ก่อนอื่นเลยผมขอเอาประวัติของ Marques Brownlee (มาร์เกซ บราวน์ลี) หรือ MKBHD มาวางเอาไว้ตรงนี้ก่อนนะครับ
มาร์เกซเป็นยูทูปเบอร์ชาวอเมริกาที่มีผู้ติดตามมากกว่า 14 ล้านคนทั่วโลก เค้าเกิดปี 2536 หรืออายุเพียง 28 ปีเท่านั้นเอง เค้าเข้ามาวงการยูทูปครั้งแรกในปี 2551 หรือเมื่อ 13 ปีที่แล้วส่วนคลิปด้านล่างนี้เป็นคลิปแรกที่เค้ารีวิวรีโมตของโน๊ตบุ๊ค HP รุ่น Pavilion dv7t ณ ปี 2552 ครับ
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เค้าดังมากๆ ในสายเทคโนโลยีก็เพราะเค้าได้รีวิวอุปกรณ์คอมพิวเตอร์, มือถือและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ไปทั่วครับ โดย Vic Gundotra ซึ่งเป็นผู้อาวุโสแผนก social ใน Google ได้ยกตำแหน่ง สุดยอดนักรีวิวเทคโนโลยีบนโลกใบนี้ (“the best technology reviewer on the planet right now”) ให้กับมาร์เกซอีกด้วยครับ
ส่วนตัวผมนั้นเคยเห็นมาร์เกซผ่านๆ ใน youtube หลายครั้งแต่มาสะดุดกับชื่อเสียงเค้าตอนที่เค้าได้ไปสัมภาษณ์อีลอน มัคส์ถึงในโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla กันเลยครับ
ซึ่งเค้าก็ยังได้ครอบครอง Tesla Model S เอาไว้อีกด้วยครับ ดังนั้นเรียกได้ว่าเค้าเป็นเจ้าพ่อรีวิวเทคโนโลยีของโลกใบนี้ก็ได้ครับ
สเปค Mercedes Benz EQS
ก่อนจะเข้าเรื่อง “มาร์เกซรีวิว Benz EQS” นั้นผมขอเอาสเปครถยนต์ไฟฟ้า Mercedes Benz EQS มาวางเอาไว้ตรงนี้ก่อนนะครับ
EQS มี 2 รุ่นให้เลือก
เบ็นซ์เตรียมปล่อย EQS ทั้งหมด 2 รุ่นหลักคือ รุ่น standard ซึ่งจะทำการขายในปีหน้า(2021) และรุ่น AMG (เตรียมวางขายในปี 2022) โดยหลักๆ แล้วเบ็นซ์พยายามคงความหรูหราภายในและภายนอกให้แก่พวก EQS ทั้งหมด แม้กระทั้งตัว EQS AMG นั้นก็มีอัตราเร่งที่เต่าพอสมควร (0-100 km/h ภายใน 4.2 วินาที)ซึ่งช้ากว่า Tesla Model 3, Tesla Model S, และ Porsche Taycan ทั้งหมด ดังนั้นสิ่งที่เบ็นซ์จะสามารถเล่นได้คือความหรูหราภายในและเอกลักษณ์ของเบ็นซ์ครับ
โดยตัว EQS นั้นจะมาทดแทนไลน์การผลิตรถยนต์ Mercedes Benz รุ่น S-Class ภายในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย
- Standard : ความแรง 469 แรงม้า
- AMG : ความแรง 600 แรงม้า
สเปคเมอซิเดส เบนซ์ EQS AMG
- อัตราเร่ง 0-100 km/h : 4.2 วินาที
- แรงขับเคลื่อน : 600 แรงม้า
- แรงบิด 900 Nm
- ความเร็วสูงสุด (Top speed) : N/A
- แบตเตอร์รี่ : 100 kWh Li-ion
- Range(ระยะทางที่วิ่งได้) : 700 km(435 miles) WLTP range
- ขับเคลื่อน 4 ล้อ : Dual Motor(มอเตอร์คู่)
มาร์เกซรีวิว Benz EQS
จริงๆ มาร์เกซชอบ Benz EQS มากๆ นะครับ เค้าบอกว่า ฟังชั่นต่างๆ ที่ไม่เคยเห็นในชีวิตก็ได้มาเห็นในรถคันนี้ไม่ว่าจะเป็นเบาะระบายอากาศ(ventilated seat)ซึ่งเค้าบอกว่าเป็นเบาะที่ระบบอากาศได้ดีที่สุดตั้งแต่เค้าเคยรีวิวรถมาเลยครับ แถมเบาะนั่งหน้าทั้งสองเบาะนั้นมาพร้อมระบบนวด (Massage Seat)ซึ่งให้ความหรูหราได้ดีเลยครับ
การตั้งค่าความสว่างในรถที่สามารถเลือกตำแหน่งภายในรถได้เลย, และระบบ wireless charging มือถือของรถที่ให้มาสำหรับคนนั่งเบาะหลัง เรียกได้ว่ารถ Mercedes Benz EQS คันนี้ตอบโจทย์เรื่องความสบายและหรูหราให้กับผู้ซื้อได้อย่างดีเลยครับ
แม้กระทั่งจอด้านหน้ารถที่ให้มาถึง 55 นิ้วนั้น นายมาร์เก๊ซก็บอกว่าไม่มีรถคันไหนในโลก(ตอนนี้)ที่ให้จอใหญ่ขนาดนี้ติดมากับรถครับ โดยจอ 55 นิ้วตัวนี้ถูกแบ่งออกเป็นจอ touch screen(จอสัมผัส)ทั้งหมด 3 จอด้วยกัน
แล้วพี่แกเซ็งอะไรบ้าง?
