Blink Blink
TeslaUSA

Tesla Model 3 แข่งชนะในสนาม Buttonwillow แต่ถูกปรับแพ้ เพราะไม่ได้เติมน้ำมันมาแข่ง

วันนี้ ผมมีนิทานของอเมริกามาเล่าให้ฟัง
นิทานเรื่องนี้มีชื่อว่า YOU CAN’T WIN THE FUTURE

นิทานเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ณ เมือง  Buttonwillow รัฐ คาลิฟอร์เนีย ณ ปี 2018 หรือเมื่อ 3 ปีที่แล้วครับ

รูปภาพสนามแข่ง Buttonwillow

เหตุเกิดโดยที่ มีชาวอเมริกาคนนึงชื่อ Cameron Rogers ซึ่งเป็นนักแข่งรถมือสมัครเล่นเอารถยนต์ไฟฟ้า tesla model 3 ที่ผ่านการโมดิฟายอย่างเดียวคือ เปลี่ยนโช๊คหน้า-หลัง จากสำนัก  Mountain Pass Performance ไปลงสมัครแข่งขัน circuit รุ่น ขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) street tire class

Rogers(โรเจอร์) ได้รางวัลชนะเลิศเป็นอันดับสองในรุ่น Enthusiast (สมัครเล่น) โดยทำความเร็วต่อรอบ(laps time) ได้ที่ 2:00.78 (อันดับ 1 ทำความเร็วต่อรอบ(laps time) ได้ที่ 1:59.12)

วิดีโอการแข่งขัน

วิดีโอบันทึกการแข่งขันของ นาย roger ผ่านกล้อง gopro

ถ้าผมไม่ได้บอกว่า นี่คือรถยนต์ไฟฟ้า คุณดูวิดีโอเฉยๆ จะแยกออกไหมระหว่างรถยนต์ ice กับ รถยนต์ไฟฟ้าเพราะการเข้าโค้ง การเร่งนั้น แทบจะไม่ต่างอะไรกับรถยนต์ ICE ไปซะแล้ว
แรงไม่ตกด้วย ผมเห็น understeering หลาย shot อยู่น่ะ ฮ่า ๆ

โรเจอร์โกงการแข่งขัน?

ปัญหามันไม่ได้เกิดตรงนั้นน่ะครับ ปัญหามาเกิดหลังจากที่คุณ Roger ได้รับชัยชนะต่างหาก

หลังจากการแข่งขันจบ ทีมงานของสนามก็เอานักแข่งแต่ล่ะท่านขึ้นมารับรางวัลบน podium น่ะครับ

พอคุณ Roger(โรเจอร์) เดินขึ้นไปรับรางวัล ไอ่นักแข่งที่ได้อันดับถัดจากคุณ Rogers ไม่พอใจ ก็เลยไปบอกกรรมการการแข่งขันว่า Roger(โรเจอร์) โกงการแข่งครับ

เค้าไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาว่าคุณโรเจอร์เพราะใช้อุปกรณ์ safety และยางรถถูกต้องตามการแข่งขันทุกอย่าง คู่แข่งก็เลยบอกว่า คุณ Roger (โรเจอร์)ไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงที่กฏการแข่งขันกำหนดมาให้

เชื้อเพลิงที่สนามกำหนด

กฏที่ทางสนามเขียนเอาไว้คือ Only unleaded gasoline or Diesel may be used as fuel. No Ethanol, E-85, leaded, methanol or exotic fuels allowed as the primary fuel. Water/Methanol injection is allowed in a maximum of 50% methanol mix.

แปล – รถยนต์ที่เข้าแข่งต้องใช้แค่

  • Unleaded gasoline  = น้ำมันเบนซิน 91 ธรรมดาที่เราเติมกัน
  • Diesel = น้ำมันดีเซล
  • No Ethanol, E-85, leaded, methanol or exotic fuels allowed as the primary fuel – ห้ามใช้ น้ำมันเอเธอร์นอล น้ำมัน E-85, น้ำมัน 95, หรือ น้ำมันพิเศษทุกชนิด

