ก่อนอื่นผมขอท้าวความกันก่อนว่า Tesla นั้นติดตั้ง Gigapress ไปทั่วโลกเลยไม่ว่าจะเป็น
- Fremont อเมริกา
ฝั่งอเมริกานั้นติดตั้ง Giga Press ทั้งหมด 2 เครื่องครับ เครื่องแรกติดตั้งไปตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 ตอนนี้ยังใช้งานแบบ trail (ทดลอง)อยู่ครับ ส่วนเครื่องที่สองฝั่งติดตั้งเสร็จเมื่อปลายปี 2563 ที่ผ่านมาครับเตรียมเปิดใช้งานพร้อมกันเร็วๆ นี้


2. เบอร์ลิน , ประเทศเยอรมัน.
ฝั่งเยอรมันสั่งไปใช้ถึง 8 เครื่องนะครับ โดย 2 เครื่องแรกนั้นจะถูกติดตั้งภายในต้นปีนี้ (2021) ซึ่งจะเอามาผลิตตัวถังรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model Y เท่านั้น ส่วนอีก 6 เครื่องที่เหลือมาสร้าง part ของรถยนต์ไฟฟ้า(Tesla ยังไม่เปิดเผยว่ารุ่นไหนหรืออะไร)

3. เซี่ยงไฮ้, ประเทศจีน
ประเทศจีนได้ติดตั้งเครื่องจักร Giga Press จำนวน 2 เครื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ

4. เท็กซัส, ประเทศอเมริกา
ณ วันที่ 23/01/2021 นี้ เครื่องจักร GigaPress ได้เดินทางมาถึง Gigafactory Texas แล้วครับ และทางโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Gigafactory ได้สร้างฐานสำหรับติดตั้งเครื่อง Giga Press เสร็จแล้วเช่นกันครับ



ส่วนสาเหตุหลักในการสร้าง Casting (หล่อโครงรถ) ด้านหลังและด้านหน้าด้วยเหล็กเพียงชิ้นเดียวนั้นจะทำให้ประหยัดต้นทุนการผลิตได้อย่างมหาศาลเลยครับ เพราะมันจะลดต้นทุนเรื่องเวลาและกำลังคนออกไปอย่างมาก
Giga Press
เทสล่านั้นฉีกกฏการประกอบรถยนต์ทิ้งแบบไม่เหลือเค้าเดิมเลยครับ โดย Tesla เอา station ที่วกไปวนมาในโรงงานมากกว่า 20-30 station (สถานีการประกอบรถยนต์)มารวมกันเหลือแค่ 1 station ถ้วนเท่านั้น ดังนั้นลดการใช้ robot arm ในหลาย station ลง แถมลดพื้นที่และเวลาในการประกอบลงไปแบบสิ้นเชิงเลยครับ ลองคิดดูว่ากว่ารถคันนึงจะออกมาจากสายพานได้ต้องไหลผ่านขั้นตอนมากกว่า 20-30 ขั้นตอนใช่ไหมครับ ถ้าเราสามารถจำกัดเหลือเพียง 1 station และใช้ robot arm เท่ากับ 2-3 station (จาก 20-30 station) จะประหยัดการผลิตไปมากเพียงใดครับ

ส่วนนี่คือบทสัมภาษณ์จาก อีลอน มัคส์เกี่ยวกับเครื่อง Multi-directional casting machine ครับ
“When we get the big casting machine, it’ll go from 70 parts to 1 with a significant reduction in capital expenditure on all the robots to put those parts together.”
Elon Musk
(แปล) หลังจากที่เราได้เครื่อง Casting มหึมาตัวนี้มาแล้ว มันจะลดงานจาก 70 ชิ้นเหลือเพียง 1 ชิ้นถ้วนเท่านั้น นี่ก็แปลว่า เราสามารถลดต้นทุนในการผลิตได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว

