Site icon Blink Drive

ทดสอบอินเตอร์เน็ตดาวเทียม Starlink ตอนหิมะตก

ก่อนอื่นผมขอ recap (ทบทวน)ความทรงจำเกี่ยวกับดาวเทียม Starlink กันก่อนนะครับว่า

ดาวเทียม Starlink คืออะไร?

เดี๋ยวผมขอแนะนำดาวเทียม Starlink แบบคร่าวๆ กันก่อนน่ะครับ บริษัท SpaceX ตั้งใจผลิตและออกแบบดาวเทียมที่มีขนาดเล็กน้ำหนักอยู่ที่ 260 กิโลกรัมต่างจากดาวเทียมทั่วไปที่มีขนาดใหญ่กว่าเกือบ 3 เท่าน่ะครับ อย่างดาวเทียมไทยคมของไทยเรามีขนาดที่ 629 กิโลกรัมครับ

และที่สำคัญดาวเทียมเหล่านี้โคจรใกล้โลกกว่าดาวเทียมทั่วไปถึงเท่าตัวเลย ทำให้สัญญาณของดาวเทียม Starlink นั้นทำได้ดีและแม่นยำกว่าดาวเทียมทั่วไปน่ะครับ

การปล่อยดาวเทียมของ starlink ขึ้นไปยังอวกาศนั้นไม่เหมือนการปล่อยดาวเทียมทั่วไปครับ เพราะการปล่อยดาวเทียมทั่วไปขึ้นไปยังอวกาศจะมีดาวเทียมติดไปเพียง 1-2 ดวง แต่ของ Starlink นั้นจะมีการจัดวางเป็นรูปแบบ stack(ชั้นๆ)แบบรูปด้านล่างนี้ซึ่งสามารถบรรจุดาวเทียมได้มากถึง 60 ดวงต่อการจัดส่ง 1 ครั้งครับ

โดย SpaceX ตั้งใจจะปล่อยดาวเทียมให้มากถึง 1,584 ดวงภายในเฟสแรกครับ ซึ่งตอนนี้ปล่อยไปได้ 775 ดวงแล้วครับ โดยเค้าคาดการณ์ว่าแค่เฟสแรกก็สามารถคลุมโลกได้ทั้งใบแล้วครับ

หน้าตา ดาวเทียม Starlink ซึ่งถูกปล่อยขึ้นไปบนท้องฟ้าทั้งหมด 775 ดวงแล้ว ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2020

ส่วนเป้าหมายของ SpaceX นั้นคือทำการปล่อยดาวเทียมขึ้นไปโคจรรอบโลกให้ได้ 12,000 ดวงครับ ซึ่งเค้าบอกว่าถ้าทำสำเร็จ Internet ของเค้าจะเร็วและถูกที่สุดในโลกครับ

ณ ปัจจุบัน Microsoft ได้จับมือกับ SapceX สร้างบริษัทให้บริการทางด้านมือถือผ่านสัญญาณดาวเทียมขึ้นมาแล้วครับโดยจะเริ่มเปิดให้บริการทั่วโลกภายในปลายปีหน้าอีกด้วยครับ(2021)

การใช้งานจริงวิ่งได้ 18-60 Mbps

หลังจากที่ประชาชนได้จับจองเป็นเจ้าของ Internet Starlink กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเค้าก็ได้ทำการทดสอบสัญญาณ internet จากดาวเทียม Starlink ปรากฏว่าสัญญาณ Internet ที่พวกเค้าได้รับนั้นอยู่ที่ประมาณ 18 Mpbs จนสามารถรับได้สูงสุดที่ 60 Mbps ครับ ส่วนผลการทดสอบนี้อยู่ด้านล่างนี้ครับ

