[ข่าวแปลจาก InsideEV] อ้างอิงข้อมูลจาก Automotive News แล้ว ตอนนี้โตโยต้าพยายามล๊อบบี้ให้นักร่างกฏหมายในอเมริกา (U.S. Lawmakers] ร่างนโยบายสนับสนุนเทคโนโลยีรูปแบบใหม่(อ้างโดยโตโยต้า)ซึ่งเค้าบอกว่า รักษ์สิ่งแวดล้อมไม่ต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งเทคโนโลยีนั้นไม่ใช่รถยนต์ไฟฟ้า
ตอนนี้ ในอเมริกานั้น ทางโตโยต้าพยายามอย่างยิ่งในการให้บริษัทพัฒนารถยนต์ค่ายต่างๆ หันไปพัฒนาระบบ Hybrid แทนรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อลดมลพิษบนท้องถนน
อย่างไรก็ตาม ทาง InsideEV รายงานว่าโตโยต้าพยายามให้รัฐบาลเลื่อนการพิจารณาการเปลี่ยนถ่ายรถยนต์น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้า และหันมาเปลี่ยนถ่ายเป็นรถยนต์น้ำมัน Hybrid และรถยนต์พลังงาน Hydrogen แทน
แต่ทางอเมริกามองว่าการเปลี่ยนถ่ายจากรถยนต์น้ำมันธรรมดาเป็นรถยนต์น้ำมัน Hybrid นั้นไม่ใช่การเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยีไปเพื่อประชาชนของเค้าอย่างแท้จริง แต่กลับกลายเป็นว่าเป็นการทำให้ทุกอย่างยิ่งแย่ลงกว่าเดิมเสียมากกว่า
มีรายงานเข้ามาว่า โตโยต้าได้ยื่นเรื่องคุยกับคณะวุฒิสภาของสหรัฐ(U.S. Senate committee) ในเรื่องพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติเรียบร้อยแล้ว
คุณ Robert Wimmer ซึ่งดำรงตำแหน่ง หัวหน้าวิจัยเพื่อพลังงานและสิ่งแวดล้อมบริษัทโตโยต้าฝั่งอเมริกาเป็นคนยื่นเรื่องนี้เองว่า
พวกเรายอมรับว่านี่เป็นยุคของรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว — แต่เราต้องมองให้ออกว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นไม่ใช่คำตอบอย่างแน่นอน
การเปลี่ยนถ่ายเป็นรถยนต์ไฟฟ้านั้นจะทำให้บริษัทผลิตรถยนต์ต้องแบกรับการผลิตชิ้นส่วนอื่นๆ ที่ไม่ใช่ชิ้นส่วนของรถยนต์น้ำมันเพิ่มขึ้นมา ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยใช่เหตุ ดังนั้นทางรอดของ OEMs ต่างๆ คือการผลิตรถยนต์หลากหลายรูปแบบที่สามารถลดปริมาณการปล่อยควันพิษได้และยังใช้เครื่องยนต์อยู่ เพราะลูกค้าของเราหลายคนยังติดใจการใช้งาน ICE Car (internal combustion vehicle) กันอยู่เลย
Robert Wimmer หัวหน้าวิจัยเพื่อพลังงานและสิ่งแวดล้อมบริษัทโตโยต้าฝั่งอเมริกา
ในขณะที่ Ford, General Motors, Volkswagen, Volvo, Porsche, Audi, BMW, Benz, Diamler, และค่ายอื่นๆ ได้หันหลังให้กับเทคโนโลยีเครื่องยนต์หรือรถยนต์น้ำมันแล้ว หรือจะเรียกได้ว่าเค้าวางแผนหยุดการผลิตรถยนต์น้ำมันกันเร็วๆ นี้แล้ว
แถมบริษัทเหล่านี้ยังมุ่งหน้าพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าลูกเดียวอีกด้วย ทำให้เราต้องมาคิดกันอีกทีครับว่า โตโยต้านั้นจะทำยังไงกับเกมส์ๆ นี้