อย่างที่รู้ๆคือเฮียมาร์เก๊ซเป็นนักรีวิวสายซื่อสัตย์และจริงใจกับคนดูมากที่สุดคนนึงในยูทูปเลยครับ ดังนั้น product ไหนทำออกมาดีแกก็ชมเหมือนอย่างข้อมูลด้านบนนี่แหละครับ
แต่ถ้า product ไหนมีข้อเสียหรือสิ่งที่ต้องปรับปรุงพี่แกก็ใส่ไม่ยั้งเช่นกันครับ
โดยกระทู้นี้ของผมจะเจาะลึกเพียงเรื่องเดียวคือเรื่อง Tablet ที่ Benz แถมมาให้กับ Mercedes Benz EQS นะครับ ส่วนข้อเสียอื่นๆ เช่น interface หน่วงมากๆ, หรือ หน้าตา UI (User Interface) เหมือน Window media player ปี 2000 เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้ผมขอข้ามนะเพราะมันจะกลายเป็นเรียงความมากกว่ากระทู้สั้นๆครับ ^_^
เอา Samsung Tab 4 ปี 2014 มาใช้กับรถปี 2022?
นายมาร์เก๊ซก็ขอออกตัวก่อนว่าเค้าไม่ใช่นักรีวิวรถหรูและเค้าก็ไม่เคยขับรถหรูอย่าง Benz S Class มาก่อนในชีวิตดังนั้นข้อมูลเรื่องความหรูหราในรถนั้นเค้าคงเอาข้อมูลจากรถหรูค่ายอื่นๆ บนโลกมารีวิวเปรียบเทียบกันไม่ได้หรอก
ผมไม่รู้หรอกว่ารถคันนี้หรูแค่ไหน (เพราะนี่เป็นรถหรูคันแรกในชีวิตที่ผมเคยมารีวิว) แต่เวลาผมเจออะไรที่เป็นของ IT บนโลก ผมสามารถเข้าถึง(หยั่งรู้)มันได้ทันที สิ่งที่คุณเห็นอยู่นี่คือ Samsung Tablet ที่อยู่ตรงการ console เบาะหลังโดย tablet ตัวนี้มีหน้าที่ควบคุมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บนรถเช่น เพลง, อุณหภูมิภายในห้องโดยสาร, และฟีเจอร์อื่นๆ เป็นต้น ดังนั้นวินาทีแรกที่ผมจับ tablet ตัวนี้ขึ้นมา ผมก็สามารถรับรู้ได้ทันทีว่านี่มันเป็น Samsung Tablet Tab 4 ปี 2014 นิ สิ่งที่ผมเห็นคือ เค้าก็ทำการเปลี่ยน housing (ลำตัวของ Tablet) เพื่อให้ tablet สามารถวางตรงคอลโซนกลางได้พอดีเป๊ะ แต่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าคันล่ะ 3 ล้านบาท($100,000) นั้น ผมว่า พวกคุณน่าจะทำได้ดีกว่านี้หน่อยนะ เช่น เปลี่ยนเป็น ipad Mini หรือ Tablet รุ่นอื่นที่ไม่ได้มาจากปี 2014(คือแกบอกประมาณว่าเอา Tablet อายุ 7 ปีมาใส่ในรถยนต์คันล่ะ 3 ล้านบาทได้ยังไงนะครับ)
นายมาร์เก๊ซกล่าวเอาไว้ ณ นาทีที่ 7:55
สเปค Samsung Tablet Tab 4
- ขนาด: 107.9 × 186.9 × 9 มม.
- น้ำหนัก 276 กรัม
- เปิดตัวครั้งแรก 4 เมษายน 2014 (สยามโฟนฯ)
- สถานะ มีวางจำหน่ายในประเทศไทย
- วางจำหน่าย ไตรมาสที่ 1 ปี 2015 (มีนาคม 58)
- ราคาเปิดตัว 6,990 บาท (มีนาคม 58)
- เทคโนโลยีการรับ/ส่งข้อมูล
- 2G: EDGE/GPRS
- 3G: HSPA+ 42 Mbps HSUPA 5.76 Mbps
- 4G: LTE DL 150 Mbps, LTE UL 50 Mbps
- ระบบปฏิบัติการ: Android 4.4 (KitKat)
- หน่วยความจำ 16 GB (ตัวเครื่อง)
- RAM 1.5GB
- ROM 0KB : UFS 0
- การ์ดหน่วยความจำ – microSD สูงสุด 64 GB
- แบตเตอรี่ Li-ion 4,450 mAh (Standard Battery)
ที่มา : siamphone
BLINK DRIVE TAKE
ผมก็เห็นด้วยกับมาร์เก๊ซนะครับ ผมคิดว่ารถคันนี้อาจจะเป็น prototype (หรือป่าว) ถ้าวันที่ขายจริง เรื่อง Tablet ควรจะนำออกไปหรือเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่กว่าหน่อยนะครับ