แต่ถ้าอย่างไรนั้นที่ผ่านมา Tesla ก็ทำได้เพียง Casting (หล่อโลหะ) โครงรถ Tesla Model Y เฉพาะด้านหลังเพียงเท่านั้นครับ
ภาพจาก 70 ชิ้นเหลือ 1 ชิ้น
ภาพทางด้านซ้ายคือโครงรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ที่ใช้ชิ้นส่วน 70 ชิ้นในการประกอบขึ้นมาครับ ส่วนภาพทางด้านขวาคือภาพโครงรถ Tesla Model Y ที่ใช้การประกอบแบบ Giga Press คือรวบเป็น 1 ชิ้นครับ

ถ้าดูจากภาพด้านบนดีๆ การผลิต 1 ชิ้นจะให้ความแข็งแกร่งมากกว่าเพราะเครื่องจักรสามารถสร้างโครงสร้างเสริมเข้าไปอย่างเห็นได้ชัดเลยนะครับ

Casting โครงรถด้านหน้า
มารอบนี้ภาพโครงรถด้านหน้าของ Tesla Model Y นั้นไปโผล่ที่ Giga Texas เฉยเลย

ถ้าพวกเราดูตามรูปภาพด้านล่างนั้นจะเห็นว่า Tesla สามารถ casting โครงรถด้านหน้าได้ทั้งอันแล้วครับ

อ้างอิงจากภาพด้านบนนี้ Tesla ได้ให้กำเนิด (obstectricians) โครงรถ Tesla Model Y ด้านหน้าที่มีน้ำหนักขนาด 130 kg จากเครื่อง Gigapress ของบริษัท IDRA เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
ที่มา : driveteslacanada
BLINK DRIVE TAKE
ใกล้วันสูญพันธ์รถยนต์น้ำมันในฝั่งทวีปยุโรปเต็มทีแล้วนะครับ เพราะว่าการผลิตโครงรถรูปแบบใหม่นี้จะลดต้นทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model Y ไปได้ถึง 10 % และจะสร้างตัวถังที่เบาขึ้นกว่าเดิมเพื่อให้รถวิ่งได้ไกลขึ้นกว่าเดิมถึง 14 % จากการชาร์จ 1 ครั้ง และใช้ชิ้นส่วนน้อยลงไปอีก 370 ชิ้นครับ

อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียง 1 ใน 5 แผนการณ์ของอีลอนเท่านั้นครับ จะเห็นได้ว่า Body (ตัวถัง)นั้นลดต้นทุนไปได้เพียง 7 % ของต้นทุนทั้งหมดเท่านั้นเอง สิ่งสำคัญคือการผลิตแบตครับซึ่งโดยรวมนั้น Tesla ตั้งเป้าจะลดตั้งทุนการผลิตมากถึง 56 % หรือเรียกได้ว่าอีก 3-4 ปีข้างหน้า เราอาจจะได้เห็น Tesla Model Y ราคาเท่า Toyota Altis ที่อเมริกา, เกาหลีใต้, จีน, ยุโรปทุกประเทศ และเหมือนเดิมครับยกเว้นไทยเพราะไทยเรามีกำแพงภาษีที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเพื่อปกป้องคนไทยใช้รถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพดีแบบนี้จากต่างประเทศ

ในความคิดส่วนตัวของผม ผมมองว่ารถยนต์ไฟฟ้าไม่สามารถฆ่ารถยนต์น้ำมันได้หมด 100% ครับ เพราะยังมีหลายคนที่ชื่นชมความเป็นรถยนต์น้ำมันอยู่อีกเยอะ ดังนั้นทำไมรัฐบาลถึงหน้าด้านสร้างกำแพงภาษี200%มารังแกประชาชนที่เป็นผู้ซื้อในประเทศครับ เพราะต่อให้ปลดกำแพงภาษีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าลงจริงๆ คนทั้งประเทศก็ไม่ได้หันไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแน่นอนครับ
ปล. ผมได้คุยกับผู้ประกอบการถยนต์น้ำมันในไทยแล้ว เค้าบอกว่า “ประเทศที่ไม่สามารถสร้าง Infrastructure มารองรับรถไฟฟ้าได้มีมากมายในโลกนี้ครับ หลายๆประเทศในยุโรปหรือแม้แต่อเมริกากับจีนเองก็ยังไม่สามารถที่จะทำได้เพราะประเทศเค้าใหญ่มากๆ รถ ICE ยังจะอยู่กับเราอีกนานเกิน 5 ปีแน่นอน”