ความเห็นของผม ก็รถยนต์ไฟฟ้ามันจะไปเติมน้ำมันได้ยังไงว่ะ

รถเดิมเกือบทั้งคัน

ประเด็นอีกเรื่องคือ ตอน คุณ roger เอารถ tesla model 3 คันนี้ไปตรวจสภาพก่อนแข่งกับทางเจ้าหน้าที่สนาม เพื่อเชคว่า ทุกอย่างเป็นของโรงงาน(OEM) เช่น ยาง, เครื่องยนต์, aerodynamic system, ตัวถัง แต่มีของแค่ 2-3 ชิ้นที่เป็นของแต่งคือ สปอย์เลอร์หลัง, โช๊ค, กับล้อ แค่นั้นเองครับ

รูปภาพ : จะเห็นได้ว่าคุณโรเจอร์(มือสมัครเล่น)ขับ Tesla Model 3 เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 2:00:078 ได้ที่สองของรายการ ซึ่งช้ากว่าที่หนึ่งเพียง 1 วินาที

คู่แข่งของ tesla model 3 ในสนามนี้

อันดับหนึ่งของสนามคือ Subaru STI Type RA ทำเวลาได้ที่ 01:59.188

อันดับสองของสนามคือ Mitsubishi Lancer Evolution ทำเวลาได้ที่ 02:03.822

อันดับสามของสนามคือ Subaru Impreza WRX ทำเวลาได้ที่ 02:04.624

คลิปวิดีโอทั้งหมดที่ทางคุณ roger ได้ทำการแข่ง
นาทีที่ 6.05 ทีมงานเอารถยนต์ไฟฟ้าไปชาร์จไฟ
นาทีที่ 13.43 คุณ roger เอารถไปวิ่งในสนาม
นาทีที่ 17.15 คุณ Roger ถูกไล่ลงจากเวทีเพราะผิดกฏการแข่งขัน (เอารถที่ไม่ได้เติมน้ำมันที่เค้ากำหนดมาลงแข่ง)
นาทีที่ 17.54 คุณ Roger ตะโกนว่า “You can’t fight the future man.!”

คุณโรเจอร์แข่งชนะได้ที่ 2 ของรายการและถูกเรียกให้ขึ้นไปรับรางวัลแล้ว แต่ปรากฏว่าทีมจัดงานได้รับแจ้งมาอีกทีว่า “รถยนต์คันนี้ไม่ผ่านการตรวจสอบเพราะไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงที่กำหนด”

ก่อนลงจากเวทีคุณโรเจอร์ได้พูดทิ้งท้ายเอาไว้ว่า “You can’t fight the future” ซึ่งแปลว่า คุณเอาชนะ(รถ)อนาคตนี้ไม่ได้หรอก

BLINK DRIVE TAKE

ลองคิดเล่นๆ กันนะครับ ในปี 2018 นั้น Tesla Model 3 รุ่น Performance ยังไม่ได้รับ patch update จาก Tesla ซึ่งอัตราเร่ง 0-100 km/h ของรถยนต์ไฟฟ้า Model 3 Performance คันที่คุณโรเจอร์ขับนั้นอยู่แถวๆ 3.5 วินาทีครับ

มาปี 2021 นี้ Tesla Model 3 Performance ทุกรุ่นนั้นมีอัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 3.1 วินาทีกันหมดแล้วครับ ดังนั้นถ้าคุณโรเจอร์ได้กลับไปขับสนามนี้อีกที ผมมองว่าเวลาที่ทำได้ในรุ่น ขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) street tire class คงทะลุที่หนึ่งไปอย่างแน่นอนครับ

อย่างไรก็ตามแค้นนี้ต้องชำระครับ คุณโรเจอร์ก็ได้กลับไปขับที่สนาม Buttonwillow ในปี 2019 (ปีถัดมา) แล้วเค้าได้ทำลายสถิติของตนเองที่เคยทำเอาไว้ที่ 2:00:078 เป็น 1:58.7 หรือเรียกได้ว่าขับได้เร็วกว่าที่หนึ่งในปี 2018 นั้นอยุ่ 1 วินาทีครับ

เอาล่ะครับ ผมมีวิดีโอสถิติใหม่ของคุณโรเจอร์เอาไว้ด้านล่างนี้นะครับ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า You can’t fight the Future, Man !!

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

Follow by Email