Site icon Blink Drive

จับคนชนแล้วหนีด้วย Tesla Sentry Mode

สวัสดีครับ วันนี้ Blink Drive ได้มีโอกาสนำเรื่องราวของคนไทยในอเมริกา (คุณไช้ หรือ Chai Chatchai) ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 มาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกันนะครับ ยังไงแล้วข้อความด้านล่างทั้งหมดนี้เป็นของคุณไช้น่ะครับ

ก่อนจะเข้าเรื่องของคุณไช้ ผมขอสรุปเรื่องราวสั้นๆ เอาไว้ตอนนี้ คือ คุณไช้ได้จอดรถเอาไว้ในที่จอดรถสาธารณะ แล้วปรากฏว่ามีรถยนต์ SUV ยี่ห้อ Hyundai ขับมาจอดข้างๆ แต่ตอนออกตัวจากที่จอดรถนั้นปรากฏว่า รถ SUV คันนั้นหักแรงไปหน่อย ทำให้ท้ายรถไปชนกับกันชนหน้ารถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ครับ

มันจึง triggle ระบบ Sentry Mode (เฝ้าระวัง)ของ Tesla ให้ตื่นขึ้นมาเพื่อทำการบันทึกข้อมูลเหล่านั้นเอาไว้ครับ โดยโหมดนี้จะเปลี่ยนรูปแบบกล้องทั้ง 6 ตัวรอบคันให้กลายเป็นกล้องวงจรปิดชั่วคราวครับ ทำให้คุณไช้สามารถเก็บภาพเพื่อนำมาเล่าสู่กันฟังได้ครับ

Day 1 : โดนชน

หลังจากที่รู้ตัวว่ารถผมโดนชนก็ วันถัดมาผมก็โทรหาตำรวจ เเล้วก็ส่งคลิป sentry ที่ Tesla ถ่ายไว้ให้ตำรวจเเล้ว สองสามวันถัดมาผมก็เจอรถที่ชนผม ซึ่งจอดอยู่ในชั้นที่จอดรถเดียวกัน ผมก็โทรเรียกตำรวจอีกที เเล้วตำรวจก็เขียน report เกี่ยวกับ accident ให้ครับ ผมก็เลยเขียน note บอกเจ้าของรถคันนั้นไว้ เเล้วเจ้าของก็ติดต่อมา สรุปเป็นลูกน้องเค้าที่ขับ ซึ่งเจ้าของเค้าก็ขอคลิปจาก Tesla เพราะมีลูกน้องเค้าหลายรถที่ขับรถคันนั้น โชคดีที่ Tesla ผมบันทึกภาพลูกน้องเค้าคนขับชนได้ เลยให้ลูกน้องเค้าชดใช้ให้ โดยที่ผมได้เลขประกันของลูกน้องเค้าคนนี้ เเล้วก็ติดต่อบริษัทประกันเค้า เเล้วก็ถ่ายรูปส่วนที่โดนชนให้เค้าดู

รูปภาพ : แผลที่โดนเฉี่ยวชน

ติดต่อศูนย์ Tesla เพื่อซ่อม

ขั้นตอนการเอารถไปซ่อมของ Tesla นี่ทุกอย่างอยู่ใน Tesla app ครับ เริ่มจากเข้าไปที่ service เเล้วก็ใส่ไปว่าต้องการให้เค้าซ่อมอะไร เเล้วก็อัพโหลดรูปส่วนที่โดนชนให้เค้าดู เเละสุดท้ายก็เลือก Tesla service สาขาที่เราต้องการจะเอารถไปซ่อม เเละก็วันเวลาที่จะเอาไปซ่อมครับ

ค่าซ่อม : 35,526 บาท($1,146)

พอส่ง service request ไป หลังจากนั้น Tesla ก็ส่งราคาประเมินค่าซ่อมมาให้(ดูในรูปด้านล่าง) ซึ่งถือว่าเร็วมากๆ ไม่รู้ว่าเค้าใช้คนหรือ A.I. (หุ่นยนต์) ในการประเมินว่าจากรูปที่ผมอัพโหลดไปให้ เเถมยังประเมินราคาค่าซ่อมให้พร้อม เอาก็เอาใบประเมินราคาค่าซ่อมนี้ไปให้บริษัทประกันของคนที่ชนผม