ใช้งานวันหิมะตก

มี Youtuber ชื่อ Muskoka Republic ได้ทำการทดสอบเชคความเร็วอินเตอร์เน็ต(Internet Speed Test) ในวันที่หิมะตก ณ เมือง ออนตาริโอ้ ประเทศแคนาดา จะได้เห็นว่าหิมะนั้นปกคลุมจามดาวเทียม Starlink แถมวันที่ทดสอบนั้นเป็นวันที่ฟ้าปิดนะครับ หรือจะเรียกได้ว่าสภาพอากาศย่ำแย่ยิ่งกว่าวันที่ฝนตกอีกครับ แถมตัวหิมะที่ปกคลุมบนจนนั้นทำให้การรับสัญญาณ drop ไปมากกว่าวันที่ต้องเจอฝนอีกครับ

ความเร็ว Internet วิ่งที่ 50/18 mbps

หลังจากได้ทำการทดสอบความเร็ว internet ดูแล้ว ปรากฏว่าผลลัพธ์ที่ได้มานั้นคือ download speed ที่ 50 mbps และ upload speed ที่ 18.6 mbps

หลังจากนั้นแกเลยลอง Internet Test รอบที่ 2 ชปรากฏว่าผลลัพธ์ที่ได้มานั้นคือ download speed ที่ 19.9 mbps และ upload speed ที่ 12.8 mbps หรือเรียกได้ว่า เอา internet ตัวนี้มาดู netflix ก็ไม่กระตุกครับ แถมถ้าดู ping (เป็นค่าที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนอง หรือความเร็วของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต) จะเห็นว่าอยุ่แถว 37 ms ซึ่งถือว่าใช้ได้เลยทีเดียวครับ

หมายเหตุ : ถ้า ping เกิน 80 ms ก็จะเริ่มกระตุกเวลาเล่นเกมส์แล้วครับ

Muskoka Republic

BLINK DRIVE TAKE

ผมพอทราบแล้วว่าทำไม กสทช. ถึงกลัว internet ของ Star Link จังเลยครับ เพราะว่าต่อให้ฝนตกหรือหิมะตกก็ไม่เป็นไรเลยครับ

อ้างอิงจากข่าวด้านล่าง

.

หลังสื่อหลายสำนักทั่วโลกได้พากันรายงานกรณี Starlink บริษัทลูกของ SpaceX ที่ก่อตั้งโดย อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีมากความสามารถจากสหรัฐฯ ที่เตรียมจะลุยให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม โดยเริ่มเปิดให้ผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองผ่านเว็บไซต์ได้ที่ราคา 99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,000 บาท (คาดว่าจะเปิดให้ใช้งานทั่วโลก ครอบคลุมไทย ราวปี 2565) จนสร้างความสนใจให้กับผู้ใช้งานจำนวนไม่น้อย

.

ล่าสุดทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ออกมาให้ความเห็นต่อประเด็นดังกล่าวแล้ว โดยระบุว่า การจะให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมต่างชาติในประเทศไทยนั้น ผู้ให้บริการจำเป็นจะต้องได้รับการอนุญาตจาก กสทช. ก่อนเปิดให้บริการ และยังฝากไปถึงประชาชนว่าควรจะต้องศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจสั่งซื้อสิทธิ์ใช้งานล่วงหน้า

.

ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. (รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า ตามที่ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมที่จะเริ่มให้บริการในประเทศไทยได้ในปี 2565 ซึ่งได้เปิดให้จองล่วงหน้า (พรีออร์เดอร์) และต้องชำระเงินไปก่อนนั้น

.

สำนักงาน กสทช. ขอเรียนว่า การให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมต่างชาติในประเทศไทยต้องได้รับการอนุญาตจาก กสทช. ก่อนเริ่มให้บริการ

.

โดยจะต้องได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม และการอนุญาตให้ใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติเพื่อให้บริการในประเทศ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีผู้ยื่นขอรับอนุญาตเพื่อให้บริการดังกล่าวในประเทศไทย มีแต่เพียงการขอข้อมูลและปรึกษาการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมต่างชาติเท่านั้น

.

