ประเทศต้นกำเนิดสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดอย่างสเปนนั้นลุกขึ้นมาลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าแบบ everythings from the ground หรือเริ่มจากศูนย์ทั้งหมดครับ รัฐบาลสเปนบอกว่า พวกเค้าได้เงินทุนสนับสนุนจาก European Union recovery funds
นายกรัฐมนตรีสเปน เพโดร แซนเชส ได้ออกมากล่าวว่า รัฐบาลเตรียมสร้างงานจำนวนมหาศาลให้แก่ประชาชนในประเทศของเค้าโดยการยกเครื่องอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งประเทศ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ เช่น การผลิตแบต, การสร้างรถยนต์ไฟฟ้า, การหาผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าและการลงทุนอื่นๆ ที่สนับสนุนให้เกิดการจ้างงานในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า โดยแผนการณ์นี้จะถูกบรรจุในวาระของชาติสเปน ซึ่งเรามีเงินทุนของสมาพันธ์ EU เป็น back ให้กับเรา
“It is important for Spain to react and to anticipate this transformation in Europe’s automotive sector,”
แปล – มันเป็นเรื่องสำคัญระดับประเทศที่สเปนจะต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนถ่ายอุตสาหกรรมยานยนต์ในยุโรป
นายกรัฐมนตรีสเปน เพโดร แซนเชส เตรียมอัดฉีดเงินเข้าระบบมากกว่า 1.97 หมื่นล้านยูโรหรือ 7.6 แสนล้านบาทตั้งแต่ปี 2021 – 2023 เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมในประเทศของตัวเอง
สเปนเป็นฐานการผลิตรถอันดับ 2 ของยุโรปและอันดับ 9 ของโลก
ผมเอาตารางข้อมูลการผลิตรถยนต์ของโลก ณ ปี 2019 มากางตรงนี้เลยนะครับว่าจริงๆ แล้วสเปนนั้นผลิตรถยนต์ได้เยอะกว่าไทยครับ ไทยยังไม่ติดอันดับ Top 10 ของโลกเลยครับ ผมแปลกใจว่าทำไมผู้นำไทยถึงขาดวิสัยทัศน์และหยิ่งขนาดไม่ร่วมขบวนการเปลี่ยนถ่ายรถยนต์น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้ากับเค้าน้าาา
- จีน (ผลิต 25.72 ล้านคัน)
- อเมริกา (ผลิต 10.88 ล้านคัน)
- ญี่ปุ่น(ผลิต 9.68 ล้านคัน)
- เยอรมัน (ผลิต 4.66 ล้านคัน)
- อินเดีย (ผลิต 4.51 ล้านคัน)
- Mexico เม็กซิโก (ผลิต 3.99 ล้านคัน)
- South Korea เกาหลีใต้ (ผลิต 3.95 ล้านคัน)
- บลาซิล (ผลิต 2.94 ล้านคัน)
- สเปน (ผลิต 2.82 ล้านคัน)
- ฝรั่งเศส (ผลิต 2.20 ล้านคัน)
ที่มา : worldpopulationview
ผู้ผลิตรถยนต์ที่หนึ่งของยุโรปคือประเทศเยอรมันครับ ส่วนประเทศสเปนนั้นเป็นประเทศรองลงมา
เตรียมเงิน 5 แสนล้านบาทสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
ตอนนี้ สเปนทุ่มสุดตัวเพื่อเข้าถึงเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และประเทศของเค้านั้นกำลังแข่งกับประเทศเยอรมันและประเทศฝรั่งเศสในการหา supply chains และเปลี่ยนถ่ายเครื่องจักรอุตสาหกรรมหนักในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครับ
นายกฯ เพโดรต้องการสำรองเงินมากกว่า 1.3 หมื่นล้านยูโร(5 แสนล้านบาท) สำหรับการผลิตและพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าซึ่งเค้ามองว่ายานยนต์ไฟฟ้านั้นจะมาผลักดันเศษรฐกิจส่งออกของประเทศได้มากถึง 15 % ภายในปี 2030 จากปีนี้ที่อยู่ที่ 10% ครับ
สร้างงานเพิ่มขึ้น 140,000 ตำแหน่ง
จากโครงการที่กล่าวด้านบนมานี้ ประเทศสเปนจะเพิ่มอัตราการจ้างงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้ามากถึง 140,000 ตำแหน่งและเพิ่มตัวเลข GDP ของประเทศได้มากถึง 1- 1.7 %
รถ EV จะมีมากถึง 250,000 คันภายในปี 2023
ณ ปี 2020 นั้น ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศสเปนอยู่ที่ 18,000 คันหรือมากกว่าประเทศไทยในปีเดียวกันซึ่งมียอดขายเพียง 1,000 คันเท่านั้น ห่างชั้นกันประมาณ 18 เท่า ทั้งๆ ที่ประชากรในประเทศสเปนมีเพียง 49 ล้านคนเท่านั้น ในขณะที่ไทยมีประชากรมากกว่า 70 ล้านคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สเปนตั้งเป้าจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้ามากถึง 250,000 คันภายในปี 2023 ซึ่งถือว่าเป็นการก้าวกระโดดครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของสเปนเลยครับ ยังไงประชาชนของสเปนต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่มีสัยทัศน์ที่พยายามสนับสนุนประชาชนให้หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างรอบด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสร้างสถานีชาร์จมากมายมหาศาลและการให้เงินอุดหนุนประชาชนไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ครับ
