Tesla สามารถทำกำไรได้มากที่สุดในประวัติการณ์ตั้งแต่เปิดบริษัทมาเลย ณ วันปิดรอบไตรมาสแรก (วันจันทร์ที่ 26 เมษายน 2564) ที่ผ่านมา โดยบริษัท Tesla ออกมาเปิดเผยกับสาธารณะชนว่าเค้าได้ทำการขาย Bitcoin เป็นจำนวน 101 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 3,030 ล้านบาทซึ่งปริมาณที่น้อยมากๆ ถ้าเทียบกับจำนวน BTC ที่ Tesla ถือเอาไว้
ทาง Tesla ได้ออกมาเปิดเผยว่า บริษัท Tesla ได้ทำกำไรสูงสุดในประวัติการณ์ที่ 438 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 1.3 หมื่นล้านบาทซึ่งกำไร 101 ล้านเหรียญหรือ 3,030 ล้านบาทในจำนวนนั้นมาจาก Bitcoin
ขาย BTC ไปกี่เปอร์เซ็นต์ของ port
ผมจะลองคำนวณคร่าวๆ จากข้อมูลการซื้อ-ขาย BTC ของ Tesla จากสำนักข่าว CBNC นะครับ
อย่างที่รู้กันว่าในเดือนมกราคม 2021 ที่ผ่านมานั้น Tesla ได้ทำการเข้าซื้อ Bitcoin เป็นจำนวนเงิน 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 4.5 หมื่นล้านบาทซึ่งตอนนั้น Bitcoin มีราคาอยู่เพียง $38,000 หรือ 1.2 ล้านบาทต่อ 1 BTC ดังนั้น Tesla น่าจะซื้อ BTC ไปได้ประมาณ 40,000 BTC
ตอนนี้ Tesla ได้เอา BTC ออกมาขายเพียง $101 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งราคา BTC ช่วงที่ Tesla ประกาศขายนั้นจะอยู่แถวๆ $55,000 – $60,000 ต่อ BTC ดังนั้นเชื่อว่า Tesla ขาย BTC ไปเพียง 1,600 – 1,700 BTC หรือเพียง 4.25 % ของ port เท่านั้นเองครับ
ใครเป็นคนคิดเรื่องซื้อ BTC ของ Tesla?
จริงๆ แล้วคนที่เป็นกุนซือให้กับอีลอน มัคส์ในการซื้อ BTC เข้ามาเก็บเป็นทรัพย์สินแทนเงินตรานั่นก็คือ คุณ Zachary Kirkhorn ซึ่งเป็น CFO (chief financial officer) ของบริษัท Tesla ครับ โดยเค้าเคยบอกกับทาง CBNC ว่า “Elon and I were looking for a place to store cash”
“Elon and I were looking for a place to store cash”
(แปล) อีลอนและผมพยายามหาที่พักเงินมาซักพักแล้ว…
คุณ Zachary Kirkhorn
สุดท้ายแล้ว พวกเค้าสองคนก็มาลงเอยกันที่ Bitcoin ก็เพราะว่า คุณ Zachary Kirkhorn ให้ความเห็นว่า
“Bitcoin has proved to be a good decision, a good place to put some of our cash that’s not being used for daily operations…and be able to get some return on that.” Kirkhorn added that while they were pleased with the liquidity of the bitcoin market, “It is our intent to hold long-term.”
แปล – Bitcoin นั้นเป็นการลงทุนที่ดีอันนึงที่พวกเราพบเจอกันเลย เราสามารถเอากระแสเงินสดที่เราไม่ได้รีบใช้นั้นไปเก็บเอาไว้ใน Bitcoin และถ้าต้องการใช้เมื่อไหร่ก็ดึงมาใช้ได้เสมอ ซึ่งถ้ามองกันระยะยาวแล้วพวกเราวางแผนจะลงทุนระยะยาวใน Bitcoin กันเลย(สาย hold)
คุณ Zachary Kirkhorn
ที่มา : CBNC
ยอดขายรถก็ไม่ได้ขี้เหร่นะ
เดี๋ยวทุกคนจะหลงประเด็นกันไปใหญ่นะครับ เทสล่าขายรถยนต์ไฟฟ้าเช่นกันครับ โดยยอดขายไตรมาสแรกที่ผ่านมานั้นไม่ได้ขี้เหร่เลยครับ
อ้างอิงจากข้อมูลเว็บ cleantechnica Tesla สามารถส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 และ Model Y ได้มากถึง 182,780 คันและส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า Model S และ Model X ได้เพียง 2,020 คันในไตรมาสแรก(มกราคม – มีนาคม 2564)
Production | Deliveries | Subject to operating lease accounting | |
Model S/X | – | 2,020 | 6% |
Model 3/Y | 180,338 | 182,780 | 7% |
Total | 180,338 | 184,800 | 7% |
การส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าในไตรมาสแรกของปีนี้ยังเป็นการตอกย้ำว่าคนหันมาสนใจรถยนต์ไฟฟ้ากันมากยิ่งขึ้นเพราะว่ายอดส่งมอบนั้นทำลายสถิติในทุกๆ ไตรมาสที่ผ่านมาและจะเห็นได้ว่าทุกๆ ไตรมาสแรกของปีนั้นยอดส่งมอบของ Tesla มักจะแผ่วลงแต่มาปีนี้กลับเยอะกว่าไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 ซึ่งนั่นก็แปลว่า Tesla หาทางผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model Y ให้ทันส่งมอบลูกค้าต่างๆ ในจีนทำให้ยอดการส่งมอบนั้นสูงขึ้นมาอย่างสังเกตุได้ชัด
ที่มา : เทสล่าส่งมอบรถไตรมาสแรก 2564 ที่ 184,000 คัน, สูงสุดในประวัติศาสตร์การส่งมอบของ Tesla
BLINK DRIVE TAKE
นี่เป็นครั้งแรกของโลกเลยนะครับที่เห็นบริษัทผลิตรถยนต์(ไฟฟ้า)หันมาถือทรัพย์สินอื่นนอกจากเงินตราและที่ดินครับ ดีไม่ดี หลังจากปีนี้เป็นต้นไป เราอาจจะเห็นค่ายรถยนต์ค่ายอื่นๆ บนโลกนี้หันมาถือ BTC แทนการถือเงินสดเหมือนค่ายรถยนต์ไฟฟ้า Tesla นี่ก็เป็นได้แหละครับ