หมายเหตุ : OMG ค่าซ่อมตัวถัง Tesla นั้นน่าจะแพงเกือบที่สุดในโลกแล้วครับ ดังนั้นใครก็ตามวางแผนจะสมัครเป็นคนซ่อมเทสล่าในอนาคตก็อยากจะฝากบอกให้ทราบครับว่ามาถูกทางแล้ว

คุณไช้กล่าวอีกว่า “ปกติเวลาเอารถไปซ่อมที่ศูนย์ รถยี่ห้ออื่นเค้าจะของ contact ของประกันเเล้วเค้าจะไปจัดการกันเอง เเต่ Tesla น่าจะเป็นบริษัทเดียวที่จะไม่ยอมคุยกับประกัน Tesla เค้าบอกให้ผมไปคุยกับประกันเอง บริษัทประกันจะต้องโอนเงินค่าซ่อมให้ผมก่อนเเล้วผมค่อยเอาไปจ่าย Tesla อีกที”

หมายเหตุ : ที่อเมริกานั้นเวลาชนกันเสร็จแล้วก็ขอแลกประกันและส่วนใหญ่คือ ถ้าเรามีประกันชั้นหนึ่ง บริษัทประกันจะทำการเจรจา(บริการอย่างดี)ให้เราทั้งหมด แต่ประกัน Tesla นั้นค่อนข้างหยิ่งไม่เหมือนประกันทั่วไปครับ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเราเป็นฝ่ายถูกหรือผิดแต่ถ้าจำเป็นต้องซ่อมกับ Tesla แล้ว รับรองครับบิลค่าซ่อมนั้นแพงอย่างนรกเลยนะครับ

ซ่อมรถไวมาก แค่ 20 นาทีเท่านั้น

พอถึงวันซ่อมผมนัดเวลา 8 โมงเช้า Tesla เค้าก็ส่งข้อความอัตโนมัติมาว่าให้จอดรถทิ้งไว้ที่ลานจอดรถที่ Tesla service ได้เลย เพราะช่วงโควิทเค้าเลยมีมาตรฐาน social distancing ผมเองก็สงสัยว่าผมต้องทิ้ง Tesla key card ไว้ให้ช่างที่จะเอารถผมไปซ่อมเพื่อปลดล็อกหรือเปล่า ผมเลยโทรไปถาม Tesla อีกที เค้าก็บอกว่าไม่ต้องทิ้งอะไรไว้เลยเหมือนที่ศูนย์ซ่อมรถ Tesla เค้าสามารถส่งสัญญาณมาปลดล็อคที่รถผมได้ เเล้วเค้าสามารถรู้ได้ว่ารถผมจอดตรงไหนทั้งที่มี Tesla คันอื่นจอดอยู่เป็นสิบๆคัน

ระหว่างที่ผมรอรถจากบริษัทเช่ารถอยู่ Tesla ก็ส่งข้อความมาเเจ้งว่ารถผมจะซ่อมเสร็จภายในวันนี้ ผมเลยโทรไปถาม Tesla อีกทีว่าเค้าจะซ่อมเสร็จประมาณกี่โมง เเต่พนักงาน Tesla คนนั้นก็บอกว่าคำว่าภายเสร็จภายในวันนี้คือ รถสามารถซ่อมเสร็จได้ตั้งเเต่ นาทีนี้ไปจนถึงเวลาที่ Tesla Service ปิด

ป.ล. พนักงานคนนี้ตอบได้กวน มาก ซึ่งจริงๆก็ถูกของเค้า ซ่อมเสร็จภายในวันนี้คือ เสร็จตอนไหนก็ได้ก่อนปิด ซึ่งถ้ารถซ่อมเสร็จเเล้วเค้าจะส่ง sms บอก

หลังจากที่ผมได้รถเช่าที่บริษัทประกันเช่าให้(เค้าเช่าให้ 7 วัน) ผมก็ขับรถกลับมาที่บ้าน พอผมถึงบ้าน ยังไม่ทันได้นั่ง ซึ่งเป็นเวลาประมาณ 8.30 Tesla ก็ส่งข้อความมากบอกว่ารถผมซ่อมเสร็จเเละ ผมสามารถชำระค่าซ่อมได้ผ่านใน Tesla app ได้เลย ซึ่ง Tesla ใช้เวลาซ่อมรถผมเเค่ 20 กว่า นาที ผมแอบเซ็งนิดหนึงเพราะผมต้องเสียเวลาขับรถที่เช่ากลับไปที่ Tesla service อีก ถ้าผมรู้ว่าเค้าจะเสร็จเร็วขนาดนี้ ผมก็จะไม่ขับกลับมาบ้านให้เสียเวลา