นี่เป็นเพียงหนึ่งในแผนการณ์กู้คืนเศษรฐกิจของยุโรปที่มีการวางเงินทุนเอาไว้มากกว่า 7.5 แสนล้านยูโรปหรือ 29 ล้านล้านบาทซึ่งสเปนส่วนแบ่งเงินสนับสนุนจากเงินก้อนใหญ่ก้อนนั้นถึง 7 หมื่นล้านยูโรหรือ 2.7 ล้านล้านบาทโดย EU จะให้สเปนนำเงินนี้มาหมุนใช้จนถึงปี 2026 นี้เพื่อช่วยเหลือเศษรฐกิจที่มีผลกระทบมาจาก COVID-19 นะครับ
SEAT เตรียมนำทัพสร้างรถยนต์ไฟฟ้า
SEAT นั้นเป็นบริษัทสัญชาติสเปนที่อยู่ภายใต้ร่มของบริษัท Volkswagen ซึ่งพวกเราก็รู้กันดีว่า Volkswagen ไม่เอาหรือพัฒนารถยนต์สันดาบอีกแล้ว (อ้างอิง video : Power Day ของ Volkswagen)
โปรเจการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารวมไปถึงโรงงานผลิตแบตเตอรี่ของ SEAT นั้นจะถูกตั้งอยู่นอกเขตเมืองบาร์เซโลน่าทั้งหมดครับ
ที่มา : Yahoo
BLINK DRIVE TAKE
เมื่อไหร่ไทยจะเลิกหยิ่งและหันหน้ามาดูความเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ซักทีครับว่าเค้าเดินหน้าไปทางรถยนต์ไฟฟ้า 100% ไม่ใช่ รถยนต์น้ำมัน Hybrid ครับ
การไม่เริ่มลงทุนในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าในวันนี้ก็เหมือนกับเรากำลังเดินก้าวถอยหลังอยู่แหละครับ ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกเค้าไม่ได้มารอเรานะครับ แบบว่าให้ลุงส่งจดหมายไป Lobby ว่าเลื่อนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกไปก่อนแล้วพวกเค้าจะเชื่อเรา? 55+ ฝันไปเถอะครับ
เราต้องเดินตามพวกเค้าได้แล้วครับ ประเทศ Top 10 ที่เป็นมหาอำนาจของโลกในการผลิตรถยนต์ที่ผมกล่าวมานั้น ไม่มีประเทศไหนเลยที่มีนโยบายรังแกอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่ดึงค่ายรถยนต์ไฟฟ้ามาผลิตในประเทศของตนครับ เดี๋ยวผมเอารายชื่อประเทศมาเรียงตรงนี้พร้อมกับบอกค่ายรถยนต์ที่หันหน้าไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้านะครับ
- จีน (ผลิต 25.72 ล้านคัน) ก็มี Xpeng, Nio, และ Tesla พร้อมกับ ORA, MG, Wuling, GM และค่ายรถยนต์อื่นๆ อีกมากมาย
- อเมริกา (ผลิต 10.88 ล้านคัน) ก็มี Ford, Chevrolet, Cadillac, GMC Hummer, Tesla, Harley Davison(ฮาร์เล่ห์), Dodge, Jeep, และค่ายรถยนต์ทุกค่ายในประเทศ
- ญี่ปุ่น(ผลิต 9.68 ล้านคัน) ก็มี Mazda, Nissan, Honda, หรือแม้กระทั่ง Tesla Model 3 ก็ยังขายเพียงแค่ 1.6 ล้านบาทในประเทศเค้าเลยครับ
- เยอรมัน (ผลิต 4.66 ล้านคัน)ก็มี Benz, BMW, Volkswagen, Diamler, Audi, Porsche, และค่ายอื่นๆ อีกมากมาย
- อินเดีย (ผลิต 4.51 ล้านคัน) ก็มี TATA, Mahindra, และค่ายอินเดียอื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึง Tesla กำลังสร้าง R&D ที่เมืองบังกาลออีกด้วย
- Mexico เม็กซิโก (ผลิต 3.99 ล้านคัน) ก็มี Volkswagen, Ford, และค่ายอื่นๆ อ่อ Tesla Model 3 ในประเทศนี้ราคาเดียวกันกับอเมริกาครับ
- South Korea เกาหลีใต้ (ผลิต 3.95 ล้านคัน) ก็มี Kia, Hyundai, Benz(ได้ EQC ไปผลิต), และค่ายอื่นๆ อีกมากมาย ประเทศนี้ขาย Tesla Model 3 คันล่ะ 1.4 ล้านบาทครับ
- บลาซิล (ผลิต 2.94 ล้านคัน) ก็มี BYD
- สเปน (ผลิต 2.82 ล้านคัน) ก็มี SEAT
- ฝรั่งเศส (ผลิต 2.20 ล้านคัน) ก็มี Renault
ค่ายรถยนต์ทุกค่ายที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนั้นผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศนั้นๆ ครับ ถึงเวลาที่ไทยจะสังคายนานโยบายต่างๆใน BOI เพื่อต้อนรับนักลงทุนต่างชาติที่อยากผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้หรือยังครับ? ผมถามลุงนะครับ ลุงช่วยประเทศพ้นโควิดเมื่อไหร่ ลุงช่วยมาอ่านโพสนี้อีกรอบด้วยนะครับ