อเมริกาตั้งข้อสงสัยว่าโตโยต้าพยายามขายรถยนต์น้ำมัน Hybrid มา 10 กว่าปีแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปลี่ยนรถยนต์น้ำมันในอเมริกาเป็นรถยนต์น้ำมัน Hybrid แทนได้เลย แสดงว่ามันต้องมีอะไรที่ติดขัดซักอย่างที่ทำให้คนที่เคยใช้ Hybrid บางคนไม่กลับมาใช้งานมันอีกเลย
ในทางกลับกัน คนอเมริกาที่เปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าแล้วนั้นมีเพียง 2-3 % เท่านั้นที่กลับไปใช้งานรถยนต์น้ำมันครับ (ผมก็เป็นหนึ่งในผู้คนที่เปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าแล้วไม่หันหลังกลับมาใช้รถยนต์น้ำมันอีกแล้ว) ดังนั้นต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
อย่างไรก็ตาม ทางโตโยต้าได้ออกมาบอกว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นขายได้น้อยมากๆ ในอเมริกาโดยให้ข้อมูลเอาไว้ดังนี้
ปีที่แล้ว อเมริกาขายรถยนต์ไฟฟ้าได้เพียง 2 % ของปริมาณยอดขายรถยนต์ทั้งประเทศ การจะเปลี่ยนถ่ายไปเป็นรถยนต์ไฟฟ้านั้นไม่ใช่ง่ายๆ แน่นอน อเมริกาต้องสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก, สร้างโรงงานผลิตแบตเพิ่มขึ้น, ทำให้ลูกค้ายอมรับเรื่องรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่านี้, และสร้างระบบจ่ายไฟที่ดีกว่านี้
โตโยต้า
ก็ไม่ผิดที่โตโยต้าจะมองแบบนั้นครับ แต่ที่ผิดคือเค้าไม่ยอมพูดเกี่ยวกับปีนี้และปีถัดๆ ไปว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงยังไงบ้าง ยังไง Blink Drive จะทำการเสนอข้อมูลทั้งสองฝั่งให้ดูนะครับ ปีที่แล้วอเมริกาขายรถยนต์ไฟฟ้าได้เพียง 345,000 คันกว่าๆ(2%)เองแต่ปีนี้มีการคาดการณ์ว่าจะขายได้ 585,000 คัน และปีถัดๆ ไปก็จะเพิ่มขึ้นอีกครับ
BLINK DRIVE TAKE
อย่างที่โตโยต้าพูดมานั้นก็ไม่มีผิดคือ การพัฒนาเปลี่ยนไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงแรกนั้นมีแต่ขาดทุนเพราะต้องสร้างทีมงาน R&D ใหม่ทั้งทีม แถมจะให้มาขายรถยนต์ไฟฟ้าแข่งกับรถยนต์น้ำมันของค่ายตัวเองก็เหมือนกำลังเอามีดมาหั่นแขนตัวเองเพื่อขายแทนเนื้อหมูหน้าเขียง เพราะลองคิดตามกันดูนะครับ ถ้าเราเป็นโรงงานผลิตรถยนต์น้ำมันซึ่งผลิตขายได้เดือนล่ะ 10,000 คัน แต่ปรากฏว่าพอขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มเข้าไปด้วยยอดขายดันกลับเท่าเดิมเพราะ demand ก็มีเหมือนเดิม แต่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ามาเบียดรถยนต์น้ำมัน เช่น ขายรถยนต์ไฟฟ้าได้ 2,000 คัน, ขายรถยนต์น้ำมันได้(ลดลง) 8,000 คัน แล้วสมมุติง่ายๆว่าเค้าจะต้องแบ่งเงิน 1,000 บาทต่อคันไปให้ทีมงาน R&D (วิจัยและพัฒนา) และแผนกผลิตเครื่องยนต์
นั่นก็แปลว่าจากที่ R&D และทีมงานผลิตเครื่องยนต์จะได้เงินลดลง 2 ล้านบาทต่อเดือน แบบนี้ก็เท่ากับว่าต้องเปลี่ยนถ่ายบุคลากรหรือปลดคนออกเพื่อให้คนภายในอยู่ได้ต่อแหละครับ
เรามาดูกันว่าอเมริกาจะตอบรับยังไงกับเกมส์กระดานเกมส์นี้นะครับ