พอผมกลับไปเอารถ ผมก็ต้องมาหาว่ารถผมคือคันไหนเพราะมีรถ Tesla Model 3 สีขาวเหมือนรถผมอยู่หลายคัน ที่ Tesla Service เค้าไม่ให้พนักงานเค้าเจอตัวกับลูกค้าที่เอารถมาซ่อมเลย ทั้งตอนส่งรถหรือรับรถ ทุกอย่างคุยกันผ่าน sms

ผมเลยตัดสินใจคืนรถเช่าทันที ทั้งที่ผมสามารถใช้รถที่เช่ามานี้ได้ต่อเพราะเค้าเข่าให้ผม 7 วัน เเต่ผมไม่อยากจะขับรถที่ใช้น้ำมัน เเถมขี้เกียจต้องมาดูเเลรถเช่านี้เเถมต้องเสียค่าเติมน้ำมันให้เค้าอีก ผมเลยคืนรถทันที

Blink Drive Mini (เสริม) : การซ่อมรถยนต์ในอเมริกาไม่ว่าเราจะซ่อมเครื่องยนต์หรือตัวถังรถนั้น ทาง dealership หรือศูนย์ให้บริการของบริษัทรถยนต์จะต้อง provide(จัดหา)รถเช่ามาให้เราขับระหว่างรอซ่อมรถน่ะครับ ไม่งั้นเค้าก็อาจจะให้ gift card voucher ของ Uber มาให้เรานั่งไปไหนมาไหนประมาณ $100-$200 แล้วแต่เคสครับ

รูปภาพ : หลังซ่อมเสร็จ

สรุปจากคุณไช้

สรุป Tesla ใช้เวลาซ่อมรถผมเเค่ 20 กว่านาที ขั้นตอนต่างๆ ตั้งเเต่นัดเอารถไปซ่อม ชำระเงิน เเละเวลาไปรับรถ ทุกอย่าง ผ่าน Tesla app เเล้วเค้าส่ง sms คอยบอกขั้นตอนต่างๆ เเละ คอยอัพเดตว่ารถซ่อมเสร็จยัง

ประสบการณ์โดยรวมถือว่าดี เเต่ที่ต้องปรับปรุงคือ customer service พนักงานที่ตอบคำถามค่อนข้างกวนไปนิด ตัวผมเองเป็นผู้ชายเเถมเป็น Tesla fanboy ผมไม่คิดมากอยู่เเล้ว เเต่ถ้าไปเจอลูกค้าที่เค้าค่อนข้างจะเเคร์เรื่อง service mind นี่เค้าจะจดจำเอาประสบการณ์ไม่ดีเเบบนี้ไปบอกคนอื่น เเล้วมันจะทำให้ภาพลักษณ์ของ Tesla ดูไม่ดีได้ ซึ่งผมก็ได้ยินมากเยอะว่า customer service ไม่ค่อยดี ซึ่งวันนี้ก็ได้เจอกับตัวเอง

BLINK DRIVE TAKE

Sentry Mode หรือโหมดรักษาความปลอดภัยของ Tesla นั้นเป็นมาตราฐานที่ติดมากับรถทุกรุ่นครับ แต่อย่างไรก็ตามผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ทุกคนต้องซื้อ SSD หรือ Handy Drive (หน่วยความจำเสริม)มาเสียบกับรถเองน่ะครับ ไม่งั้นมันจะไม่บันทึกข้อมูลให้ครับ

ส่วนการกินไฟของ Sentry Mode นั้นจะอยู่ที่ 1-2 % ต่อชั่วโมงครับ ดังนั้นไม่แนะนำให้เปิดทิ้งเอาไว้ในบ้านครับเพราะเราก็รู้กันอยู่แล้วว่าในบ้านในปลอดภัย โหมดนี้จะถูกใช้เวลาเอารถไปจอดข้างนอกบ้าน เช่น หน้าบ้าน, ห้างฯ, และที่ทำงาน เพื่อให้กล้องมันบันทึกตลอดเวลาที่มีรถหรือคนเดินผ่านครับ

ยังไงก็ตามผมทิ้งวิดีโอที่คนขับ Tesla จับภาพแปลกๆ เอาไว้ระหว่างใช้งานตรงนี้น่ะครับ

Stay tune, stay with BLINK DRIVE

Exit mobile version