยนต์ 2 คันอยู่ในบ้าน
มันจึงกลายเป็น new era(ยุคสมัยใหม่)และเป็นค่านิยมที่เกิดขึ้นมาใหม่ นักวิเคราะห์เรียกการหันมาใช้รถแบบนี้ว่า ride sharing หรือคือการที่คนหันมาใช้รถเฉพาะยามจำเป็นเท่านั้น แทนที่จะซื้อมาเพื่อขับทุกวันเหมือนแต่ก่อน และมีรายงานว่าการที่มีรถในบ้านน้อยลงทำให้รถคันนั้นต้องได้รับการใช้งานเยอะขึ้นเป็นเงาตามตัว ทำให้ประชาชนหันไปมองรถยนต์ที่มีการซ่อมบำรุงรักษาระยะยาวน้อยกว่าปกติซึ่งนั่นก็คือรถยนต์ไฟฟ้านั่นเอง
อ้างอิงจาก EY Mobility Consumer Index ที่เผยแพร่ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วรายงานโชว์ว่า 1 ใน 3 ของคนที่ยังไม่มีรถและวางแผนจะซื้อรถในอเมริกาและยุโรปนี้จะขอเลื่อนการซื้อรถออกไปอย่างต่ำ 6 เดือน (19 % วางแผนจะซื้อรถใหม่ และอีก 12 % วางแผนจะซื้อรถมือสอง) และรายงานฉบับนี้ยังบอกอีกว่า 30 % ของคนที่มีรถและยังไม่มีรถนั้นวางแผนจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าใช้แทนรถยนต์น้ำมันเป็นคนต่อไปอย่างแน่นอน
BLINK DRIVE TAKE
ผมมองว่าปี 2028 มันเร็วมากๆ นะครับ มันคืออีก 7 ปีหลังจากนี้นี่เองครับ
7 ปีนี่เร็วแค่ไหนลองดูลุงแถวบ้านก็ได้ครับ แกอยู่มา 8 ปีแล้ว เรายังไม่รู้สึกว่านานเลยครับ ^^