“ข้อมูลเกี่ยวกับการให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมฯ ที่เผยแพร่กันอยู่ในขณะนี้อาจทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน สำนักงาน กสทช. จึงขอให้ข้อมูลกับประชาชนเพื่อประกอบการตัดสินใจ ก่อนที่ประชาชนจะเสียเงินเพื่อซื้อบริการ” ไตรรัตน์กล่าว

ที่มา : https://thestandard.co/wealth/

UPDATE: กสทช. แตะเบรก อีลอน มัสก์ และอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink…

Posted by THE STANDARD WEALTH on Wednesday, February 10, 2021

และ internet ที่มาจากดาวเทียม Star link นั้นแตกต่างจากดาวเทียมทั่วไปโดยสิ้นเชิงเพราะว่าดาวเทียม star link ลอยต่ำประมาณ 550 km เอง แต่ถ้าเป็นดาวเทียมทั่วไปก็ลอยอยู่แถวๆ 1000 km ขึ้นไปครับ

ทำให้ Starlink นั้นได้เปรียบเรื่อง Latency (เวลาส่วนต่างระหว่างที่ข้อมูลเข้าไปประมวลผลในอุปกรณ์) หรือพูดภาษาชาวบ้านคือช่วงเวลาที่รับส่งข้อมูล ยิ่ง latency ต่ำก็แปลว่ารับส่งข้อมูลได้ในระยะเวลาสั้นกว่าครับ

แถมถ้า ping อยู่แถวๆ 40 ms แบบนี้ เล่นเกมส์พร้อม cast game สบายๆ ครับ อย่าลืมนะครับว่าวันนี้ Test (ทดสอบ)กันตอนฟ้าปิดและหิมะตก เคยมีคนเคยทดสอบตอนฟ้าเปิดแล้วได้ผลดังนี้ครับ

ping 20 ms นั้นถือว่าแจ่มมากๆ เลยนะครับ แถม internet speed download ก็อยู่แถวๆ 76 mbps ถือว่าไม่เลวเลยครับ

ยังไงผมมองว่า ถ้าเราอยู่ในตัวเมืองนั้นการใช้งาน internet ผ่านดาวเทียมแบบนี้คงเปลืองเงินแน่นอนเพราะค่าบริการรายเดือนของ Star link นั้นอยู่ที่เดือนล่ะ $99 หรือ 3,000 บาทครับ

แต่ถ้าเราอยุ่ในพื้นที่ชนบทหรือติดตั้ง 1 หมู่บ้านแล้วแชร์ internet ทั้งหมู่บ้านดูล่ะก็ ราคา 3,000 บาทนั้นถือว่าเป็นราคาที่น่ารักเลยนะครับ

ประสบการณ์ส่วนตัว : ผมเคยทำงานอยู่อินเดียในพื้นที่ชนบท(กันดานแบบว่า internet มือถือยังเป็นแค่ 3G หรือบางทีก็ไม่มีสัญญาณครับ ส่วนเรื่องไฟฟ้านี่ไม่ต้องพูดถึง ไฟดับวันล่ะ 5 รอบ รอบล่ะ 1-2 ชั่วโมงครับ) แล้วต้องขอ internet จาก ISP มาใช้ เค้าคิดเงินผมประมาณ 250,000 รูปี(110,000 บาท)ต่อเดือนสำหรับ internet ADSL เส้นนั้น โดยตอนได้มานั้น internet speed อยู่ที่ 4 Mbps และ ping อยู่แถวๆ 80-120 ms แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ internet ใช้งานได้เพียง 3 วันต่อ 1 สัปดาห์ครับ โดยเค้าให้เหตุผลผมว่า โรงงานที่ผมไปประจำนั้นเป็นโรงงานเดียวในระแวกนั้นที่ใช้ internet ดังนั้นเค้าบอกเลยว่าไม่คุ้มค่าที่ติดตั้ง internet เส้นนี้ให้ผม ถ้าวันนี้ผมยังอยู่อินเดีย ผมอาจจะใช้สั่งจอง Starlink อันนี้มาใช้งานก็เป็นได้ครับ

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

Exit mobile version