ผมก็เห็นด้วยกับเค้าอย่างยิ่งครับ ดังนั้นพวกเราควรปลดกำแพงภาษี 200% ออกเสียทีเพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น คนที่อยากใช้รถยนต์ไฟฟ้าใจจะขาดก็จะได้เข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าในราคาเหมือนประเทศต่างๆ ทั่วโลกเสียทีครับ
ส่วนคนที่อยากใช้รถยนต์น้ำมัน(ผมเชื่อว่ามีอยู่เยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ) เค้าไม่เปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าภายใน 5 ปีนี้อย่างแน่นอนครับ
แปลไทยเป็นไทยนะครับ : ไม่มีทางที่คนไทยจะหันไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ทั้งประเทศภายใน 5 ปีนี้อย่างแน่นอน ต่อให้ปลดกำแพงภาษี 200 % แล้วก็ตามครับ รถยนต์ไฟฟ้ามันเป็นแค่น้ำจิ้มของยานยนต์ในไทย เลิกกลัวรถยนต์ไฟฟ้าแล้วพยายามเข้าใจหัวอกประชาชนเถอะครับ
รัฐบาลจะไปกลัวอะไรครับ สร้าง SandBox ให้กับ SME ไทยได้เดินหน่อยเถอะครับ การมาของรถยนต์ไฟฟ้าในต่างประเทศสร้างงานให้คนหลักพันครับ
ถ้าวันนี้รัฐบาลไม่สร้างงานใหม่ๆ ให้กับเด็กที่เพิ่งจบใหม่และมีศักยภาพเหล่านี้ ระวังเด็กเก่งๆ เหล่านี้จะย้ายประเทศหนีพวกคุณไปนะครับ เพราะเค้ามีความสามารถแต่ไม่มีสนามให้เค้าได้ฝึก, ได้ทำงานกัน เค้าก็ต้องเอาความสามารถไปขายให้กับประเทศเพื่อนบ้านเราอย่างสิงคโปร์, มาเลเซีย, จีน, เวียดนามสิครับ – ลองไปชั่งน้ำหนักดูนะครับ
แต่ผมบอกได้เลยว่าผมเชื่อลูกเพจผมว่าการมาของรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป, จีน,และอเมริกาภายใน 5 ปีนี้เป็นการเปลี่ยนถ่าย(แบบรุนแรง)แค่นั้น ซึ่งรัฐบาลแต่ล่ะประเทศทั่วโลกเค้าสร้างสะพานในการเปลี่ยนถ่ายเอาไว้แล้วเช่น ใครอยากค้ารถยนต์น้ำมัน รัฐบาลก็ไม่ได้คัดค้านแต่แค่ออกกฏหมายมาแบนหลังจากนี้ 15-20 ปีเท่านั้นเอง ส่วนธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าแต่ล่ะประเทศสนับสนุนกันอย่างบ้าคลั่งเท่านั้นเองครับ ไทยเราไม่เพียงไม่สนับสนุนแต่ไม่มีการเปิดรับต่างชาติอย่าง ฮุนได, เกีย, เทสล่า, เบ็นซ์, และยี่ห้ออื่นๆให้มาผลิตในประเทศเลยครับ
ผมอยากให้ยกเลิกกำแพงภาษี 200 % เสียทีเพื่อให้คนที่อยากซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในราคาเทียบเท่าต่างประเทศ(มากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก)จะได้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าและเลิกด่ารัฐบาลเสียทีครับ
เป็นกำลังใจให้ลุงตู่นะครับ
กินปลาเยอะ ๆ หน่อยนะลุง